ความรู้สึกลึกๆ ในใจของ แอน สิเรียม หลัง ถูกวิจารณ์แต่งงาน 3 รอบ

แอน สิเรียม เผยความรู้สึกลึกๆในใจ ถึงคำวิจารณ์ ว่า เป็นผู้หญิงที่แต่งงาน หลายครั้ง ว่า ไม่มีใครอยากจะผิดหวัง และ ล้มเหลว ในชีวิตคู่หลายต่อหลายครั้งหรอก!?

“หลังจากที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ย้ายไปอยู่อังกฤษกับลูกสาว ตอนนั้นลูกก็เข้าวัยรุ่น ต้องไปศึกษาต่อต่างประเทศ เราก็เลยตามไปดูแลในช่วงนั้น เพราะว่าแอนเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนที่เป็นซิงเกิ้ลมัมตอนนั้นเราก็ต้องทำงานไปด้วย ดูแลลูกไปด้วย ก็เป็นช่วงชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบากพอสมควร เราต้องย้ายถิ่นฐานจากที่เราอยู่ประเทศไทยสบายๆ เราก็ต้องไปช่วยตัวเอง มากขึ้นในส่วนต่างๆ ทั้งงานบ้าน การทำอาหาร แอนต้องบอกว่าแอนทำอาหารไม่เป็นเลยนะ แอนเรียนรู้จากการที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ 4 ปีที่ผ่านมา”

“จริงๆ ต้องบอกว่าไม่ได้อยากจะปิดบังอะไรทั้งสิ้น อยากจะบอก เราก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แล้วเราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว โตแล้วขนาดนี้บางทีเราจัดแค่ญาติพี่น้อง เราไม่ได้โทรไปบอกสื่อ แล้วสามีก็อยู่ที่อังกฤษอยู่ที่ลอนดอนก็เลยจัดงานที่นั่น ก็จะเป็นแฟมมิลิแอนด์มาร์ ส่วนใหญ่จะเป็นแขกทางฝ่ายชายซะมากกว่า ไม่ได้ปกปิดอะไรเลย แฟนเขาก็จะรู้ก่อนอยู่แล้วว่าเราเคยเป็นนักแสดง เคยทำงานในวงการบันเทิงมา เขาก็บอกว่าขอสงวนลิขสิทธิ์ได้ไหม เขาอยากใช้ชีวิตธรรมดา เรียบๆ ไม่ต้องให้ลงรูปเขา เขาเขออนุญาติมาก็เลยกราบขอประทานอภัยที่ไม่ได้โชว์รูปให้ดู”

“แอนก็ไม่เคยนับอย่างจริงจัง ก็น่าจะประมาณ 4-5 ปีค่ะ แต่ว่าคุณสามีนี่รู้จักกันที่ประเทศไทยก่อนนะคะ เขาก็ชอบเมืองไทย เขาอยู่เมืองไทยมาประมาณ 10 ปีแล้วนะคะ แล้วก็บังเอิญมีโอกาสไปเจอกันที่รีสอร์ท เขาก็ขอเบอร์ ก็คุยกันเป็นเพื่อนกัน พอแอนย้ายไปอยู่ที่อังกฤษตอนแรกย้ายไปอยู่กับพี่สาวก่อน พี่สาวเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นั่น แล้วก็แต่งงานมีครอบครัวอยู่แล้ว”

“จริงๆ คบกันเป็นเพื่อนมากกว่า เพราะเราก็ค่อนข้างลังเลว่าเราจะแต่งดีไหม หรือเราจะอยู่กันไปเฉยๆ ทางฝ่ายชานเขาบิอกว่าเขาก็ยังไม่เคยแต่ง เขาก็บอกว่าคนอังกฤษเขาก็ถือ ถ้าจะอยู่ด้วยกันก็ต้องแต่งงานกัน คือเขาให้เกียรติเรา ซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าลูกเราก็โตมาขนาดนี้แล้ว”

“เขาก็ต้องอายุมากกว่าแอนสิค่ะ แอนไม่ชอบเด็กค่ะ(หัวเราะ) 54 ค่ะ ปีนี้ 54”

เลิกกันคนก็เม้าท์ แต่งงานใหม่คนก็เม้าท์ รู้สึกยังไง ?

“บางครั้งบางวูบมันก็มีน้อยใจ มีน้อยเนื้อต่ำใจบ้างว่าคนเราก็น่าจะเข้าใจว่าไม่มีใครที่อยากจะเป็นแบบนี้ แต่มันช่วยไม่ได้ ในเมื่อมันไม่ถูกวิถีกัน ถ้าอยู่เราก็ทุกข์ สู้เราแยกกันเดินแล้วเราต่างคนต่างเดินด้วยสิ่งที่เราชอบแอนก็มองว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วเราก็เริ่มต้นใหม่ จริงๆ เราจะพูดว่าเราจะไม่แคร์สังคมไม่ได้นะคะ เราต้องทำความเข้าใจกับสังคมมากกว่า ในเมื่อสังคมเป็นแบบนี้ เราก็เข้าใจ แต่อย่างที่บอกว่าแอนไม่ได้มีชีวิตอยู่กับสังคม แอนอยู่กับคนที่เรารัก คนที่เราแคร์ ครอบครัวมากกว่า”

“รู้สึกสิคะแอนก็เป็นคนคนหนึ่ง(ยิ้ม) ก็เสียใจ แต่บางทีก็ไม่เป็นไร ช่วยไม่ได้ในเมื่อเราเป็นคนที่เขาให้ความสนใจเรา บางทีเราอาจจะทำไม่ถูกใจเขา เราไม่สามารถทำให้ถูกใจคนทั้งโลกใบนี้ได้”

“แอนว่าคงไม่จำเป็น เพราะแอนไม่สามารถอธิบายให้คนเป็นร้อยเป็นพันได้ ก็แล้วแต่เลยตามสบาย แต่ว่าถ้าเป็นคนที่เคยเขจอเรา แล้วรู้จักเราเป็นการส่วนตัวเขาก็จะรู้ว่าเราเป็นคนยังไงมากกว่า”

“ก็ทราบค่ะ เราก็บอกเขาว่าเนี่ยแม่จะแต่งงานนะ เขาก็บอกว่าดีแล้ว แต่งไปจะไกด้มีคนดูแลแม่ แอนก็บอกอ่าวแล้วเธอจะไม่ดูแลฉันเหรอ(หัวเราะ)”

“นนนี่บอกว่าไม่อยากมี หนูอยากจะเป็นหนึ่งเดียวคนนั้น(หัวเราะ) ทำไมลูกสาวเป็นแบบนี้ล่ะคะ(หัวเราะ) เขาจะเป็นเด็กแบบนี้เวลาเขาจะพูดอะไรเขาจะเป็นเด็กที่ตรงมาก(ยิ้ม)”

“คิดไว้นะคะ ตอนนี้น้อง(ลูกสาว)ก็อยู่ปี 2 ก็แพลนว่าอาจจะต้องย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยมากหน่อย แต่นนนี่คงจะให้เรียที่โน้นจนจบ แต่หมายถึงตัวแอนเองงานก็ค่อนข้างเยอะช่วงนี้ เราก็ต้องเรียนด้วยก็เลยมีความรูสึกอาจจะต้องมีเวลาให้ทางนี้ซัก 70%”

“ไอ้นางเอกมันคงเป็นไม่ได้แล้ว แต่ว่าอันนี้เป็นสิ่งที่เรารัก เพราะว่าแอนเกิดได้จากงานแสดง แล้วเราก็ทำแลยปกติเหมือนมันอยู่ในสายเลือดอยู่ในจิตวิญญาณ มันเป็นงานที่เรารัก แต่งงานทางด้านการบริหารดูแลสถาบันความงาม บริษัท ซึ่งก็มีหลายแบรนด์อยู่ในเครือ แอนมีพนักงานตั้ง 800 กว่าชีวิต มันเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่แล้วเราต้องอยู่ดูแลกันมันจะทิ้งกันไปก็ไม่ได้ ก็คงจะต้องทุ่มเวลาให้กับส่วนนี้ เรื่องงานแสดงก็คิดอยู่นะ(ยิ้ม) ก็ชอบ”

บทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 10.30/14.00/20.00น. เสาร์-อาทิตย์10.30/14.30/19.30 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2