“เชน ธนา”ชีวิตสุดดราม่าเคยคิดสั้น ฆ่าตัวตาย หลังโดนมรสุมชีวิต
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย “เชน ธนา”ชีวิตสุดดราม่าเคยคิดสั้น ฆ่าตัวตาย หลังโดนมรสุมชีวิต
เชน ธนา เผยปมชีวิตสุดดราม่า เคยคิดสั้นเกือบฆ่าตัวตาย หลังโดนมรสุมชีวิต วงแตกและงานหด เหลือเงินติดตัว 300 บาท ประทังชีวิต
จากศิลปินบอยแบนด์สุดโด่งดังที่ดูเหมือนอนาคตไกลเมื่อ8ปีที่แล้ว แต่กลับพบวิกฤตชีวิตจนพลิกผันสำหรับ“เชน-ธนา ลิมปยารยะ”อดีตหนึ่งในสมาชิกวงNICE TO MEET YOU ที่ออกอัลบั้มมีผลงานเพลงให้สาวๆตามกรี้ดร่วมกับเหล่าเพื่อนอีก3คนได้แก่ แจ๊ค – จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม, ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย และ เต้ – พงศ์ธร วนะเกียรติกุล เมื่อวันหนึ่งเส้นทางชีวิตบนสายดนตรีของทั้งวงถึงจุดเปลี่ยนจนต้องประกาศยุบวง ต่างคนก็ต่างเลือกเส้นทางของตัวเอง แต่ใครจะรู้ว่าหนึ่งในนั้นอย่างหนุ่มเชน จากนักร้องวัยรุ่นสุดป็อบเคยตกอับคิดสั้นถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายมาแล้วก็เพราะมีเศษเงินในกระเป๋าก้อนสุดท้ายเหลือเพียง 300 บาท จนวันหนึ่งเค้าได้พบวิถีทางพลิกวิกฤตเป็นโอกาสจนกลายมาเป็นนักธุรกิจ 100 ล้านได้อย่างภาคภูมิ ล่าสุดเจ้าตัวเลยได้โอกาสมาขอเปิดใจที่แรกกับรายการ “รายการแฉแต่เช้า”ทางช่องGMM25 ที่มาร่วมพูดคุยอย่างหมดเปลือก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปติดตามกัน
มดดำ : “จากนักร้องวง Nice to meet u จนวันหนึ่งตกต่ำถึงขนาดไม่มีเงินซื้อข้าวกิน?”
เชน : “มันเป็นช่วงที่เราไม่ได้เผื่ออนาคตไว้ครับ พอตอนนั้นวงแตกปุ้ปก็ไม่ไดเตรียมพร้อมไว้ ก็ไม่มีเงินเข้ามาเลย”
อ้วน : “ช่วงที่พีคสุดๆตอนนั้นเงินก็เข้ามาเยอะ?”
เชน : “ใช่ ใช้เยอะ ตอนนั้นก็เข้ามาเยอะ ตอนนั้นเริ่มทำธุรกิจร้านเสื้อผ้าด้วยครับ แล้วตอนนั้นเจอจังหวะการเมืองพอดีเลยโดนปิดแยกไป แล้วร้านก็เจ๊ง วงก็แตก ตอนนั้นก็ไม่มีเงินกินข้าวเลย ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือ 300 บาท”
มดดำ: “มันจะเว่อร์ไปหรือเปล่าถ้าบอกว่าเงินจะกินข้าวยังไม่มี?”
เซน: “ไม่มี คือตอนนั้นเนี๊ย ผมรักสุนัขที่บ้านมาก ตอนนั้นผมเลี้ยงหมาพันธ์บีเกิ้ลอยู่ มันก็จะกินอาหารเม็ดเพียวๆไม่ได้ ต้องผสมพวกอาหารปรุงกลิ่นอะไรอย่างเงี๊ย ตอนนั้นตลับนึงมันก็40บาทนะ ก็ต้องซื้อให้มัน ไม่งั้นมันก็กินข้าวไม่ได้”
มดดำ: “ให้หมากินก่อน?”
เชน: “ใช่ เราก็เลยไม่มีข้าวกิน แล้วแบบมันไม่ไหวอะ มันหิวจนน้ำลายสอ หิวจนไม่มีแรงแล้วอะ พอดีว่าวันรุ่งขึ้นยังมีงานหลงเหลืออยู่ ก็เห็นกล่องข้าวในกองถ่ายวางเป็นตั้งๆ ผมถ่ายเสร็จคิวแรกผมก็ยกกลับบ้านเลย ไม่ได้บอกใคร ในห้องไม่มีใครพอดี ผมมองซ้ายมองขวา ผมก็หยิบเลย พวกน้ำดื่มแพ็คๆสำหรับทีมงาน ผมก็จับโยนขึ้นรถ แล้วขับรถกลับบ้านเลย”
มดดำ: “เป็นอย่างงั้นอยู่นานแค่ไหน?”
เชน: “เป็นเดือนครับ ผมเอากลับบ้านไปเนี๊ย ไม่ใช่ว่ากินแล้วก็ทิ้งนะ ผมเอาไปอุ่นกินวันถัดไปด้วย”
อ้วน: “จุดนั้นรึเปล่าที่ทำให้อยากออกจากวงการ?”
มดดำ: “คุณเชื่อไหม ช่วงนั้นเค้าอยากฆ่าตัวตาย?”
เชน: “จริงครับ”
มดดำ: “ทำไมวินาทีนั้นถึงคิดว่าไม่อยากอยู่อีกแล้ว?”
เชน: “คือช่วงนั้นเนี๊ยมันเหมือนเราล้มอะ ทั้งที่เราเคยเว่อร์มาก มีรถสปอร์ต เช่าคอนโดเดือนละ3หมื่นอยู่ ไรเงี๊ย แต่พอวันที่เราล้มเนี่ยคือเราไม่เหลืออะไรเลย คือเราก็อยากจะพักอะ เคยแบบ.. อันนี้คือพูดจริงๆเลยนะ เคยขึ้นเครื่องบินแล้วภาวนาอยากให้ตกมาก เพราะเราไม่อยากฆ่าตัวตาย (หัวเราะ) ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ไง”
มดดำ: “ตอนนั้นอายุเท่าไหร่?”
เชน: “ตอนนั้นอายุ20-21ครับ”
มดดำ: “ตอนนั้นอยากจะตายอยู่นานเท่าไหร่?”
เชน: “พักหนึ่งครับ เป็นเดือนอยู่เหมือนกัน แล้วจนบังเอิญว่าตอนนั้นเหมือนแบบว่า.. ผมเป็นคนที่สมาธิดีอะ แล้วเราก็ฝัน แล้วมันเหมือนแบบว่ามีเรื่องที่ปาฏิหารย์นิดนึง คือปกติเนี่ยเวลาผมสมาธิดีๆนะผมจะรู้ตัวเองว่าผมกำลังฝัน สังเกตุตัวเองว่าเวลาเราฝันเนี่ยจะเป็นยังไง อันนี้ผมเฉลยเลยนะ คืออย่างเวลาเราฝันเนี่ย เราจะไม่กระพริบตา ไม่รู้ว่ามีใครรู้ตัวหรือเปล่า แต่ถ้านึกในเชิงวิทยาศาสตร์เนี่ยมันเหมือนว่าเราอาจจะใช้จิตใต้สำนึกหรือสมองคิด มันไม่มีเปลือกตา แล้วเวลาที่ทุกครั้งที่ฝันร้ายหรือเวลากำลังจะตายเนี่ย เหมือนสมมุติว่าเวลาจะโดดตึกลงมาตาย หรือโดนงูฉกตายเนี่ย สังเกตุว่าในฝันทุกคนจะไม่ตาย เราจะตื่นก่อน มันเป็นเพราะว่าถ้าเราหลับตาในฝันเนี่ย เราจะตื่นขึ้นมา อันนี้มันเหมือนการไปตัดวงจรจิตใต้สำนึก ถ้าเราหลับตาปุ๊ปมันจะตื่น”
มดดำ: “แล้วในวันที่คิดอยากตายอย่างเดียว อะไรเกิดขึ้นกับคุณ?”
เชน: “ก็เหตุการณ์นี้แหละที่เราฝัน แล้วเหมือนเราตายในฝันจริงๆ ครั้งแรกที่ตายในฝัน มันเหมือนพอตายแล้วเราก็ลงไปอีกชั้นนึง พอลงไปเนี่ยผมเห็นเป็นห้องมืดๆ แล้วก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาพูดว่า ‘หนูยังไม่ถึงคาดนะ กลับขึ้นไปไหม’ ผมก็เลยบอกเค้าไปว่า ‘ผมไม่อยากกลับขึ้นไปแล้ว ผมเหนื่อย ผมพักดีกว่า’ แล้วผมก็นั่งตรงนั้นเป็นวันเลย แต่อย่างหนึ่งที่ผมสังเกตุเวลาเราเนี่ยช่วงปกติเราก็จะฝันเหมือนเวลาที่อยู่บนโลกอะ แต่ในชั้นนั้นมันนานมาก มันนั่งอยู่เป็นวันเลยแล้วทั้งที่เรารู้ตัวว่าเราฝันด้วย ในใจเราก็รู้ตัวอยู่ว่าเดี๋ยวเราก็กลับได้ เดี๋ยวหลับตาก็กลับได้ แต่เราอยากนั่งอยู่ตรงนั้นก่อน”
อ้วน: “เวลาเรานอนก็นอนยาว แต่อีกมโนนึงก็คืออยู่ในห้องนั้น”
เชน: “แล้วนานมาก มันเป็นวันครับ”
มดดำ: “ที่เชนเคยเล่าว่าเราอาจจะนอนไปแค่10นาที แต่เวลาข้างล่างนั้นมันจะยาวนานมาก?”
เชน: “ใช่ครับ แล้วทีนี้ผมก็เริ่มเอ่ะใจละ ทำไมรอบนี้มันแปลกๆ มันนั่งอยู่ในห้องเฉยๆนานมากไม่มีคนคุยด้วย ก็เลยแบบหันไปทางซ้าย พอหันปุ๊ปผมก็เจอคนนั่งก้มหน้าอยู่เป็นตับเลย ทางซ้ายมือไปจนสุดลูกหูลูกตาเลย ผมก็เลยตัดสินใจขยับไปคุยกับคนข้างๆ ก็เป็นพี่ผู้หญิงนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ดูไร้ชีวิตชีวามาก ผมก็ถามว่า ‘พี่ครับ พี่มานั่งทำอะไรกันตรงนี้’ พี่เค้าก็ตอบว่า ‘พี่เป็นเจ้าหญิงนิทรา รอฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล’ เราก็เริ่ม เอาละเอะใจไม่ใช่เรื่องเล่นๆละ ทีนี้ผมก็เลยรู้สึกตัวว่าไม่เอาละ เริ่มกลัว ผมกระพริบตาเลย ผมอยากกลับละ”
มดดำ: “เป็นห้องมืดๆธรรมดา ไม่เห็นอะไรเลยใช่ไหม?”
เชน: “ใช่ครับ มันมืดมากเลย ผมเลยขยี้ตา แต่ก็ไม่กลับ จนเราเหมือนตระหนักได้ว่าแบบเราทุเรศตัวเองอะว่าทำไมเราอยากจะตาย คือตอนนั้นนะถึงเรายังไม่ได้ออกศิลปินเดี่ยวแต่ออกงานทีนึงก็2-3หมื่น เราก็นั่งนึก.. เงิน2-3หมื่นเราทำวันเดียวเราก็ได้แล้วนะ เพื่อนเรานั่งทำงานทั้งเดือนเราจะเครียดทำไม แล้วก็นั่งนึกถึงคุณพ่อคุณแม่ว่าเลี้ยงเรามาแทบตาย แต่เราอยากตายมันทุเรศมากอะไรแบบนี้”
มดดำ: “มันคิดได้ในฝันเลยหรอ?”
เชน: “ใช่ครับ ในฝันเลย”
มดดำ: “แสดงว่ามันก็มีจริง?”
เชน: “สำหรับผม ผมเชื่อว่ามันมีจริงเพราะเคยเจอมากับตัวเองไง”
อ้วน: “แล้วตอนนั้นกลับมาได้ไง?”
เชน: “สุดท้ายพี่คนที่เจอตอนแรกเข้าเดินกลับมาแล้วเค้าก็บอกว่า ‘ได้เวลากลับไปแล้วนะ จะไปไหม’ ผมก็รีบพยักหน้าเลย ไปครับพี่ แล้วก็ตื่นเลย พอตื่นมาก็รีบเอาดอกไม้ไปกราบเท้าพ่อ ขอขมาแม่ ที่คิดแบบนี้ แล้วพอหลังจากนั้นชีวิตก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาทำคลีนิก”
อ้วน: “มันเหมือนกับว่าเราตายไปแล้วเลยเป็นการฟาดเคราะห์ไปแล้ว เหมือนคนไปทำบังสกุลอะไรแบบนี้”
เชน: “ใช่ครับ คือถ้าเกิดว่าเราสมาธิไม่ดีเราอาจจะต้องอยู่ในนั้นตลอดเลยก็ได้”
อ้วน: “หลังจากตื่นขึ้นมาปุ๊ป เงินทองก็ไหลมาเทมาเลยใช่ไหม??”
เชน: “ยังครับ ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
มดดำ: “หลังจากนั้นก็ไหว้พระพิฆเนศด้วย อยู่ดีๆคุณก็ได้พระพิฆเนศ 5 เศียร??”
เชน: “ใช่ครับ ครั้งแรกเนี่ยได้เป็น 5 เศียร องค์นั้นได้มาจากอินเดีย แล้วตั้งแต่วันที่ได้องค์นั้นเนี่ย จนถึงวันนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อีกอย่างนึงอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจด้วย”
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom