เอสเธอร์รักอาชีพแสดง ไม่ยึดติดนางเอก-ขอมีคุณภาพ

"เอสเธอร์"รักอาชีพแสดง ไม่ยึดติดนางเอก-ขอมีคุณภาพ

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

พัฒนาจากนักแสดงสมทบ สู่นางร้าย และก้าวมาเป็นนางเอกในที่สุด สำหรับ "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" โดยประเดิมนางเอกละคร "เล่ห์รตี" ค่ายเอ็กแซ็กท์ ช่องวัน

ประชันกับพระเอก "ฌอห์ณ จินดาโชติ" 

วันนี้จังหวะดีมีโอกาสโฉบมาจับเข่าคุยนางเอกสาวถึงเรื่องราวต่างๆ

- เริ่มต้นมาเล่นละครได้ยังไง?

เอสเธอร์ - "ตอนนั้นอายุ 15-16 ปี ไปแคสต์ที่ช่อง 3 เซ็นสัญญาไป 3 ปี เล่นละครเรื่องแรกเป็นซิตคอม "หลวงตามหาชน" ต่อด้วยละครยาวเรื่อง "บ่วง" ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ พอกลับไปย้อนคิดก็ดีใจที่มีโอกาสได้มาทำอาชีพนักแสดงเพราะเป็นงานที่สนุก"

- แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้คนรู้จักจริงๆ น่าจะเรื่อง "คุณชายรณพีร์" ในบทร้าย?

เอสเธอร์ - "ใช่ค่ะ "ม.ล.วิไลรัมภา" เป็นบทแจ้งเกิดชื่อหนูจริงๆ ตอนแรกที่ไปแคสต์ก็กลัวเพราะรู้ว่าเป็นบทร้าย คิดตลอดว่าจะเล่นได้เหรอ มีความกังวลสูงมาก จนไปแคสต์แล้วได้เล่น ยิ่งเครียดหนัก แต่พอเล่นๆ ไปเริ่มอิน สนุกที่ได้เล่นอะไรที่แตกต่างจากตัวเองมากๆ ท้าทายและฝึกฝนการแสดงไปในตัว กระแสคนพูดถึงวิไลรัมภาเกินคาดมาก คิดว่าคนจะแอนตี้ด้วยซ้ำ แต่พอมีคนชมว่าเล่นดีก็มีกำลังใจขึ้นค่ะ"

"แล้วต่อด้วยละคร "มาดามดัน" ที่คนก็พูดถึง พลิกเล่นเป็น "แพตตี้" แก่นเซี้ยว แก่แดด มั่นใจตัวเองสูง ตอนเล่นก็อายตัวเองนะ แต่พออยู่ในตัวละครก็กลายเป็นว่าสนุก"

- แล้วอยู่ดีๆ ทำไมตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระ?

เอสเธอร์ - "ตอนนั้นคาบเกี่ยวจะหมดสัญญา พอดีกับเริ่มมีหลายๆ ช่องเกิดขึ้นใหม่ เลยปรึกษาคุณแม่และผู้จัดการ ทุกคนบอกว่าลองดูก็ได้เพราะนักแสดงอิสระสามารถร่วมงานกับหลายๆ ที่และร่วมงานกับนักแสดงหลายๆ คนที่ไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานด้วย สุดท้ายตัดสินใจไม่ต่อสัญญา มองว่าเป็นโอกาสได้เรียนรู้งานกับหลายๆ ที่ ตอนนั้นก็เคว้งอยู่ 3-4 เดือน มีแอบใจไม่ดี ไม่รู้ว่าใครจะมาจ้างหรือเปล่า แต่โชคดีและเป็นจังหวะที่มีละครติดต่อเข้ามาพร้อมกันหลายเรื่อง ก็เริ่มสบายใจว่ามันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด"

- ประเดิมบทนางเอกกับละคร "เล่ห์รตี" เรื่องแรก ฟีดแบ็กเป็น ยังไง?

เอสเธอร์ - "ถือว่าเป็นนางเอกเรื่องแรกจริงๆ ตอนแรกไม่คิดว่าฟีดแบ็กจะดีขนาดนี้ ด้วยคนอาจไม่รู้จักว่าช่องวันดู ยังไง ติดตั้งยังไง แต่กลายเป็นว่าเวลาลงรูปในไอจีมีคนคอมเมนต์เยอะมาก จนเริ่มรู้สึกว่าจริงๆ ก็มีคนติดตามดูเยอะ"

"ส่วนบทพัทธรินทร์หรือเคทที่ได้รับ คนจะบอกว่าทำไมเคทพูดมากจัง แต่ก็น่ารักดี ซึ่งคาแร็กเตอร์เคทจะเป็นเด็กใสๆ ไร้เดียงสา เป็นบทที่ไม่เคยเล่นเลยเป็นงานยาก อีกอย่างคือละครดราม่ามาก มีฉากร้องไห้เยอะ เลิฟซีนก็เยอะ"

- ร่วมงานกับ "ฌอห์ณ" เป็นยังไง?

เอสเธอร์ - "พี่ฌอห์ณน่ารักโอเคมากๆ ตอนที่เจอกันแรกๆ เขามีความเป็นส่วนตัวสูง ทำ ให้ไม่กล้าคุย แต่พอเวิร์กช็อป ละลายพฤติกรรมกันก็เริ่ม รีแล็กซ์ เริ่มคุยกันได้เล่นกันได้"

- รู้สึกว่าเคมีไปกันได้ไหม

เอสเธอร์ - "ตอนเล่นก็ไม่รู้ว่าเคมีมันได้ขนาดไหน พอสักพักเริ่มรู้สึกว่ารับ-ส่งกันได้ดี เล่นส่งไปยังไงเขารู้และรับได้ รวมถึงเขาก็ส่งกลับมาให้ได้เช่นกัน การทำงานเลยค่อนข้างเข้าขากันขึ้นเรื่อยๆ"

- ต่อจากนี้มีผลงานอะไรอีก?

เอสเธอร์ - "ตอนนี้ที่ถ่ายทำอยู่ก็มี "City of Light: The O.C. Thailand" ช่องวัน, "เจ้าสาวของอานนท์" ช่องพีพีทีวี และ "รักนะเป็ดโง่" ตอน "Boy"s Paradise แผนรักชุลมุนจับคุณผู้ชายมาให้ฟิน" ของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ซึ่งแต่ละเรื่องคาแร็กเตอร์คนละทางกัน ในแง่ของนักแสดงถือว่าดีมากเพราะ ได้ฝึกฝีมือ แต่บางทีก็มีสับสนบ้าง กับงานที่มีอยู่ตอนนี้ก็พอใจนะ มีความสุขที่ได้ร่วมงานกับคนใหม่ๆ หลายคน"

- จนถึงตอนนี้คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกไหมที่เลือกเป็นนักแสดงอิสระ?

เอสเธอร์ - "น่าจะถูกนะคะ เพราะ ณ ตอนนั้นที่ตัดสินใจว่าจะไม่ต่อสัญญาคือได้คิดอย่างดีแล้ว ถามว่าแล้วคิดจะเซ็นสัญญากับที่ไหนบ้างไหม ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ยังอยากจะเป็นอิสระไปเรื่อยๆ แต่ในอนาคตไม่แน่ แต่คงต้องรอให้ถึงตอนนั้นก่อนแล้วค่อยคิดจริงจังอีกที เอาจริงๆ ชีวิตและการทำงานตอนนี้หนูพอใจและมีความสุขดีแล้วค่ะ"

- วางอนาคตในวงการบันเทิงไว้อย่างไร?

เอสเธอร์ - "จริงๆ ยังไม่ได้วางอะไรไว้เลย แต่คิดว่าน่าจะทำอาชีพนักแสดงไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าอิ่มแล้ว อยากหันไปทำอย่างอื่นบ้าง วันนั้นก็อาจจะค่อยๆ เฟดงานในวงการออกไป แต่ ณ ตอนนี้ยังสนุกและท้าทายกับการได้รับบทใหม่ๆ อยู่ ที่สำคัญคือรักในอาชีพนักแสดงมากๆ ยิ่งได้เจอบทที่ไกลจากตัวเองมากจะรู้สึกตื่นเต้น คันไม้คันมืออยากแสดง จะว่าไปการถ่ายละครทุกวันนี้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว"

- ยึดติดต้องเป็นนางเอกไปตลอดไหม?

เอสเธอร์ - "ไม่ได้ยึดติดค่ะ ส่วนมากจะดูที่ตัวบทมากกว่า ถ้าบทไหนน่าสนใจ สุดยอด ท้าทายมากๆ ก็จะรับ ไม่ว่าจะบทดี บทร้าย นางเอก เพื่อนนางเอก บทตลก หนูเล่นมาหมดแล้วและรับทุกตัวละครที่ผู้ใหญ่ส่งมา คิดเสมอว่าละครเรื่องหนึ่งทุกตัวละครมีความสำคัญหมด ทุกวันนี้หนูอยากได้คำว่านักแสดงที่ดี นักแสดงคุณภาพ สามารถเล่นได้ทุกบท อยากให้คนที่ดูผลงานรู้สึกอินไปกับการแสดง โดยไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นบทใดบทหนึ่งอย่างเดียว"

เรียกว่ามีฝีมือซะอย่าง 

รักเป็นสิ่งสวยงาม-ยังไม่เลือกหนุ่มคนไหน

เป็นสาวที่ฮอต มีข่าวคราวหนุ่มๆ รุม แต่สาว "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" รีบแย้ง "ไม่ได้ว่าฮอตหรืออะไรเลยค่ะ จริงๆ หนุ่มที่มีข่าวด้วยคือหนุ่มที่ทำงานด้วยกันทั้งนั้น ทำงานกันไปก็สนิทกัน"

เริ่มจาก "ฌอห์ณ จินดาโชติ" ที่ตอนนี้แทบจะเป็นคู่จิ้นกันแล้ว 

"กับพี่ฌอห์ณเราทำงานด้วยกันเจอกัน 8 เดือนเต็มๆ ความสนิทสนมเลยมีมาก แล้วเขาเป็นคนที่น่ารักคนหนึ่งเลย มีอะไรก็คุยเล่นกัน ถามว่าพอจะมีลุ้นนอกจอมั้ย อันนี้เป็นเรื่องของอนาคต ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงต่อไป แต่ตอนนี้มันก็โอเคค่ะ เขาเป็นคนที่ไนซ์ ใส่ใจรายละเอียด ทุกคน จะถามตลอดว่าคนนั้นคนนี้เป็นยังไง ถามหนูว่าเอาอะไรมั้ย เรียกว่าชวนคุยเพื่อให้บรรยากาศไม่อึมครึม การทำงานจะได้ราบรื่นค่ะ"

ฌอห์ณเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ หลายคน ตัวเราไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ น้องหนูอมยิ้ม "ไม่ค่ะ พี่เขาเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษในแบบที่ผู้หญิงหลายคนหมายปอง แต่ตอนนี้เราสองคนยังให้ความเป็นพี่น้องกันอยู่ การทำงานคือทำงาน ไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกัน"

ส่วนหนุ่ม "กั้ง-วรกร" ที่บอกว่าเอสเธอร์เป็นสาวในสเป๊ก ดาราสาวกล่าวว่า "เรื่องที่เขาปลื้มได้ยินมาบ้าง จริงๆ เคยร่วมงานกันในเอ็มวี พี่เขาเป็นคนน่ารักและเป็นสุภาพบุรุษ เพราะมีฉากที่เต้นด้วยกันแล้วต้องโดนเนื้อโดนตัว เขาก็จะขอโทษตลอดเวลา เป็นคน เฟรนด์ลี่มากๆ ทุกวันนี้ยังได้พูดคุยเจอกันบ้างที่ตึกแกรมมี่ ส่วนคุยไลน์ก็คุยบ้าง จริงๆ ก็คุยกับทุกคนที่เคยร่วมงานเพราะอยากจะรักษาความสัมพันธ์ดีๆ ไว้"

แฟนๆ จะเชียร์หนุ่มคนไหนดีล่ะเนี่ย "ไม่ต้องเชียร์ค่ะ ทุกคนอยู่ในส่วนของการทำงาน ไม่ได้เลือกใครสักคน ตอนนี้ยังไม่โฟกัสเรื่องพวกนี้ ยังไม่พร้อม อยากทุ่มเวลาและเต็มที่กับงานก่อน อีกอย่างด้วยอายุยังไม่พร้อมจะมีใครจริงจังค่ะ" 

ถามถึงสเป๊กผู้ชาย เอสเธอร์กล่าวว่า "ไม่มีสเป๊กเลยค่ะ อยู่ที่ว่าจะเจอใครแล้วรู้สึกว่าเข้ากันได้ คุยแล้วไปกันได้ ให้เกียรติและเคารพกัน แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ"

แล้วตอนคุยกับฌอห์ณรู้สึกว่าคุยแล้วไปกันได้ไหม เจ้าตัวหัวเราะ "คุยกันได้ในส่วนของการเป็นพี่ที่ร่วมงานกัน แล้วคุยกันรู้เรื่องค่ะ"

สุดท้ายเจ้าตัวเผยนิยามความรักของตัวเองว่า "ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เวลาคนเรารักกันมันต้องมีความอดทน เพราะรักคือการให้ ไม่จดจำสิ่งที่ไม่ดีของกันและกัน และไม่บั่นทอนความรู้สึกกันค่ะ"

ห้าว-ไม่หวาน

ดูจากชื่อแล้วเป็นลูกครึ่งแน่นอน สำหรับสาว "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" ซึ่งเจ้าตัวรับ "หนูเป็นลูกครึ่งไทย-มาเลเซียค่ะ คุณพ่อไทย คุณแม่มาเลเซีย ที่บ้านจะเลี้ยงดูแบบฝรั่งหน่อย ไม่ตั้งกฎเกณฑ์มาก คุณแม่จะคอยดูแลลูกๆ เหมือนพี่เหมือนเพื่อน คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่สอนให้รู้จักว่าอะไรผิดอะไรถูก ให้แยกแยะให้เป็น"

"ภาพภายนอกคนชอบมองว่าหนูต้องดูเป็นคุณหนูแน่เลย จริงๆ ไม่เลย ตอนเด็กๆ ที่บ้านไม่เคยตามใจเลย ถ้าลูกทำผิดก็ตี หนูจะเป็นคนที่โดนตีบ่อยสุดในบรรดาพี่น้องสามคน" 

สำหรับนิสัยใจคอของตัวเอง เจ้าตัวว่า "หนูเป็นคนค่อนข้างจะเงียบๆ กับคนที่ไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้ารู้จักแล้วก็จะสบายๆ อะไรก็ได้ ตลกเฮฮา มีนิสัยลุยๆ ไม่ได้หวานเหมือนหน้า เพื่อนชอบบอกว่าหนูมีความเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวหรือท่าทางการยืนการนั่ง บุคลิกจะดูห้าวๆ หน่อย"

เข้าวงการมาได้ยังไง น้องหนูอธิบาย

 "เริ่มแรกตอนอายุ 8 ขวบ มีโมเดลลิ่งติดต่อมาเลยไปลองแคสต์โฆษณดู จากนั้นก็หายไป กลับมาแคสต์งานอีกทีตอนอายุ 13-14 ปี เป็นช่วงที่จัดฟันเสร็จแล้ว ถามว่าตอนเด็กหน้าตาดีมั้ย ไม่เลย ยิ่งย้อนกลับไปดูรูปสมัยเก่าจะเห็นว่าหน้าธรรมดามาก ฟันก็เก มีแก้ม แล้วคนมาชวนไปแคสต์โฆษณาก็ไม่เคยได้สักชิ้นเลย จนมาจัดฟันเสร็จโตเป็นสาวขึ้นหน่อยก็เริ่มได้งานแล้ว"

แต่ตอนนี้ดูสวยขึ้น มีพัฒนาการความสวยอย่างไรบ้าง

 "ด้วยความที่โตขึ้นด้วย แล้วมีไปทำอะไรให้ตัวเองสวยขึ้นด้วย ซึ่งเคยบอกไปว่าทำจมูกมาอย่างเดียวคือไปแก้จมูก ส่วนที่หน้าดูเรียวขึ้นอันนี้บอกเลยโตขึ้นหน้ามันก็เข้าที่เข้าทาง ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนปิดบัง ถ้าทำมาก็จะบอกว่าทำ หนูว่าเดี๋ยวนี้คนเริ่มเปิดใจกันแล้ว การไปทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเป็นการพัฒนาจุดบกพร่องของตัวเองเพื่อให้ดูดีและมั่นใจขึ้น"

"ที่สำคัญทำมาแล้วสวยก็ไม่ต้องแคร์อะไรค่ะ" เอสเธอร์กล่าว

ชื่อเล่น - เอส, เอสเธอร์

ชื่อนามสกุล - เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา 

วัน/เดือน/ปีเกิด - 18 พ.ค.2537

บิดา/มารดา - ชานรินทร์ สุปรีย์ลีลา - เป๊ก งาลิม 

พี่น้อง - ทิโมธี(น้องชาย), แอบิเกล (น้องสาว)

การศึกษา - อนุบาล ร.ร.รังสฤษฏ์วิทยา, ร.ร.ประสานมิตร, ประถมฯ ร.ร.ประสาน มิตร, มัธยมฯ ร.ร.มัธยมสังคีตวิทยา(ม.1), ร.ร.สารสาสน์วิเทศรังสิต(ม.1-3) สอบเทียบ ม.6 ได้จากข้อสอบของอเมริกา ร.ร.นานาชาติ ฮีทฟิลด์ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะบริหารและการจัดการ ม.กรุงเทพธนบุรี

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด

https://www.facebook.com/teeneedotcom