“ปั้น แบชเชอร์” กับตัวตนที่ยืนหยัดในวงการเพลงนานกว่า 10 ปี!

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย “ปั้น แบชเชอร์” กับตัวตนที่ยืนหยัดในวงการเพลงนานกว่า 10 ปี!

ข่าวดาราล่าสุด star.teenee.com
บันเทิงดารา entertain.teenee.com

ย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว สมัยที่เทปคลาสเซ็ตยังเฟื่องฟู วัยรุ่นหลายคนฟังเพลงศิลปินที่ชอบจากคลื่นวิทยุโปรด พร้อมชมคอนเสิร์ตจากวงดนตรีสุดมัน เชื่อว่าทุกคนที่เคยทำกิจกรรมเหล่านี้ต้องรู้จัก ศิลปินหนุ่มวง “แบชเชอร์ (Basher)” เจ้าของเพลงฮิต “เสียดายของ” อย่างแน่นอน แม้วงแบชเชอร์จะหายไป แต่ “ปั้น เจษฎา ลัดดาชยาพร” ขอกลับมาจับไมค์ ลุยงานเพลงอีกครั้ง ในมาดศิลปินเดี่ยวจากค่ายโมโนมิวสิค

ครั้งที่แล้ว “ปั้น เจษฎา” หรือ “ปั้น แบชเชอร์” ได้ส่งซิงเกิ้ล “คนไม่ใช่ คือไม่ใช่” ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง ในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นซิงเกิ้ลแรก ซึ่งต้องบอกว่าเพลงนี้มาแรงมากๆ หลายคลื่นวิทยุและหลายรายการเพลงนิยมเปิด จนทำให้เพลงนี้ฮิตติดชาร์ต ติดใจคนฟัง และตราตรึงคนดูด้วยยอดเข้าชมมิวสิควีดีโอสูงเกือบ 15 ล้านวิว! ซึ่งปั้นบอกว่า “รู้สึกดีใจ ที่เพื่อนๆ แฟนเพลงเก่าวงแบชเชอร์ รวมทั้งแฟนเพลงใหม่ๆ ตามมาดู ก็รู้สึกดีใจมากครับ”

ปั้น แบชเชอร์

กลับมาครั้งนี้ เขามาพร้อมซิลเกิ้ลใหม่ล่าสุด “เจ้าชายกบ” เพลงเพราะจังหวะเร็ว ที่จะมาสร้างสีสันในการฟังเพลงมากขึ้น “เนื้อหาเพลงนี้เป็นเพลงที่พูดถึงคนธรรมดาทั่วไปที่เดินอยู่ตามถนน อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต อยากร่ำรวย เป็นคนดิ้นรน เราก็เลยรู้สึกว่าคนแบบนี้มีเยอะ แบบที่ทำทุกอย่างแต่ก็ไม่รวยสักที ก็เลยเอาธีมคำว่า “เจ้าชายกบ” จากนิทานที่ทุกคนรู้ดีว่ามีเจ้าหญิงจูบกบแล้วกลายเป็นเจ้าชาย แต่ในชีวิตจริงเราก็เป็นกบนี่แหละ มีคนที่รักเราอยู่ข้างๆ แต่ไม่ว่าจะจูบเราเท่าไรก็เป็นเจ้าชายไม่ได้สักที แต่ถึงผมจะเป็นเจ้าชายไม่ได้ แต่ผมขอเป็นผู้ชายที่รักคุณมากที่สุดก็พอ

แนวเพลงก็ยังเหมือนเดิม เป็นป๊อบร็อค โมเดิร์นร็อคยังคงมีความเป็นแบชเชอร์อยู่ เพราะจริงๆ แล้ว เพื่อนๆ สมาชิกแบชเชอร์ก็มาช่วยงานเหมือนเดิม แต่ว่าอาจจะไม่ได้มีรายละเอียดมากเหมือนสมัยแบชเชอร์ ก็อยากจะให้เพลงมันดูง่ายๆ มากขึ้น ให้น้องๆ หยิบกีตาร์มาเล่นกันได้”

ปั้น แบชเชอร์

จากความสำเร็จของซิงเกิ้ลแรก แน่นอนว่าความคาดหวังว่าเพลงนี้จะต้องมีการตอบรับที่ดีย่อมสูงตามไปด้วย แต่ในยุคที่มีศิลปินเกิดใหม่มากมายขนาดนี้ แล้วปั้นคาดหวังอะไรไว้บ้าง “ความคาดหวังจริงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นคือการได้กลับมาร้องเพลง พอได้กลับมาร้องเพลงมันเหมือนกับว่าเราได้ประสบความสำเร็จแล้ว และเราก็ทำงานที่เราชอบจริงๆ อย่าง “เจ้าชายกบ” นี่ คอนเซ็ปมันค่อนข้างแปลกดี มันเป็นเพลงสนุก คงไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องดังเท่าเพลงที่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเราพอใจกับงาน เราทำแล้วมีความสุขก็พอแล้ว”

ที่ผ่านมาถือว่าปั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในนามวง แบชเชอร์ , สเตตัส ซิงเกิ้ล และการเป็นศิลปินเดี่ยว ซึ่งจุดแข็งที่สามารถทำให้ปั้นสามารถยืนหยัดในวงการเพลงมาตลอดได้นั่นก็คือ “ความเป็นตัวของตัวเอง” ปั้นบอกว่า “การเป็นศิลปิน เราก็ต้องหาตัวเองให้เจอก่อน แล้วคงความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ทั้งสไตล์ดนตรี สไตล์การร้อง และเราก็ต้องออกกำลังกายด้วย คงคุณภาพเพลงไว้ เพราะเด็กๆ เดี๋ยวนี้ร้องเพลงเก่ง เดี๋ยวสู้เขาไม่ได้”

ปั้น เสริมว่า “จริงๆ แล้ว ผมเป็นคนธรรมดา แม้ว่าคนเรียกเราว่าศิลปินดารา บางทีเราก็เขินเหมือนกัน จริงๆ เราก็คนเดินถนนทั่วไป กินก๋วยเตี๋ยวขางทางปกติ คนก็คงเห็นว่าเราเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่าย แฟนๆ เข้ามาถ่ายรูปเราก็ดีใจ คงเป็นความเฟรนด์ลี่ที่ทำให้แฟนๆ ชอบเรา ยังติดตามเราอยู่”

ปั้น แบชเชอร์

แม้ว่าจะทำงานเป็นศิลปินเดี่ยวแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนในวง “แบชเชอร์” ก็ไม่ได้หายไป เพราะปั้นบอกว่า “เวลาทำงานก็ไม่เหงาซะทีเดียว เพราะก็ยังมีผู้จัดการ มีทีมงานคอยไปเป็นเพื่อนเวลาเดินสาย และเวลาเล่นสดก็มีวงดนตรีขึ้นไป เวลาทำงานก็ยังได้ทำร่วมกันกับเพื่อนๆ อยู่ แต่เราได้มีโอกาสตัดสินใจมากขึ้น และเป็นความโชคดีของผมที่ยังมีเพื่อนช่วยคิด ช่วยตัดสินใจ”

และเมื่อถามไปว่าหากมีโอกาสได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง อยากจะกลับมาทำวงอีกไหมปั้นก็บอกว่า “จริงๆ แล้ว แบชเชอร์ ไม่ได้แตกกันไปไหน ยังรักกันดีอยู่ ถ้าวันหนึ่งพี่นัส พี่โฮม คิดถึงเบื้องหน้า ก็อาจจะกลับมารวมกันเป็นแบชเชอร์ รวมกันเป็นวงเหมือนเดิมได้”

ปั้น แบชเชอร์

เห็น “ปั้น แบชเชอร์” เป็นนักร้องมานานหลายปี หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เขาก็เคยทำงานเบื้องหลังเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ทำมาหลายหน้าที่ แต่งานเบื้องหน้านี่แหละคือสิ่งที่เขารักและอยากจะทำในตอนนี้ ซึ่งปั้นเองก็ไม่ได้คิดว่าจะอยู่ตรงนี้ตลอดไป และเขาได้วางแผนในเส้นทางดนตรีแห่งนี้ไว้แล้ว

“ผมก็ชอบทั้งสองอย่าง แต่ว่าตอนนี้เราคิดถึงเบื้องหน้า คิดถึงเวลาไปร้องเพลงแล้วมีคนร้องตาม ด้านงานเบื้องหลังผมก็ชอบ ถ้าวันหนึ่งเราอายุมากกว่านี้ก็อาจจะไปทำงานเบื้องหลัง ตอนนี้ก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำเพลงให้แฟนๆ ฟัง แต่ในอนาคตอีกไกล ผมก็อยากจะเป็นครูสอนร้องเพลง ทำเพลงเบื้องหลัง”

ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นวงแบชเชอร์อีกครั้ง และเชื่อว่าวงการเพลงจะมีครูสอนร้องเพลงที่มากทั้งประสบการณ์และความสามารถเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน