พีช ภาคิน ถูกแฉกลับ!

ดราม่า'เดอะวอยส์'vs 'พีช ภาคิน' ยังเดือด!!ทีมงานโพสต์โต้ -'คลิป แฉ! เจ้าตัวเลือกเพลงเองว่อน!

เป็นกระแสที่ถกกันอย่างร้อนแรงในโลกออนไลน์ หลังจาก การณี ที่ พีช ภาคิน ผู้เข้าประกวด The voice ซีซั่น 3 ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงกรณีที่ตัวเขา ร้องเพลง 'น้ำตาแสงใต้' ได้ไม่ดีเท่าที่ควรนั้นเป็นเพราะว่า เพลงดังกล่าว ไม่ใช่เพลงที่ตัวเขาถนัด แถมเพลงที่ร้องยังมีการปรับคีย์ให้สูงขึ้นจาก D เป็น F ทำให้ตัวของพีชซึ่งเป็นคนเสียงต่ำนั้น ร้องเพลงดังกล่าวได้ไม่ดีเท่าที่ควร 

  จนกระทั่ง โค๊ช แสตมป์ อภิวัชร ต้องออกมา โพสต์ ข้อความชี้แจง ใน เฟ๊ชบุ๊ค ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  แต่ดูเหมือนจะโดนกระแสตีกลับว่าคำชี้แจงของโค้ชแสตมป์ นั้นเป็นเหมือนการปัดความรับผิดชอบ และเป็นคำชี้แจงที่ค่อนข้างกำกวม

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ChuCh ChuCh" ซึ่งระบุว่าเป็น 1 ใน 3 Music Director ของรายการเดอะวอยซ์ เลยออกมาโพสต์ข้อความชี้แจง ถึงประเด็นดังกล่าว อีกครั้งโดยระบุว่า

''สวัสดีครับ ผมเป็น 1 ใน 3 คนที่ทำหน้าที่ Music Director รายการ The Voice Thailand นะครับ Season 1,2,3 ครับ เห็นกระแสตอนนี้แล้วจากที่คิดว่าจะเงียบไม่ทำอะไร คิดว่าน่าจะต้องออกมาชี้แจงซักหน่อยในกระบวนการทำงาน (ยาวหน่อยนะครับ แต่น่าจะตอบข้อสงสัยของหลายๆคนได้)

สิ่งที่ทีมงานทุกคนในรายการคำนึงถึงเป็นอย่างแรกนะครับ คือ "ผู้เข้าแข่งขัน สำคัญที่สุดเสมอ" เราทุกคนรู้ดีว่ารายการระดับนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตและอนาคตของผู้เข้าร่วมรายการ มันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนหนึ่งคนให้กลายเป็นดีมากๆจนถึงเลวร้ายที่สุดได้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหนก็ตาม เรายึดถือสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานครับ

แต่เช่นเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างที่สอง คือ "ความพอดี" ความพอดีนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้รายการนี้สามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้ ตอบความต้องการของผู้ผลิต และผู้สนับสนุน ทำให้รายการมีความกลมกล่อม ไม่ดูยากเกินกว่าจะเข้าใจและก็ต้องไม่ดูง่ายหรือตื้นเขินจนเกินไป ผลสุดท้าย "ความพอดี" นี้อาจจะไม่ได้ตอบสนองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไอ้"ความพอดี" นี่แหละ ที่ทำให้ทีมงานทุกๆคนทำงานด้วยความตั้งใจและความรู้สึกใส่ใจในรายละเอียดและคำนึงถึงทุกๆฝ่าย..

สองข้อนี้ถูกรวมเข้าด้วยกัน จนเป็นหลักการในการทำงานของทุกๆคนในรายการนี้

หากจะถามว่า ทำอย่างไรถึงจะสามารถส่งให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนไปได้ไกลและสวยงามที่สุด รวมถึงทำอย่างไรรายการถึงจะมีความพอดีที่สุด สำหรับตัวผมเอง ขอตอบว่า "ไม่ทราบจริงๆครับ" เราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้จริงๆ ทุกอย่างล้วนมีความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือการระดมทุกความคิดมาช่วยกัน สร้างสรรค์ ทำในสิ่งที่เราคิดว่ามันดีที่สุดเท่าที่เราจะคิดออก หาจุดบกพร่อง และช่วยกันอุดช่องโหว่ ทำทุกๆรายละเอียดอย่างเต็มที่ และน้อมรับความผิดพลาดหากสิ่งที่เราคิดและทำไปแล้วมันเกิดไม่ใช่ เราพร้อมนำไปปรับปรุงแก้ไข

เราทำได้แค่นี้ครับ ทีมงานไม่สามารถพูดได้ว่าเราสร้างสิ่งที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยในทุกกระบวนการ เราพูดได้เต็มปากว่า เราทำมันอย่างดีที่สุด
ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Blind , Battle , Knock out, Live เราก็ใช้วิธีคิดนี้ในการทำงานทั้งสิ้น และแน่นอน ไม่ว่ารอบไหนก็ตาม หากผู้เข้าแข่งขันชัดเจนและยืนยันว่าไม่สบายใจที่จะร้อง ทีมงานทุกคนยินดีที่จะเปลี่ยน ปรับ แก้ไข จนผู้เข้าแข่งขันสบายใจที่จะร้องเพลงนั้นๆ

"มันเป็นเกม" ไม่ได้หมายถึงว่าเรากำลังเห็นผู้เข้าแข่งขันเป็นตัวหมาก หรือวางแผนทำโน่นทำนี่เพื่อให้เกมมันเดินไปในแบบที่เราอยากให้เป็น..
แต่หมายถึง ด้วยความที่ The Voice คือรายการโทรทัศน์ ที่มีงบประมาณและเวลาในการถ่ายทำจำกัด ดังนั้นการทำงานต่างๆ เวลาในการคิด เลือกเพลง ฝึกซ้อม จนถึงกระบวนการขั้นตอนการถ่ายทำ ทุกๆอย่างล้วนมีองค์ประกอบที่มีโอกาสจะลดทอนความสามารถของผู้เข้าแข่งขันได้ การร้องเพลงท่ามกลางอุปสรรคเหล่านี้ คือ เกม ในความหมายของ The Voice

เกมการแข่งขันย่อมมีแพ้ชนะ แต่การหาผู้แพ้ผู้ชนะในการแข่งขันที่เป็นศิลปะ มันทำกันไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือ ขีดเส้นสมมติขึ้นมาในใจเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน เส้นที่ว่านั้นคืออะไร อารมณ์ เทคนิก การร้องที่แม่นยำ เนื้อเสียง พัฒนาการในเพลงนั้นๆ หรือเส้นสมมติอีกนานับที่โค้ชจำต้องขีดขึ้นเพื่อหาคนไปต่อตามกติกาของรายการ..

ผมพูดได้เพียงว่า โค้ชทุกคนรักและผูกพันกับลูกทีมไม่แพ้คุณ อยากให้ลูกทีมได้ไปต่อทุกคนไม่แพ้คุณ หวังที่จะเห็นผู้เข้าแข่งขันทุกคนประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้ไม่แพ้คุณ และเจ็บปวดเมื่อต้องเห็นคนที่เดินตามความฝันต้องผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นในรอบไหนๆ ความรู้สึกของโค้ชที่มีต่อผู้เข้าแข่งขันมันก็ไม่แพ้พวกคุณทุกคนหรอกครับ

ในกรณีที่เกิดกระแสอยู่ตอนนี้นะครับ
หากเงียบไว้ เรื่องก็คงซาลง แต่บางครั้งการเงียบก็อาจทำให้คนดีๆต้องเสียใจ

ผมคิดอยู่นานว่าควรกล่าวถึงไหม..
ขั้นตอนรอบ Knock out เป็นตามที่โค้ชแสตมป์แจ้งทุกประการ

ในลิสต์เพลง มีเพลง Desperado จริงครับ
พี่พืชอยากร้องเพลงนี้มั้ย อยากครับ เราทราบ เพราะเราให้เขียน list เพลงที่อยากร้องมาหลายๆเพลงอยู่แล้ว
พี่พืชอยากร้องเพลง Desperado ที่สุดไหม ไม่ทราบครับ พี่พืชไม่ได้พูดหรือแสดงออกมาในตอนนั้น

พี่พืชไม่อยากร้องเพลงนํ้าตาแสงใต้ อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆครับ แต่ที่ผมจำได้ตอนที่พวกเราเลือกเพลงกัน เพลงนี้อยู่ในลิสต์ที่เราคุยร่วมกัน ซึ่งก็หมายถึงเพลงที่พี่พืชน่าจะมั่นใจที่จะร้องใช่มั้ยครับ

เราเปลี่ยนคีย์ให้เป็นคีย์ที่พี่พืชไม่ถนัดหรือไม่ ผมไม่ทราบเช่นกันว่าพี่พืชไม่ถนัด แต่ในตอนที่เลือกคีย์ เราอยู่ด้วยกันทุกคนครับ มิวสิคไดเร็กเตอร์ทั้ง 3 คน โค้ช และก็ตัวพี่พืชเอง และหลักการเดิมทุกครั้ง คือเราเลือกสิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันสบายใจเป็นหลักครับ

ถ้าหากสิ่งที่พี่พืชรู้สึกคือเรื่องจริง ผมก็ต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิดคิดว่าพี่พืชสบายใจในการร้องเพลงรอบ Knock out นี้ และอยากขอพี่ไว้อย่างนึงว่า หากมีคราวหน้าไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการประกวดที่ไหน ถ้าพี่เกิดรู้สึกไม่สบายใจระหว่างการทำงาน ขอให้แจ้งมาเลย ณ ตรงนั้นตรงๆครับ เราพร้อมแก้ไข ไม่ต้องเกรงใจเพราะเราทุกคนล้วนอยากให้งานออกมาดีที่สุด ดีกว่ามาบอกกันทีหลังในเฟสบุคซึ่งเราแก้ไขอะไรมันไม่ได้แล้วนะครับ ถ้าพี่พืชเกรงใจไม่กล้าบอกตอนนั้น ผมขออนุญาตเรียนตรงๆว่าพี่พืชควรเกรงใจที่โพสต์ออกสื่อแบบนี้มากกว่าครับ (เช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆในซีซั่นก่อนๆรวมถึงที่จะมาในอนาคตนะครับ ผมจะพูดเสมอทุกๆครั้งว่าเราคือทีมเดียวกัน ชอบไม่ชอบอะไรขอให้บอก หาสิ่งที่ลงตัวที่สุดร่วมกัน พูดกันต่อหน้านะครับ เพื่องานที่ดี และเพื่อตัวคุณเอง พูดทีหลัง งานก็ไม่ได้งานที่ดี แถมตัวคุณเองก็ดูไม่ดีด้วยนะครับ)

ด้วยความเคารพนะครับ ผมนับถือว่าพี่พืชเป็นผู้ใหญ่ และเป็นคนเก่งจริงๆ แต่ที่ออกมาเขียนก็เพราะว่า แสตมป์ เป็นเพื่อนร่วมวงผม เป็นรุ่นน้องคณะเดียวกัน ทำงานฝ่าฟันมาด้วยกันนานเกินกว่า 10 ปี เค้าสำคัญกับผมมากและผูกพันกับผมมานานกว่าพี่ ผมมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ความเข้าใจผิดที่กำลังทำให้คนดีๆกำลังเสียใจและคิดมากอยู่ตอนนี้

ทีมงานทุกคนให้เคยโอกาสในการทำงานกับผม ทำงานร่วมกันมาเป็นเวลากว่า 7-8 ปี นักดนตรีทุกคนเป็นที่รักของผม ทุ่มเทการทำงาน อดหลับอดนอนมาด้วยกัน ผมไม่อยากให้ความเข้าใจผิดเหล่านี้บั่นทอนความตั้งใจที่จะทำงานดีๆของพวกเขา

หากว่ากระแสต่างๆทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจว่ารายการนี้มีเบื้องลึก มีด้านมืดอะไรหรือไม่ ผมขอร้องว่า ก่อนที่ทุกท่านจะตัดสิน ลองมองดูว่างานที่เราสื่อออกไปนั้นมันมีความทุ่มเทและตั้งใจอยู่ในนั้นรึเปล่า หากว่ามันไม่มี พวกเราจะตั้งใจให้มากขึ้นอีกครับ เพื่อสื่อให้ทุกคนเห็นและเชื่อในสิ่งที่พวกเราทุกคนเชื่อว่า ความตั้งใจที่ดีย่อมทำให้เกิดงานที่ดี คนที่ทำงานด้วยความรัก ย่อมทำให้งานชิ้นนั้นสื่อไปถึงคนดูได้ หากว่ามีสิ่งที่ไม่ดีแฝงอยู่ในนั้น มันย่อมไม่สามารถทำให้ทีมงานรวมกันเป็นหนึ่งแล้วสร้างงานที่ดีได้

ผมขออนุญาตยืมคำพูดที่ออกจะนํ้าเน่าของพี่บอย โกสิยพงษ์ มาใช้ในสถานการณ์นี้ว่า "ถ้าหากสิ่งที่เราทำนั้น มันผิดพลาดหรือยังไม่ดีพอ ก็ขอให้โทษที่มันสมองของพวกเราเถอะ อย่าโทษหัวใจของพวกเราเลย"

ซึ่งต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ได้ลบข้อความชี้แจ้งข้างต้นออกจากเฟซบุ๊กแล้ว พร้อมชี้แจงว่า

 "ผมขออนุญาตลบโพสต์ก่อนนะครับ เดี๋ยวทางรายการจะมาให้ข้อมูลที่เป็นทางการอีกทีครับ ขอบคุณมากครับ"


นอกจากนั้น ผู้ใช้ 'youtube' ที่ชื่อว่า  ErbaZZ Top  ยังได้โพสต์ คลิปวิดีโอ เบืองหลังการซ้อม ของ หนุ่มพีช ร่วมกับโค๊ชแสตมป์ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตัวของหนุ่มพีชเป็นคนเลือกเพลงดังกล่าวด้วยตัวเองอีกด้วย

พีช ภาคิน ถูกแฉกลับ!




พีช ภาคินพีช ภาคิน


พีช ภาคินพีช ภาคิน


พีช ภาคินพีช ภาคิน

ขอบคุณข้อมูล :: FB ChuCh ChuCh
คลิปวีดีโอจาก ::ErbaZZ Top สมาชิก  youtube.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์