‘กานต์’ โร่แจ้งความ ‘เสก โลโซ’ ไม่ให้เข้าบ้าน-ถูกทำร้าย-ห่วงสามีพกปืน
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ‘กานต์’ โร่แจ้งความ ‘เสก โลโซ’ ไม่ให้เข้าบ้าน-ถูกทำร้าย-ห่วงสามีพกปืน
‘กานต์-วิภากร’ โร่แจ้งความ ‘เสก โลโซ’ ไม่ให้เข้าบ้าน-ถูกทำร้าย-ห่วงสามีพกปืน
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค. นางวิภากร ศุขภิมาย อายุ 42 ปี ภรรยา นายเสกสรรค์ ศุขภิมาย หรือ เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 9/27 หมู่ 2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ พงส.ผนพ.สน.คันนายาว เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า ตนเองมีความเดือดร้อนไม่สามารถเข้าบ้านหลังดังกล่าวไปดูแลบุตรได้ เนื่องจาก ถูก นายเสก โลโซ ทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเข้าบ้านได้
ต่อมา นายเสก โลโซ ได้ขนเสื้อผ้าของตนมาทิ้งไว้บริเวณหน้าบ้าน และโทรศัพท์แจ้งให้น้องสาวของตนมารับไป แต่ตนเกรงว่าหากเข้าบ้านพักดังกล่าวเกรงจะถูกทำร้าย หรือไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งจะมีผลกระทบกับลูก จึงต้องไปอาศัยไปอยู่กับน้องสาวซักระยะหนึ่ง ระหว่างที่ออกมาจากบ้าน ก็ได้รับข้อความทางเฟซบุ๊ก จาก นายเสก โลโซ ในเชิงหยาบคาย และข่มขู่ ทั้งตนเองและน้องสาว ในทางเสียหาย และเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ตนได้ทราบข่าวจากทางสื่อว่า นายเสก โลโซ ได้ฟ้องตนเองและแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการ นายเสก โลโซ พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหาย จำนวน 200 ล้านบาท
นางวิภากร กล่าวต่อว่า นายเสก โลโซ ยังกล่าวหาว่าตนกับ นายแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการ นายเสก โลโซ บุกรกเข้าไปในบ้านพักนั้น เรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง โดยข้อเท็จจริงก็คือ ตนเองและ นายแพทย์คนดังกล่าวที่เคยรักษาอาการ เสก โลโซ มิได้เจตนาจะทำผิดตามที่ถูกกล่าวอ้างว่าบุกรุก ทำให้ตนเองต้องออกจากบ้าน และมีปากเสียงพร้อมกับถูกทำร้าย โดยเชื่อว่า สาเหตุเกิดจากความระแวงจากการป่วยที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของ นายเสก โลโซ เอง จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ตนต้องการลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นของ นายเสก โลโซ เนื่องจากในวันดังกล่าวที่พานายแพทย์ไปดูอาการ นายเสก โลโซ นั้น ทางแม่บ้านของตนได้แจ้งว่า นายเสก โลโซ ได้ให้ไปหยิบอาวุธปืน แม่บ้านจึงได้ไปหยิบอาวุธปืนดังกล่าวมาให้ตนแทน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย ตนจึงนำมาเก็บรักษาไว้ ก่อนจะมาลงบันทึกประวันไว้ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สุบรรณ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ตามความประสงค์ของผู้แจ้ง ก่อนทำการสอบถามและคัดกรองข้อมูลดังกล่าวแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความรุนแรงภายในครอบครัวส่วนหนึ่ง จึงได้ติดต่อประสานงานไปยังศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) เพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว และได้นัดหมายกับทางผู้แจ้งเพื่อให้ความช่วยเหลือและแนะนำทำความเข้าใจกับผู้แจ้ง และหากผู้แจ้งประสบเหตุกรณีฉุกเฉินอย่างไรกับผู้แจ้งเองหรือบุตร ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อให้การช่วยเหลือ
https://www.facebook.com/teeneedotcom