ความจริงที่อยากให้เข้าใจ จาก สเตฟาน

'ผมไม่ได้เป็นคนสร้างเรื่อง คนที่มอง ที่คิดไม่ดีต่างหากที่สร้างเรื่อง'

สเตฟาน สันติ วีรบุญชัย พูดแบบไม่ชอบใจ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เขาให้สัมภาษณ์ เล่าว่าตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น เขานอนห้องเดียวกับ น้ำฝน-กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ แฟนสาว

...ผมไม่เคยว่าคนอื่น ทำไมคนอื่นต้องมาว่าผม

ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นตัวอย่างไม่ดี, คนที่คอยแต่ว่าคนอื่น มองว่าคนอื่นแย่ มันง่าย ฯลฯ เป็นส่วนหนึ่งของถ้อยคำที่เขาระบายในปฏิกิริยาที่ได้รับ

ก่อนจะอธิบายว่า การที่เขาเปิดเผยเรื่องที่ว่า

อย่างไรก็ตาม คนเป็นแฟนกัน แล้วไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด

จะอยากประหยัดค่าห้องพักคืนละ 4 หมื่นบาท นี่ผิดตรงไหน ผมว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำ แต่ประเทศเราไม่ยอมรับความจริงสักที วิดีโอคลิปบ้านเรามีเป็นล้านคลิปแล้วมั้งตอนนี้ แต่มาว่าผมกับฝน 2 คน ก็จะไม่มีทางรักษาปัญหาของสังคมตอนนี้ได้

แทนที่เรื่องแบบนี้จะมาว่าแต่นักแสดง

เอาเวลาไปดูคนใกล้ตัว ลูกหลานตัวเอง และเยาวชนไทยดีกว่า ผมเห็นมีข่าวตลอดว่า อายุ 13-14 ก็มีคลิปแล้ว มันไม่ควรจะเป็น ตอนผมอายุ 13-14 ผมไม่เคยมีแฟนเลยนะ แต่เด็กสมัยนี้ 13-14 ก็จูบกันกลางถนน ทำไมไม่คิดถึงวัฒนธรรมบ้าง จะมาโทษนักแสดงว่ามีอิทธิพลที่ไม่ดี การแสดงมีตั้งหลายอย่างที่ดี ทำไมถึงเอาแต่สิ่งที่ไม่ดีไป สเตฟานถาม

บอกด้วยว่า สำหรับใครก็ตามก่อนจะติคนอื่น ช่วยดูคนใกล้ตัวสักนิด

'ผมไม่ชอบติคนนั้น คนนี้ เพราะตัวเองก็ยังไม่พอใจในตัวเองในบางจุด ก็พยายามแก้ไขตัวเอง ก่อนที่จะไปยุ่งเรื่องคนอื่น แล้วผมว่าการที่เราจะแก้ปัญหา เราต้องรู้และยอมรับว่าเรามีปัญหา เหมือนกับคนที่ติดเหล้า ติดยาเสพติด ก็ต้องยอมรับก่อนว่าติด และถ้าเราจะแก้ปัญหาของสังคมได้ ก็ต้องยอมรับก่อนว่าสังคมของเราไม่ดีอย่างไร ตรงจุดไหน'

กับเรื่องห้องนอนในญี่ปุ่นนั้น สเตฟานบอกว่าจริงๆ เขาจะโกหกว่านอนคนละห้องกันก็ได้ แต่ไม่อยากจะทำ

'มันไม่ใช่เรื่องที่น่าจะโกหก เป็นเรื่องธรรมดา คนเราโตกันแล้ว รู้ว่าอะไรผิดหรือไม่ผิด การที่ผมพูดอะไรออกมาผมจะเลือกคำพูดที่ดี แต่ก็จะพูดอะไรที่อยู่ในใจ ไม่โกหก เมื่อก่อนสัมภาษณ์นักแสดง 10 คน พูดเหมือนกันทุกคน คำพูดซ้ำกันด้วยซ้ำ แต่ผมทำไม่ได้ เพราะผมไม่เชื่อว่าโกหกแล้วจะดี จึงได้เลือกพูดความจริง แล้วก็เซ็งที่กลายเป็นเช่นนี้ไง