จิ๊บ-วสุ บุกง้อ หนิม เอเอฟ 5 - ยืนยันดาราสาว จ๊ะจ๋า ไม่ใช่มือที่สามทำรักล่ม

 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ รร.มิราเคิลแกรนด์ นักร้องสาว ‘หนิม’คนึงพิมพ์ ธนพิชชากรณ์  มาร่วมงานกิจกรรมอีเวนต์จับสลาก และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องที่ตนเองโพสต์ข้อความตัดพ้ออดีตแฟนหนุ่มรุ่นใหญ่ ‘จิ๊บ’วสุ แสงสิงแก้ว ทั้งยังเปรยว่าฝ่ายชายมีสาวคนใหม่

 หนิม เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาหนูไม่เคยพูดว่าคุยกับใครคบ แต่พอมาเจอเหตุการณ์ที่เขาเอาเราไปพูดในทางที่ไม่ดี อ้างชื่อเรา เราก็เสียใจ มันช็อก และผิดหวังมาก อยากที่จะระบายออกมาบ้างเพราะว่าถ้าเก็บไว้หนูก็คงไม่ไหวเหมือนกัน แต่ทีนี้ก็ต้องขอโทษพี่ๆสื่อมวลชน ขอโทษแฟนคลับที่ตามอ่าน ตอนนั้นอาจจะมีอารมณ์ ต้องขอโทษด้วยหนูก็เป็นผู้หญิงคนนึงก็มีความรู้สึกเหมือนกัน”

นักร้องสาวตอบว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่รู้จักกันมา พอทราบอยู่บ้างว่าพี่เขาก็มีคนเข้ามาตลอดแต่มันไม่ได้กระทบกระเทือนต่อหนูโดยตรง คนที่เข้ามาเขารู้ว่าเราคุยกันอยู่ เขาก็ออกไปเอง แต่ครั้งนี้มันกระทบกับหนูจังๆ พูดจากระทบหนู เลยรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว พูดถึงหนูไม่ดี”

 ได้ข่าวว่าเขาตามง้ออยู่ “ครั้งล่าสุดเราคุยกันจบแล้ว ก่อนหน้านั้นมันมีหลายครั้งแล้วที่คุยกันมาหลายครั้ง ที่ผ่านมาเคยมีการคุยกัน ง้อกันคืนดีกันมาหลายครั้ง ให้อภัยกันอยู่แล้วแต่ครั้งนี้คุยกันจบแล้วจริงๆ”

 หนิมเผยว่า “เอาเป็นว่าคนนี้หนูไม่พูดพาดพิงถึงเขา ขอไม่พูดชื่อทั้งสองคนเลย หลังจากที่หนูโพสต์ข้อความลงไอจี เขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมา เพราะว่าเราคุยกันจบไปแล้ว คุยจบวันที่หนูลงไอจีค่ะ เพราะว่ามันทนไม่ไหวจริงๆ”

“ยอมรับว่าบล็อกเบอร์พี่เขาทั้งสองเบอร์ แต่เบอร์บ้านเขาก็รู้ โทรมาได้นิ่ค่ะ ถามว่าถ้าเขาง้อ เราโอเคไหม มันจบแล้วก็ให้มันจบไป”

 “เขาเป็นเพื่อนสนิท และเขาก็รักเรา เวลาที่เราเสียใจ เขาก็เป็นคนแรกที่เขาอยู่ข้างๆ และให้กำลังใจ เวลาเราเสียใจเขาก็เสียใจกับเราด้วย สิ่งที่เขาทำไปเป็นธรรมเพราะเขารักเรา”

 “มันทำใจมาเรื่อยๆพักนึงแล้ว กับเรื่องคนล่าสุดเพิ่งรู้เลย แต่ที่ทำใจได้เร็ว เพราะที่ผ่านมามันก็มีเรื่องแบบนี้มาเรื่อยๆ กับผู้หญิงคนอื่น เราก็เลยทำใจมานานแล้ว ที่ผ่านมาทนเพราะรัก คงยังไม่หมดกรรม แต่ตอนนี้หมดแล้ว และที่ผ่านมาเราก็เคลียร์ตลอด เขาก็สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ซึ่งหนูก็ยินดีที่จะให้อภัยอยู่แล้ว”

 ที่ผ่านมารู้สึกว่าครั้งนี้เสียเวลาไหม “เสียดายเวลาที่เสียไป แต่ไม่เสียใจที่วันนี้เลิกแล้วค่ะ”

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากสัมภาษณ์ ‘หนิม’ เสร็จก็มีแหล่งข่าวแจ้งว่าตอนนี้ ‘จิ๊บ-วสุ’ ได้เดินทางมาถึงลานจอดรถของโรงแรม เพื่อจะมาตามง้อนักร้องสาวในงานเพราะที่ผ่านมาไม่สามารถติดต่อฝ่ายหญิงได้ แต่ถูกทีมงานห้ามไว้ก่อน ขอให้งานก่อน พอนักร้องสาวทราบเรื่อง ไม่อยากเผชิญหน้ากับอดีตแฟน จึงรีบเดินทางกลับ โดยขอติดรถ ซานิ เพื่อนร่วมค่ายกลับ ส่วนรถของตัวเองนั้นยังจอดไว้ที่ลานจอดรถ

 “ที่ผ่านมีไม่เข้าใจกันบ้างมาบ้างแต่พอคุยกันแล้วดีขึ้น ก็กลับมาคุยกันอีก เป็นอย่างนี้ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา”

 นักร้องหนุ่มชี้แจงว่า “ยุคผมถ้าใช้คำว่าแฟนมันเป็นการบอกชัดเจนเลยว่ามันจะไปสู่อนาคตที่มั่นคง เราเองก็เคยผ่านการใช้ชีวิตคู่มาเคยผิดหวังมา เราคิดเยอะ อันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนใกล้ตัวทราบ เรายังไม่มีความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ถ้าเราใช้คำนี้ไปแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ผมคิดล่วงหน้าไปว่ามันไม่ดีกับผ่านหญิง ยุคสมัยนี้พอเราไม่พูดคำว่าแฟน มันกลายเป็นว่าไม่ให้เกียรติ มันเป็นเรื่องของทัศนะคติ”

“ไม่ใช่ครับ และฝากขอโทษไปทางคุณจ๊ะจ๋า ที่อยู่ๆก็มีชื่อเขาเข้ามา แต่ก็ยังยืนยันว่ายังคงต้องร่วมงานกับเขาต่อไป ความสนิทก็เป็นแบบนี้ต่อไป กับคุณจ๊ะจ๋เรารู้จัก ร่วมงาน โดยคุณจ๊ะจ๋ามาเป็นพิธีกรให้ เขาเป็นคนที่เก่งคล่อง มนุษย์สัมพันธ์ดี ทุกคนในวงการักใคร่เอ็นเหมือนกับเป็นน้องสาว มันอาจจะมีภาพ มีเรื่องให้เข้าใจผิด”

 ‘จิ๊บ-วสุ’ ตอบว่า “กับคนใกล้ชิดผมไม่ปิดบังกับทุกคน ผมเป็นคนที่รู้สึกไม่มั่นคงกับตัวเองว่าจะกลับไปไม่โสดรอบสองได้อีกหรือไม่ ในการที่เราจะไปประกาศชัดเจนว่าคนนี้จะเป็นคู่ชีวิตกับเราในอนาคต ผมต้องคิดเพราะมันมีหลายองค์ประกอบ ผมพูดแบบนี้กับคนใกล้ตัว เพราะผมจะเจอคำถามว่าเมื่อไรจะแต่งงานอีกครั้ง ผมก็พูดเหมือนกันทุกครั้งว่าผมไม่มั่นใจ ต้องใช้เวลา”

 เจ้าตัวยอมรับว่า “ผมพูดกับทั้งวงเดอะพาเลซ นั่งคุยกันหลังจากจบคอนเสิร์ต แต่มันไม่ใช่คำพูดที่ไม่ดี มันเป็นความจริง ผมไม่กล้าชัดเจนกับใครจริงๆ ถึงขั้นใช้คำว่าแฟน” 

 ที่ผ่านมาคบหนิมคนเดียว “ที่ผ่านมามีคุณหนิมมาโดยตลอด แต่เวลาที่ผ่านมามันก็มีคนอื่นเดินเข้ามาบ้าง ทั้งทางเขา และทางเรา มีคนเข้ามาขอศึกษา อยู่กันมาด้วยความเข้าใจ”

 นักร้องหนุ่มกล่าวว่า “ที่ออกมาพูดครั้งนี้เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และมายืนตรงนี้ตามความต้องการของคุณหนิม ถ้าเราพูดคุยกับสื่อได้เขาก็จะรับฟัง เวลาเกิดเรื่องไม่เข้าใจ ก็อยากให้หันหน้ามาคุยกัน การที่หันเดินหนี ปิดช่องทางการสื่อสาร มันไม่สามารถพูดคุยกันได้ หลังจากนี้ถ้ามีการพูดคุยกันแล้วจะมีผลอย่างไร ก็แล้วแต่ทางคุณหนิมผมพร้อมจะยอมรับแต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุย จากนี้ถ้าคุณหนิมยังปฏิเสธที่จะพูดคุย ที่จะเดินต่อผมก็เคารพการตัดสินใจ ถ้ารู้สึกว่าพูดปรับความเข้าใจกันได้ ผมก็รอโอกาสนั้นอยู่อะไรที่ผมทำให้เขารู้สึกเศร้า ผมขอโทษจริงๆ”