อานุภาพ ′พลัง′ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ Soft Power

ผาดแรกที่สัมผัสกับภาพ "หญิงเปลือย" โชว์เนื้อบริเวณท่อนแขนได้รับความบอบช้ำ คล้ำเขียวประสานเข้ากับขอบตาแดงก่ำ

ยอมรับว่า-สะเทือนใจ

ยิ่งเมื่อเพื่อนสนิท พอลล่า เทย์เลอร์ 1 ในแก๊ง "นางฟ้า" ออกมายืนยันด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า

"น่าจะเป็นรูปเจนี่"

"เจนี่" ในที่นี้หมายถึง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ หรือนามในใบทะเบียนสมรส คือ เจนี่ อัศวเหม ภรรยาของนายกเทศมนตรีปากน้ำ สมุทรปราการ

ยิ่งน่าเห็นใจ

ไม่ว่า "ภาพ" นี้จะหลุดออกมาอย่างไร โดยกระบวนการใด กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป้าหมายต้องการแสดงให้เห็นความเป็นจริงในบางด้าน

ความเป็นจริงในด้านของ "เจนี่"

และก็ชวนให้ Retro ไปยังเรื่องราวอันปรากฏผ่านคัมภีร์เต๋าของเลี่ยจื่อ สำนวนแปล ปกรณ์ ลิมปนุสรณ์ ในบทที่ 4 ขงจื่อ

ต้องอ่านสถานเดียว

กงอี้ปั๋วมีพละกำลังมาก เป็นที่ร่ำลือทั่วในหมู่ผู้ครองแว่นแคว้น เสนาบดีถังซีกงนำกิตติศัพท์ขึ้นเพ็ดทูล พระเจ้าโจวเซวียนหวังจึงทรงบัญชาให้จัดเครื่องบรรณาการไปเชิญตัวมา

ครั้นกงอี้ปั๋วมาถึง

พินิจรูปกายดูก็เห็นร่างเป็นเพียงผู้แคระแกร็นคนหนึ่งเท่านั้น พระเจ้าโจวเซวียนหวังประหลาดพระทัย ตรัสถามว่า

"พละกำลังของท่านมีถึงขนาดไหนกัน"

กงอี้ปั๋วตอบว่า "กำลังของข้าพเจ้านั้นเพียงพอที่สามารถหักขาตั๊กแตนแห่งฤดูวสันต์ได้ สามารถเด็ดปีกจักจั่นแห่งฤดูสารทได้"

โจวเซวียนหวังตรัสด้วยสีพระพักตร์ว่า

"พละกำลังของข้าเพียงพอที่จะฉีกหนังของแรดได้ พอที่จะฉุดรั้งหางวัวได้ถึง 9 ตัว ข้าก็ยังติว่าอ่อนแออยู่ ท่านมีกำลังเพียงหักขาตั๊กแตน เด็ดปีกจักจั่น ก็ได้ชื่อกระเดื่องใต้หล้าว่าเลิศในด้านพละกำลัง ไฉนจึงเป็นเช่นนั้นได้"

เป็นการตั้ง "ปุจฉา" ด้วยความ "กังขา"

เพราะว่า ความหมายของ "พละกำลัง" จากมุมของโจวเซวียนหวังเท่ากับ "ฉีกหนังของแรด" และ/หรือเท่ากับ "ฉุดรั้งหางวัวได้ถึง 9 ตัว"

"วิสัชนา" อันมาจากกงอี้ปั๋วจึง "สำคัญ"

คัมภีร์เต๋าของเลี่ยจื่อ สำนวนแปล ปกรณ์ ลิมปนุสรณ์ จึงดำเนินต่อไป กงอี้ปั๋วถอนหายใจยาว พลางเลื่อนกายถอยออกมา กล่าวว่า

"คำถามของพระองค์ท่านประเสริฐนัก ข้าพเจ้าขอเล่าความตามสัจจริงว่า อาจารย์ของข้าพเจ้ามีชื่อว่าซังซิวจื่อ เป็นผู้ทรงพลัง มิมีใครในใต้หล้าจะมาเทียมได้ แต่แม้หมู่ญาติเชื้อสนิทก็มิมีใครรู้คุณสมบัตินั้นเลยด้วยเหตุที่ตัวท่านไม่เคยแสดงพละกำลังออกมาให้เห็น

ข้าพเจ้าได้เข้าไปรับใช้อย่างถวายชีวิต จึงได้สอนบอกข้าพเจ้าเป็นความว่า

"ผู้คนย่อมปรารถนาจะเห็นในสิ่งที่ไม่อาจเห็น อยากมองในสิ่งที่คนไม่สังเกต ปรารถนาจะได้ในสิ่งที่ไม่อาจได้ อยากปฏิบัติในสิ่งที่คนไม่กระทำ

ดังนั้น ผู้ที่ฝึกปรือสายตาย่อมเพ่งมองท่อนฟืนในคันรถก่อน และผู้ที่ฝึกปรือโสตประสาทย่อมเงี่ยฟังเสียงเคาะค้อนระฆังก่อน เมื่อมีความง่ายอยู่ภายในแล้วย่อมปราศจากความยาก ณ ภายนอก เมื่อปราศจากความยากยังภายนอกชื่อเสียงย่อมไม่พ้นออกไปจากครอบครัวตน"

บัดนี้ ชื่อเสียงของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงหมู่ผู้ครองแว่นแคว้น

นับว่าเป็นการขืนคำสอนของอาจารย์โดยแท้ เพราะเผยความสามารถของตนให้ปรากฏออกมา กระนั้น ชื่อเสียงของข้าพเจ้าก็มิใช่ได้มาโดยความลำพองในพละกำลัง

แต่ได้มาเพราะสามารถใช้พละกำลัง"

หากอ่านที่ปรากฏจากคัมภีร์เลี่ยจื่ออย่างปรับประสานกับกรณีของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์

1 จะประจักษ์ในการปรากฏตัวของกงอี้ปั๋วและภาพเปลือยท่อนบนของหญิงสาว ขณะเดียวกัน 1 จะประจักษ์ต่อพลังของความอ่อนหยุ่น อย่างที่เรียกกันว่า Soft Power

ประการสำคัญ คือ ความเข้าใจใน "พลานุภาพ" แห่ง "พลัง"

.................

(ที่มา:มติชนรายวัน 28 ก.ค.2557)