กระแต-ศุกภักษร พอใจกับสิ่งที่มี

คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมานาน 9 ปี ชีวิตของนางเอกสาวสุดเซ็กซี่ กระแต-ศุภักษร ไชยมงคล ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วมากมาย วันนี้ “ดาวต่างมุม” เชื้อเชิญเธอมาเปิดใจเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต

สาวน้อยที่ชื่อ “กระแต” ก่อนเข้าวงการเป็นคนยังไง 

เป็นคนเงียบ ๆ มีโลกส่วนตัวสูง ค่อนข้างจะขี้อาย แต่มีคนถามว่าแล้วทำไมถึงกล้ามาประกวดดัชชี่ ตอนนั้นมีคนไปเจอกระแตเดินเที่ยวห้างที่เชียงใหม่ เขาก็มาบอกกระแตว่า พรุ่งนี้จะมีประกวดดัชชี่ที่เชียงใหม่ลองไปสมัครดูซิ เราก็เลยลองแล้วปรากฏว่าได้ เส้นทางบันเทิงเป็นอะไรที่กระแตไม่เคยฝัน พอเข้ามาชีวิตเปลี่ยนเลย จากเด็กสาวที่อยู่เชียงใหม่ไม่เคยมากรุงเทพฯเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็ต้องขึ้นมาเก็บตัวซ้อมการแสดง ตอนนั้นคิดว่าชีวิตในกรุงเทพฯวุ่นวายมากจนเราอยากกลับบ้าน ไม่กล้าไปไหนคนเดียว กลัวหลงทาง แรก ๆ ก็รับงานบทเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนนั้นอายุ 15 เอง หลังจากประกวดได้ก็ต้องเก็บตัวเรียนแอ๊คติ้งเป็นเรื่องใหญ่เลย วัน ๆ แค่เรียนแอ๊คติ้งกับเรียนหนังสือ

อะไรเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เราฉีกมารับงานเซ็กซี่ 

ระยะเวลาและทางผู้ใหญ่อยากให้ลองเปลี่ยนแนวบ้าง ตอนนั้น พี่ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล ติดต่อให้มาแสดงหนัง “ขุนแผน” เรียกว่าเป็นคนปั้นเราเลยก็ว่าได้ พอเปลี่ยนลุคส์มาเป็นเซ็กซี่ผู้ใหญ่ก็โอเค ครั้งแรกที่กระแตเล่นเซ็กซี่ กระแตเฉยมากไม่รู้สึกอะไร อาจเป็นเพราะว่าเราเก็บตัวมานาน พอถึงเวลาทำงานเลยตั้งใจเต็มที่ ไม่อยากให้มีปัญหา ถามว่าครั้งแรกที่เล่นเลิฟซีนรู้สึกเขินบ้างมั้ย เวลานั้นความตั้งใจมันล้ำหน้ามีมากกว่าความอาย เขาบอกให้เล่นก็เล่น แสดงแบบเต็มที่เทคเดียวผ่าน

ตัดสินใจลุกขึ้นมาเซ็กซี่เพราะตอนนั้นเราไม่ดังสักทีหรือเปล่า 

มันขึ้นอยู่กับงานที่ติดต่อเข้ามามากกว่า บางคนอยากให้เราไปถ่ายแบบใส ๆ แต่บางทีมีงานเซ็กซี่ติดต่อ กันที 3 งานติด เรา ก็ต้องเลือกรับว่าอันไหนดีที่สุด เหมือนตอนนี้ไม่ค่อยมีงานเซ็กซี่ติดต่อเข้ามา กระแตก็รับงานที่ไม่ เซ็กซี่

หลังจากถ่ายเซ็กซี่ไปกระแสตอบรับก็ดีนะ อาจมีบ้างที่บอกว่าเซ็กซี่เกินไป แต่เราก็ถือว่าเราทำงาน สังเกตได้ว่ากระแตจะเซ็กซี่เวลาทำงานเท่านั้น เช่น ถ่ายแฟชั่น หรือเวลาออกงาน คนเลยมองว่าเราเป็นคนเซ็กซี่ ทำให้ยากต่อการลบภาพตรงนี้ แต่จริง ๆ แล้วในชีวิตประจำวันกระแตจะแต่งตัวธรรมดามากใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีน

คิดว่าตัวเองเซ็กซี่ตรงไหน 

สรีระทั้งหมดเลย กระแตเป็นคนสูงยาวเข่าดี เพื่อน ๆ บางคนก็บอกอยากได้แขนกระแต เพราะมันเล็กดี บ้างก็บอกว่าอยากได้ขาเพราะเรียวดี แต่ส่วนใหญ่จะชอบหน้าอก ซึ่งจริง ๆ หน้าอกกระแตไม่ได้ใหญ่เลยนะ แค่ 31-32 นิ้วเอง แต่มันขึ้นอยู่กับการแต่งตัวของเรามากกว่า ถ้าใส่แบบปิด ๆ ก็ดูไม่มี

ดาราจำเป็นต้องขายเซ็กซี่หรือเปล่า 

มันเป็นที่เทรนด์ในขณะนั้นๆมากกว่า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เคยสังเกตมั้ย ถ้าแต่งตัวธรรมดามางานตากล้องก็ไม่ถ่ายรูปเผลอๆไม่ลงรูปเราเลยด้วยซ้ำแต่อย่างตัวกระแตเองเวลาออกงานจะไม่ได้เลือกชุดเองทางต้นสังกัดหรือเจ้าภาพที่จัดงานจะหาชุดมาให้ แต่ถ้าชุดไหนโป๊กระแตก็จะเซฟตัวเองด้วยการใส่เกาะอกไว้ข้างในเราไม่ใช่คนชอบโชว์ ขอแค่เซ็กซี่เล็กๆก็พอ

ก่อนเข้าวงการกระแตรู้สึกยังไงกับคนที่ถ่ายแบบเซ็กซี่ 

คำว่า “เซ็กซี่” ในความคิดของกระแตไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊ แค่เห็นอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอ มันอยู่ที่หน้าตาและสีหน้าของเรามากกว่า อย่างกระแตเวลาไม่ยิ้มคนจะมองว่าเราเซ็กซี่ เพราะคนติดภาพเราลักษณะแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ขณะเดียวกันถ้ากระแตยิ้มคนก็จะลืมภาพเซ็กซี่ของเราไป

ดูเหมือนช่วงนี้รับงานหวือหวาน้อยลง 

ไม่ได้น้อยลง กระแตโชคดีที่คนเสนองาน เขาอยากให้เราเปลี่ยนลุคส์ กระแตไม่มีสิทธิเลือกหรอกว่าตัวเองจะสลัดภาพเซ็กซี่โน่นนี่ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับงานที่ติดต่อเข้ามาหมด ถามว่ากระแตจะเซ็กซี่ไปอีกนานแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับจังหวะมากกว่า ถ้าช่วงนั้นมีคนติดต่อให้เล่นหนังที่ไม่ได้ขายเซ็กซี่ กระแตก็คงไม่สามารถรับงานเซ็กซี่ในขณะนั้นได้ ไม่อย่างนั้นภาพที่ออกมามันจะขัดกับงานหลักของเรา

ผ่านงานก็เยอะคิดว่างานไหนโชว์ความสามารถของเรามากกว่าความเซ็กซี่ 

งานหนังค่ะ หนังบางเรื่องอาจจะมีเซ็กซี่บ้าง แต่เราเต็มที่กับมันจริง ๆ รู้สึกภูมิใจในงานหนังของตัวเองทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าบางเรื่องจะไม่เข้าตาใครหลาย ๆ คน ถ้าให้เลือกเราก็อยากให้คนมองที่ความสามารถ กระแตเชื่อว่าทุกคนมองกระแตที่ความเซ็กซี่หมด บางคนถึงขนาดพูดว่าเราได้แต่โชว์เซ็กซี่ ไม่โกรธคนที่พูด คิดแค่ว่าขอให้งานเราได้ผ่านตาเขาก็พอใจแล้ว

ทุกวันนี้ทำงานเลี้ยงครอบครัวด้วยมั้ย 

ใช่ ส่วนหนึ่งก็ให้ที่บ้านหมด เชื่อมั้ยวันแรกที่กระแตมาอยู่กรุงเทพฯไม่มีอะไรเลยนะ ทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์หมด ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ฐานะปานกลาง จนกระทั่งเรามาทำงานก็เริ่มรับผิดชอบตัวเอง ทุกวันนี้เรามีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรถ คอนโด ถึงแม้จะไม่โดดเด่นเท่าคนอื่น แต่กระแตก็พอใจที่ไม่มีหนี้สิน ขณะเดียวกันเราก็สามารถดูแลพ่อแม่ในแต่ละเดือน ให้เงินพ่อแม่ทำธุรกิจที่เชียงใหม่ พ่อกับแม่เคยถามกระแตว่าไม่คิดทำธุรกิจเหรอ กระแตก็ถามเขากลับไปว่า จะทำไปทำไม เราไม่ได้ยากจนอะไร เราก็มีเงินใช้ได้อีกหลายปี กระแตไม่กล้าทำธุรกิจเลยเอาเงินให้พ่อแม่ทำแทน เพราะเขามีความสามารถมากกว่าเรา มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อพ่อแม่

แล้วความรักล่ะเป็นไงบ้าง 

ไม่มีเวลาเจอใครเลย เราไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นทั่วไปที่สามารถไปเจอกับแฟนได้ตามที่เขาต้องการ แต่ถ้ามีเวลาก็ไป กระแตเป็นคนเปิดเผยใช้ชีวิตปกติ จะไปกินข้าวหรือดูหนังก็ไป ไม่เคยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ความสัมพันธ์กับหนุ่มนักบิน ก็เป็นเพื่อนกัน เพราะกระแตไม่มีเวลาจริง ๆ แล้วเราก็ไม่ได้มานั่งคุยว่าจะพัฒนาอะไรไปถึงไหน แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดตอนนี้ เวลาเราว่างเขาก็พร้อมที่จะไปโน่นไปนี่กับเรา และเขาก็พร้อมที่จะให้กำลังใจเรา

ผู้ชายแบบไหนที่เราอยากใช้ชีวิตคู่ด้วย 

ซื่อสัตย์ ไม่พูดโกหก มีน้ำใจและใจดี เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอแล้ว กับเพื่อนที่เป็นนักบิน กระแตก็ยังไม่แน่ใจนะ เพราะเราแทบไม่มีเวลาให้เขาเลย ตอนนี้ยังตอบไม่ได้จริง ๆ ขอเป็นเพื่อนไปแบบนี้เรื่อย ๆ ดีกว่า แต่กระแตก็อยากจะแต่งงานนะ ถ้าได้เจอคนที่ใช่ ก็อาจจะแต่งงานภายใน 5 ปีนี้ เพราะอยากมีกมาก ๆ ชอบอยู่กับเด็ก 

9 ปีกับชีวิตในวงการบันเทิงเป็นยังไงบ้าง 

โชคดีกระแตมีชีวิตแบบขั้นบันได ไม่ได้อยู่ดี ๆ ก้าวกระโดดเลย ถ้าสมมุติว่าเข้ามาปุ๊บแล้วดังเลยมันอาจทำให้ความรู้สึกของเราเปลี่ยนไปก็ได้ การที่เราขึ้นตามลำดับขั้นทำให้ทุกครั้งที่เราก้าวเราสามารถกลับไปมองตัวเองได้ การที่เป็นแบบนี้ทำให้เราไม่เคยลืมว่าชีวิตเราเคยผ่านอะไรมาบ้าง