ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา หนุ่มๆ ในแวดวงบันเทิง โดยเฉพาะพระเอกสุดหล่อ นักร้องหน้าตาดี ที่โดนใจสาวๆ มักจะถูกขาเม้าท์ลือกันให้สนั่น ว่าเป็นพวกเพศที่สามหลบใน หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าเป็น "เกย์" แต่ไม่แสดงออก นั่นเอง
ถ้าให้ลองไล่ดูว่ามีใครบ้างที่เข้าข่ายถูกเม้าท์ เรียกว่า คิวยาวเป็นหางว่าว ไม่ว่าจะเป็น "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย์ "ดัง" พันกร บุณยะจินดา, จอนนี่ แอนโฟเน่, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, "ต่าย" ณัฐพล ลียะวณิช, แอนดริว เกร้กสัน, "ไอซ์" ศรัณยู วินัยพานิช, อานัส ฬาพานิช, "อั้ม" อธิชาติ ชุมนานนท์, "อั๊ต" อัษฎา พานิชกุล, ป๊อด โมเดิร์นด็อก ฯลฯ แต่อันนี้ก็ไม่รู้นะ...ว่า "ชัวร์" หรือ "มั่วนิ่ม"
เอ...แล้วทำไม บรรดาหนุ่มๆ ในวงการบันเทิงถึงถูกครหา หรือแปรเปลี่ยนจากชายรักหญิง ไปนิยมชายด้วยกันล่ะ...ลองไปฟังความคิดเห็นเหล่านี้กัน
อ.วัลลภ ปิยะมโนธรรม ที่ปรึกษาศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า การที่ผู้ชายในวงการบันเทิง ถูกมองว่าเป็นเกย์เป็นจำนวนมาก มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ความเป็นดารา นักแสดง ซึ่งต้องแสดงได้ทุกบทบาท เช่น จากคนไม่ทุกข์ หากต้องสวมบทบาททุกข์ก็ต้องทุกข์ได้ ชีวิตจริงไม่เคยแต่งโป๊ แต่ก็ต้องแต่ง ด่าไม่เป็น ก็ต้องด่าได้ และคนที่ทำแบบนี้ได้ มักเรียกว่า คนที่มีเอกลักษณ์ไม่แน่น หรือเอกลักษณ์สับสน
"คนประเภทนี้ มักจะพบเห็นในกลุ่มเกย์ พวกนี้จะแสดงบทบาทต่างๆ ได้เก่ง ช่องทางที่ดีที่สุดของงาน ที่เขาจะทำได้ก็คือ การเข้ามาเป็นนักแสดง รวมถึงพอมีเกย์มาเป็นนักแสดง มาเจอกับกะเทยที่เป็นช่างทำผม ช่างแต่งหน้า ก็เลยทำให้เป็นกลุ่มก้อน และดูเยอะ ใครก้าวเข้ามาแนวโน้มจึงถูกมองว่าเป็นเกย์
ปัจจัยต่อมา คนที่เป็นนักแสดงต้องอดทน เพราะต้องถ่ายทำละครทั้งคืน ต้องนอนในรถบ้าง ไปนอนค้างที่นั่นที่นี่บ้าง ซึ่งพอต้องค้างจะให้ผู้หญิงไปนอนห้องเดียวกับผู้ชาย เดี๋ยวจะถูกมองไม่ดี ผู้ชายเลยต้องนอนห้องเดียวกับผู้ชายด้วยกัน โอกาสที่จะได้ใกล้ชิด สร้างความสัมพันธ์ ผูกพันจึงสูง
บางคนก่อนหน้านี้อาจไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้อยากมีสัมพันธ์ระหว่างชายด้วยกัน แต่พอใกล้ชิด เกิดความผูกพัน ประกอบกับ แม้จะเป็นดาราชายด้วยกัน แต่เพราะต่างคนต่างมีรูปร่าง หน้าตาดีเหมือนกัน เลยไม่รังเกียจกัน เรียกว่า คนที่เป็นเกย์มากกว่า ก็กระตุ้นคนที่ไม่เป็น หรือเป็นน้อยกว่า ซึ่งเอกลักษณ์ไม่แน่นอนอยู่แล้ว ก็เลยหวั่นไหว"
อ.วัลลภ กล่าวต่อว่า อีกส่วนหนึ่ง การที่ชายรักชายลามมาจากเมืองนอก โดยถูกมองว่าเป็นแฟชั่น ยิ่งคนในวงการบันเทิงหน้าตาดี ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย ทำให้ไม่มีใครง้อใคร ไม่เหมือนกลุ่มเพศเดียวกัน ที่มักจะเอาอกเอาใจกันมากกว่า รวมถึงคนกลุ่มนี้จะมีความคิดที่ว่า หากชายหญิงรักกันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าชายพิชิตชายได้ถือว่าโคตรเท่
ด้าน ต้อย แอคเนอร์ ให้ความเห็นว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้หนุ่มๆ ในวงการบันเทิงถูกมองว่าเป็นเกย์ เป็นเพราะพื้นฐาน ดาราเป็นคนหน้าตาดี พอหน้าตาดี ก็จะถูกมองไปได้ว่าเป็นเกย์ ซึ่ง 70 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าไม่เป็นเรื่องจริง คาดว่ามีประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นเรื่องจริง แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อย
"คนที่เป็นเกย์จริง 2-3 ปี ก็จะมีอาการที่แสดงออกให้เห็น อีกส่วนหนึ่งคนที่ยอมเป็นก็มี นั่นคือ เป็นช่วงตะกายดาว พวกนี้อยากเป็นดาราจะยอมทุกอย่าง แต่อันนี้ไม่เฉพาะวงการบันเทิงนะ เป็นในทุกวงการ ซึ่งในวงการบันเทิงเป็นที่รู้กันดีว่า คนที่จะเข้ามาต้องมีเส้นสาย และแทบทุกบริษัทก็จะมีคนที่เป็นเกย์ เป็นกะเทยอยู่ พวกนี้อาจจะล่อให้ตกหลุมพรางได้"
นารี เหลืองวิฑิตกุล คนดูทางบ้าน ให้ความเห็นที่ดาราชายโดนลือกระหน่ำว่าเป็นเกย์ว่า หลังจากข่าวลือเรื่อง "แหม่ม" คัทลียา แมคอินทอช ท้องเป็นความจริง ทำให้ ณ วันนี้เวลามีข่าวลือที่เป็นข่าว จะเชื่อแทบทุกเรื่อง รวมถึงข่าวลือดาราชายหลายคนที่ว่าเป็นเกย์ เพราะมองว่า หากไม่มีมูลความจริง คนคงไม่กล้าพูด กล้าลือ
"จากสภาพแวดล้อมทุกวันนี้ ทำให้การเป็นเกย์กลายเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องรสนิยมทางเพศของแต่ละคน ซึ่งไม่แปลก หากดาราที่เราเห็นว่าหน้าตาหล่อเหลา เป็นพระเอกดังจะกลายเป็นเกย์ เขาอาจจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้น สาเหตุที่คนในวงการบันเทิงเป็นเกย์กันเยอะ ดิฉันมองว่า เพราะเขาเป็นคนดัง จึงมีคนอยากเข้าหากันเยอะ รวมถึงเกย์ด้วย ในขณะที่ดาราด้วยกันก็หน้าตาดี ก็เป็นไปได้ที่จะชอบพอกันเอง" คนดูคนเดิม กล่าว
สาวๆ อย่าเพิ่งน้ำตาตก ปลงในชีวิต เพราะเกรงว่า หนุ่มหน้าตาดีจะหนีไปรักเพศเดียวกันเสียหมด ถึงอย่างไรซะโลกย่อมสร้างสมดุลมาเสมอ
ท้ายสุดไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ก็ไม่ใช่เรื่องผิด หากสิ่งสำคัญคนเราวัดกันที่ความดี ถ้าคุณประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เชื่อแน่ว่า ทุกคนพร้อมเปิดใจ อ้าแขนรับอย่างไม่คิดรังเกียจ รังงอน
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
https://www.facebook.com/teeneedotcom