ฝ้าย นางงามยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ชี้แจงภาพบารากู่แค่ เป่าลูกโป่ง
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ฝ้าย นางงามยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ชี้แจงภาพบารากู่แค่ เป่าลูกโป่ง
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ ชั้น10 ตึกปฏิบัติการออกอากาศ อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ ถ.พระราม สาวงามที่ได้รับตำแหน่งจากเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557
นำโดย น้องฝ้าย น.ส.เวฬุรีย์ ดิษยบุตร มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 น้องแอลลี่ น.ส.พิมพ์บงกช จันทร์แก้ว รองอันดับ 1 และน้องน้ำเพชร น.ส.สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ รองอันดับ 2 เดินทางมาออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3โดยได้พูดถึงกรณีกระแสโซเชียลมีเดียถึงความไม่เหมาะสมของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และรองอันดับ 2
น้องฝ้าย เผยว่า จริงๆ แล้วตอนที่ได้รับรางวัลรู้สึกดีใจมาก ผลการตัดสินกรรมการเราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่คิดว่าจะได้ตอนนั้นคิดว่าเป็นแอลลี่ แต่ผลออกมากรรมการตัดสินเป็นฝ้าย ส่วนเรื่องที่เป็นกระแสต้องกราบขอโทษแฟนๆ นางงามทุกคน รวมทั้งคนไทยทั้งประเทศด้วย แล้วจะนำเอาคำติชมกลับไปแก้ไขและทำหน้าที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ให้ดีที่สุด จากกระแสที่ผ่านมารู้สึกเครียดบ้าง แต่ก็ได้กำลังใจจากคนรอบข้างและพยายามไม่เก็บไปคิด จริงๆ แล้วตัวเองก็เชียร์แอลลี่มาตลอด ทุกคนรักแอลลี่ทั้งหมด แอลลี่พูดภาษาไทยไม่ชัดแต่ก็เป็นเสน่ห์ของเขา เมื่อผลการตัดสินออกมาแล้ว เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ทำได้แค่ให้กำลังใจกันและกัน ส่วนเรื่องถอนตัวไม่ได้คิด เพราะกรรมการเลือกมาแล้ว กองประกวดคัดสรรมาอย่างดี การที่เขาเลือกฝ้ายคิดว่าตรงกับที่คณะกรรมการต้องการ แต่ก็จะแก้ไขปรับปรุงตัวเองให้มากที่สุด
สำหรับกรณีกระแสของโซเชียลมีเดียที่มีถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมนั้นน้องฝ้ายกล่าวว่าเป็นการใช้ถ้อยคำกับเพื่อนสนิทอาจจะเป็นด้วยความเป็นวัยรุ่นที่คึกคะนอง ไม่ไตร่ตรอง พอเข้าร่วมกิจกรรมกับกองประกวดได้รับการอบรบจากพี่เลี้ยงเป็นอย่างดีทำให้รู้ว่าไม่ควรใช้ถ้อยคำแบบนั้นและสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องรูปร่างไม่เฟิร์มฝ้ายยอมรับว่าตอนนี้ดูท้วมไปนิดนึงเมื่อมาจุดนี้ต้งอพัฒนาให้กล้ามเนื้อเฟิร์มก่อนไปประกวด
ขณะที่ น้องแอลลี่ รองอันดับ 1 กล่าวพร้อมกับสะอื้นไห้ว่า เตรียมตัวมาประกวด 9 เดือน ที่ร้องไห้ทั้งมีเสียใจและดีใจที่มีคนมาเชียร์เรามาก เพราะกลัวคนไทยไม่ชอบ ที่ตนพูดภาษาไทยไม่ชัด ตอนประกาศผลผู้ที่ได้รับตำแหน่งก็รู้สึกช็อก เพราะการเป็นนางงามเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก ที่จะได้เป็นตัวแทนคนไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ทุกคนมีความฝัน และมีทั้งฝันที่เป็นจริงและไม่เป็นจริงตัวเองทำเต็มที่แล้ว ที่ผ่านมาเตรียมตัวมาทุกอย่าง โดยเฉพาะด้านภาษาไทย แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ผลการตัดสินออกมาแล้วก็ต้องยอมรับ ทั้งนี้ ได้กล่าวให้กำลังใจฝ้ายว่า ไม่ได้โกรธไม่ได้อิจฉา และรู้ว่าพี่ฝ้ายเป็นคนน่ารักและเป็นคนดี
ด้าน น้องน้ำเพชร เผยพร้อมน้ำตาถึงเรื่องความข้องใจเกี่ยวกับอายุของตนเองว่า ถ้าเข้าไปดูในประวัติดีๆ ตอนประกวดกอสซิบเกิร์ล หลักฐานต่างๆ ตอนนั้นอายุ 20 ปี 9 เดือน ปัจจุบันอายุ 21 ปี 11 เดือน ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นเรื่องคาบเกี่ยวกัน จากนี้จะทำหน้าที่ของรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ให้ดีที่สุด อยากพูดว่าหนูยังไม่สวยพร้อม ยังไม่ดีพร้อมแต่พร้อมจะเป็นคนดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะน้องน้ำเพชรให้สัมภาษณ์และยกมือก้มศีรษะไหว้ขอโทษนั้น ปรากฎว่า ส่วนกลางของมงกุฎที่สวมอยู่เกิดหักลงมา ทำให้เจ้าตัวถึงกับหน้าเสีย
หลังจากจบรายการ กองประกวดได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติม โดยผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรกับกระแสโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้น น้องฝ้าย เผยว่า ตอนนี้ฝ้ายได้กำลังใจจากคนรอบข้างเยอะมาก ซึ่งก็ทำให้วันนี้ฝ้ายเข้มแข็งขึ้น เกี่ยวกับเรื่องกระแสในโซเชียลมีเดีย คนรอบข้างก็จะบอกมาว่าเป็นอย่างไรแต่เขาก็ไม่ให้เข้าไปดู เพราะจะบั่นทอนจิตใจเราเปล่าๆ ที่รู้เป็นการรับฟังมาจากคนรอบข้างมากกว่า
ต่อข้อถามถึงกรณีที่มีคนเข้าใจว่าเป็นนักแสดงช่อง 3 แล้วมีการล็อกตัวนั้น น้องฝ้ายเผยว่า ยืนยันว่าไม่ได้ล็อกตัวแน่นอน ซึ่งจะเห็นจากวันที่ประกาศผลเลยว่า หนูตกใจมากจริงๆ ไม่ได้รู้อะไรเลย ส่วนการได้รับตำแหน่งเพื่อโปรโมตละครอาทิตย์หน้านั้นคงไม่ใช่ เพราะการแสดงละครเรื่องนี้เป็นเหมือนการฝึกงานของสตอเบอร์รี่ ชีสเค้ก และบทหนูก็เป็นบทที่เล็กมาก ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องมาโปรโมตหรือล็อกเลย
ส่วนกรณีเรื่องการวางตัวไม่เหมาะสมอย่างที่พูดในโลกโซเชียลมีเดีย ก่อนอื่นฝ้ายต้องขอโทษพี่ๆ แฟนนางงามและคนไทยทั้งประเทศ ที่ฝ้ายอาจจะวางตัวไม่เหมาะสมแต่ว่าฝ้ายขอยืนยันเลยนะคะว่า ต่อไปนี้จะไม่มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะตอนนี้ฝ้ายได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้วด้วย ฝ้ายก็ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนและเด็กด้วย และฝ้ายอยากจะน้อมรับทุกๆคำติชมทุกอย่าง เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีภาพสูบบารากุว่าไม่เหมาะสมนั้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุด ตอบว่า ภาพนั้นเกิดจากการไปกินอาหารอินเดียแถวถนนข้าวสาร ซึ่งมันจะมีเกมส์เล่นระหว่างรออาหาร ซึ่งไม่มีอะไรแค่เล่นกันแค่เป่าลูกโป่งเล่นๆ กันที่เป็นสบู่เฉยๆ ส่วนที่เห็นว่าหนูถือนั้นเพื่อนฝากถือ เพราะเพื่อนถ่ายรูปต้องฝากหนูถือ ไปกันแค่สองคน
ส่วนกรณีเกี่ยวกับความคิดเห็นทางการเมือง ฝ้ายเผยว่า จริงๆ ฝ้ายไม่มีสี พ่อแม่หนูสอนให้รักในหลวงค่ะ เพราะว่าเราเป็นคนไทยและฝ้ายก็เชื่อว่าทุกคนในที่นี้รักในหลวงเหมือนฝ้าย เพราะฉะนั้นฝ้ายอยู่ตรงนี้ การเขียนข้อความทางการเมืองอาจจะเป็นช่วงที่เราอยู่ในวัยรุ่น อาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบหนึ่งในช่วงนั้นซึ่งนานมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มีคนเอารูปภาพในอดีตมาแฉ
“ตอนแรกก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน เพราะด้วยความที่มันเข้ามาทีเดียวเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ แต่ว่ามันก็ดีที่คนรอบข้างเข้าใจทุกคนเลยว่าจริงๆแล้วเราเป็นคนอย่างไร และก็มีทั้งเพื่อน พ่อแม่ ญาติพี่น้องทุกคนให้กำลังใจฝ้าย ว่าอย่าเก็บไปคิดมากมายเพราะนั่นเป็นอดีตเราไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขได้อีก แค่วันนี้เราทำให้ดีที่สุด เราได้รับหน้าที่อะไรมาเราก็ทำให้ดีที่สุด ให้ทุกๆคนที่เขาคาดหวังเอาไว้เขาภูมิใจและประทับใจว่าเราสามารถทำได้”
ส่วนกระแสเรื่องการสละตำแหน่งคงไม่สละตำแหน่งเอาเป็นว่าฝ้ายอยากจะให้ทุกคนดูพัฒนาการของฝ้ายดีกว่าว่าฝ้ายจะสามารถพัฒนาตัวเองไปได้ไกลแค่ไหนแล้วอยากจะให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจเป็นแรงเชียร์ให้ฝ้ายที่จะไปประกวดในเวทีโลกดีกว่า
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องการเขียนทวิตเตอร์และโซเชียลมีเดียอื่นๆนั้นน้องฝ้ายเผยว่า ได้ปิดแล้วจากพี่ที่คอยดูแล ไม่ได้ถูกผู้ใหญ่สั่งแต่อย่างใด ตอนนี้เลิกเล่นโซเชียลมีเดียทุกอย่าง ขอโฟกัสไปที่การพัฒนาตัวเองมากกว่าค่ะ ส่วนประเด็นเรื่องข้อความที่เขียนว่าเป็นเมียน้อยครูสอนโยคะในทวิตเตอร์นั้น มาจากที่ตอนนั้นตัวเองอ้วนมากก็เลยไปเรียนโยคะทุกเย็นจนไม่มีเวลาให้เพื่อน เพื่อนน้อยใจจึงนำมาตั้งเป็นฉายาให้ตลกๆ เท่านั้น
“เรื่องที่ว่าหนูแรงคือจริงๆ แล้ว จริงๆแล้วคนรอบตัวฝ้ายก็จะเห็นและรู้หมดว่าฝ้ายเป็นคนอย่างไร บางทีการรับฟังจากด้านเดียวไม่สามารถบอกได้ว่าฝ้ายจะต้องเป็นคนแรงหรือเป็นคนนิสัยไม่ดี หรือใช้คำหยาบตลอดเวลา คือฝ้ายก็ไม่ได้ใช้ตลอดเวลาตอนนี้ฝ้ายเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้ว ก็ต้องประพฤติตัวดีให้เหมาะสมกับที่ฝ้ายได้ตำแหน่งมาและก็ฝ้ายอยากจะขอสัญญากับทุกๆคนว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบในอดีตเกิดขึ้นอีกและก็จะตั้งใจพัฒนาเพื่อให้ทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฝ้ายให้มากที่สุด” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ กล่าว
ส่วนประเด็นความเหมาะสมกับตำแหน่งน้องฝ้ายเผยว่า
ไม่ได้เป็นคนตัดสินว่าจะต้องได้ตำแหน่งนี้ คนที่ตัดสินเป็นคณะกรรมการซึ่งเราจะต้องยอมรับว่าคณะกรรมการเขาตัดสินมาอย่างไร เราไม่สามารถแก้ไขได้ คิดว่ารอยยิ้มที่จริงใจกับการตอบคำถามที่ทำให้ได้รับตำแหน่ง การถูกเปรียบเทียบนั้นค่อนข้างกดดัน แต่จะเอาแรงกดดันตรงนั้นมาเป็นกำลังใจให้เราฮึดสู้ต่อไป พัฒนาปรับปรุงตัวเอง และขอยืนยันว่าจะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป
ขณะที่ น.ส.พิมบงกช ตอบคำถามที่ว่ามีความเหมาะสมมากกว่าว่า หนูก็ต้องเคารพการตัดสินของคณะกรรมการ หนูต้องยอมรับเพราะหนูเป็นนักกีฬา ถ้าเป็นนักกีฬาต้องรู้ว่าต้องรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย หนูต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น หากถามว่าเสียใจไหมในการทุ่มเทมาตลอด 9 เดือน ถ้าพูดจริงๆจากใจก็เสียใจค่ะ นี่เป็นความฝัน เสียใจนิดหน่อยไม่เยอะ ดีใจมากกว่าที่หนูได้มาตามฝัน เพราะว่าทุกคนมีความฝันแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเดินตามฝัน ตนดีใจที่ได้เดินตามฝัน แต่วินาทีนั้น ที่มีเสียงเชียร์แอลลี่มาก สิ่งนั้นทำให้แอลลี่ร้องไห้ เพราะดีใจไม่รู้ว่ามีคนรักหนูขนาดนั้น หนูไม่เคยคิดว่าคนจะรักหนูขนาดนี้ ดีใจมาก ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หนู ตอนนั้นที่ร้องไห้ออกมาบนเวที ก็ไม่ได้เสียใจแต่ดีใจ ที่มีคนเชียร์และตะโกนเรียกชื่อหนู หนูก็อยากหยุดร้องไห้แต่หยุดไม่ได้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หนู ทั้งที่ประเทศไทยและลอสแองเจิลลิส ถ้าไม่มีทุกคนก็คงไม่มีกำลังใจขนาดนี้
สำหรับคำถามที่ว่ากองประกวดได้ส่งตั๋วเครื่องบินให้มาประกวดนั้นแอลลี่ไม่รู้ว่าทำไมเขียนแบบนั้นเพราะนี่เป็นความฝันของแอลลี่เองไม่ใช่ของคนอื่นนี่เป็นสิ่งที่ตนอยากทำแม่เป็นคนซื้อตั๋วเครื่องบินมาให้
ด้านน้ำเพชร กล่าวถึงสภาพจิตใจหลักจากถูกกระแสเรื่องความไม่เหมาะสมกับตำแหน่งว่า สภาพจิตใจตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองได้ตำแหน่งก็ทั้งดีใจและเตรียมใจยอมรับ ว่าสิ่งที่ตามมาจะเกิดอะไรขึ้น และพยายามทำใจให้เข้มแข็ง โดยที่วันแรกก็ยังไม่ได้เช็คข่าวในโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดกระแสว่าทำไมถึงไม่ออกมาพูดอะไรเลย โกหกหรือเปล่า และตอนนี้สภาพจิตใจก็เข้มแข็งเต็มร้อย เตรียมใจไว้แล้วเพราะหนูคิดว่าการมายืนอยู่จุดนี้ มีทั้งคนรักและคนเกลียดเป็นธรรมดา สิ่งเหล่านี้เราทำใจตั้งแต่ก่อนประกวดแล้ว อดีตที่ผ่านมาน้ำเพชรไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้จริงๆ แต่ปัจจุบันน้ำเพชรอยากให้ทุกคนในสังคม ทุกคนที่เป็นแฟนคลับนางงามและคนไทยทุกคนให้มองและโฟกัสในส่วนที่น้ำเพชรทำความดีอย่างมูลนิธิจิตอาสาพัฒนาชนบทไม่ใช่ว่าน้ำเพชรอาจจะเคยประกวดในทางเซ็กซี่มาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำเพชรเป็นคนที่แรงหรือเป็นคนที่ไม่ดีนะคะ
ส่วนเรื่องโกงอายุตามสูติบัตรเขียนไว้อยู่ว่าหนูเกิดที่โรงพยาบาลราชวิถี เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 เวลา 13.41 น. ส่วนเรื่องการโกงอายุในการประกวดอาจจะมีเข้าใจผิด หนูขอชี้แจงในส่วนที่หนูประกวดกอสซิป เกิร์ล ตอนนั้นหนูอายุ 20 ปี 9 เดือน ซึ่งตอนนั้นยังไม่เต็ม 21 หนูก็มีสิทธิพูดว่าหนู 20 ปีอยู่ ณ ตอนที่หนูมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ตอนนี้หนูอายุ 21 ปีกับ 11 เดือน อายุมันคลุมเครือหนูก็อยากจะชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิดสำหรับแฟนคลับนางงามหรือเพื่อนๆหลายๆคนที่จับตามอง เพราะว่าหนูเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าหนูจะได้มาถึงจุดนี้ นี่คือฝันของหนู ส่วนรูปภาพที่มีการคร่อมเอวผู้ชายนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่หนูประกวดฟิตแอนด์เฟิร์ม บัดดี้เสิร์ชปี 2012 เป็นการประกวดที่ให้คู่บัดดี้ออกกำลังกาย ทีมงานก็จะมีท่าให้เราซิทอัพ คือเป็นการประกวดที่ค่อนข้างเซ็กซี่ ซึ่งกำลังซิทอัพอยู่รูปเลยออกมาแรง
ด้าน นางประณม ถาวรเวศ ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เผยถึงกระแสความความศรัทธาที่ลดลงสำหรับเวทีนี้ว่า เราเองต้องเคารพในการตัดสินของกรรมการ สิ่งที่เราจะต้องดำเนินการต่อไปคือเตรียมความพร้อมของน้องฝ้าย ก่อนไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยมีตารางทำงานให้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มั่นใจต้องเห็นการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีระยะเวลาการทำงานทั้งหมดประมาณ 4 เดือน ก่อนไปประกวดในช่วงปลายปีนี้
ส่วนกรณีที่หลายคนพูดว่า ในเมื่อมีคนที่พร้อมกว่าน้องฝ้ายทำไมไม่เลือกนั้น นางประณม เผยว่า กองประกวดฯ ต้องยอมรับคำตัดสินของกรรมการ ส่วนข่าวลือว่าฝ้ายเส้นใหญ่เพราะเป็นเด็กค่ายกันตนา ปฏิเสธว่าไม่น่าใช่ ที่ผ่านมาก็ได้มีการตรวจสอบทางโซเชียลมีเดียแต่ยังไม่มาก ส่วนจะไปสู้สาวงามคู่แข่งได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวมีความคิดเห็นว่าคู่แข่งก็คือคู่แข่ง เป็นพลังให้เราไปฟิต ดีเสียอีกที่เราได้เห็นคู่แข่งที่เราจะได้เอามาเป็นแรงผลักทำให้เราสู้คู่แข่งได้ เพราะถ้าเราไม่เห็นคู่แข่งก้ไม่รู้จะสู้กับใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดได้มีการเปิดอินสตราแกรมที่ใช้ชื่อว่า FYIEE_ โดยมีรูปของน้องฝ้ายเป็นรูปประจำตัว ซึ่งตั้งใหม่เป็นอินสตราแกรมส่วนตัว
https://www.facebook.com/teeneedotcom