อย่ามนม อย่ามโน กิ๊บซี่-ใบเตย กับคำถาม...แต่งตัวไม่รับผิดชอบสังคม?

มันคืออะไร?

ใบเตย-กิ๊บซี่ มีคำอธิบาย

"การแต่งตัวกว่าจะมาเป็นแบบนี้ก็หล่อหลอมมาเรื่อยๆ กางเกงขายาวก็เคยใส่ แต่ตอนนี้การใส่ขาสั้นเป็นเรื่องปกติแล้ว และกิ๊บเป็นคนตัวเล็ก ชอบความทะมัดทะแมง ไม่ชอบอะไรที่รุ่มร่าม กิ๊บเป็นคนแคชวลมาก เสื้อตัวกางเกงตัว เกรอะกรัง ใส่รองเท้าคู่เดียว กิ๊บไม่ชอบต้องมาคิดว่าวันนี้ออกจากบ้านจะใส่อะไร" กิ๊บซี่อธิบายเรื่องการนุ่งสั้นของเธอ

"แต่กิ๊บก็จะมีอีกหลายมุมมากๆ กิ๊บไม่เชื่อว่าคนเราเห็นยังไงแล้วมันจะเดาได้ทั้งหมดว่าเขาเป็นยังไง คนเรามันมีมิติ ไม่ได้แบน ไม่ใช่ว่าแต่งตัวโป๊แล้วจะต้องมาพร้อมกับความโง่ มันไม่เกี่ยวเลย ไม่ใช่ว่าแต่งตัวโป๊แล้วจะไปในด้านเดียวหมด แบบมุมหญิงไทยรักนวลสงวนตัวก็มีนะคะ จัดดอกไม้ ทำอาหาร การบ้านการเรือนเป็นเลิศมาก ถามใครก็ได้"

กิ๊บซี่พูดในสิ่งที่เธอคิดอย่างฉะฉานไม่ปกปิด

แล้วเธอก็เล่าเรื่องสั้นๆ ให้เราฟังอีกยาว

"กิ๊บ เคยเจอต่อหน้าครั้งหนึ่ง เดินๆ อยู่มีคนบอกว่า "แต่งตัวไม่เหมาะสม ไม่รับผิดชอบสังคม"

กิ๊บว่ากิ๊บก็ไม่ได้แต่งตัวแปลกกว่าคนที่เขาเดินอยู่ทั่วไปตรงไหน กางเกงขาสั้น สายเดี่ยว แหม...ไม่ใช่กิ๊บใส่คนเดียวในโลก นี่มันยุคไหนสมัยไหน จะให้นุ่งสไบเฉียงออกจากบ้านเหรอ คนสมัยก่อนก็ใช่ว่าไม่โป๊นะ ก็นุ่งกระโจมอกกัน เราควรอนุรักษ์วัฒนธรรมอะไรที่มันควร กิ๊บก็หัวโบราณในบางเรื่อง เวลาเข้าวัดทำบุญกิ๊บก็ไม่ได้แต่งอย่างนั้น กิ๊บก็เป็นคนสวดมนต์ไหว้พระ แล้วมีใครรู้ล่ะ ไม่มี...(เน้นเสียง)

บางอย่างก็อยากให้มองแบบเปิดใจ ให้ทันสมัยบ้าง บางอย่างก็มองแบบเก่า ให้มันผสมผสานไป
 
ไม่ใช่ว่าพูดอยู่อย่างเดียวว่าไม่เหมาะสม แล้วอะไรคือเหมาะสม นี่มันคือสไตล์ของฉัน แต่เธอบอกว่าเหมาะสมคือแบบที่เธอเป็น ก็ฉันไม่ชอบอย่างเธอ มันพูดยากเรื่องพวกนี้ นานาจิตตัง มันเป็นเรื่องของรสนิยม กิ๊บไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองเพราะใครบอกได้

ทุกอย่างที่กิ๊บทำมีขอบเขต ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตใครเลย เพราะฉะนั้น เชื่อตัวเองดีกว่า กิ๊บไม่ชอบให้ใครมาระรานขนาดนั้น ด่ามาก็ด่ากลับนะจ๊ะ บอกไว้ก่อน แต่ถ้าใส่สั้นแล้วทำร้ายใครก็มาบอกแล้วกันว่าเป็นอะไร

กิ๊บอยู่กับเรื่องพวกนี้มานานมาก จนไม่มีผลแล้ว เราก็ประมาณหนึ่ง

เราประสบความสำเร็จกับตรงนี้ คำคนที่ด่าจะมีผลอะไรล่ะ คนที่ด่าคือเขาไม่ชอบเรา เขาไม่อุดหนุนเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ยิ่งไม่มีผลใหญ่เลย เราเอาคำคนเหล่านี้มาทำให้ทุกอย่างแย่ลงไม่ได้ เพราะเราต้องทำมาหากิน เราต้องเลี้ยงครอบครัว

เรื่องอะไรต้องเอาคำคนที่ไม่ได้หวังดีและไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตเรามาคิด"

ด้านนักร้องสาวใบเตยออกตัวว่า "ใบเตยใส่สั้นมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว และใบเตยโดนด่าเยอะกว่าพี่กิ๊บซี่มาก ด้วยความที่เราเป็นลูกทุ่งด้วย และความที่ใบเตยเป็นคนมีก้น เวลาอวบก้นจะนำหน้า ขายาวด้วย ใส่แล้วจะดูสั้นมาก โป๊ไปหมดเลย"

อย่างไรก็ตาม ใบเตยยังไม่เคยประสบกับคนที่เดินเข้ามาด่าตรงๆ อย่างรุ่นพี่ กิ๊บซี่ แต่เธอมักจะเจอคนในโลกออนไลน์รุมด่า โดยเธอเองก็มองว่า เป็นเรื่องของคนไม่มีตัวตนจริง อยากทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก สิ่งที่เธอจัดการคือ

"ไม่ตอบโต้ เคยทดลองจะตอบกลับ แต่ไม่รู้จะตอบว่าอะไร คนเราต้องมีความเป็นตัวเอง ทำยังไงก็ได้ที่เป็นเรา ถ้าเป็นคนอื่นโดนด่าขนาดนี้คงหวั่นไหวเปลี่ยนไปใส่ยาว แต่ใบเตยจะไม่ยอมเสียตัวตนเพราะคำคน อาจเป็นเพราะเราสู้ชีวิตมา กว่าจะมาเป็นนักร้องยากเย็นมาก เราเป็นคนต่างจังหวัด ประกวดร้องเพลงตั้งแต่ 6 ขวบ กว่าจะมาถึงวันนี้ ต้องพยายามมาก อดทนมาก ก็เลยจิตใจแข็งแรงมากๆ ไม่อยากพูดว่าชิน แต่เราค่อนข้างทำใจและเข้าใจกับคำคน

เคยเจอตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก อย่างประโยคที่ว่า
 
"ใส่แบบนี้ไม่ต้องใส่เลยดีกว่า" หนักๆ ก็คือ "แต่งตัวทำลายวงการลูกทุ่ง" ความจริงคนพวกนี้ก็ไม่ได้ใจร้ายหรอก เพียงแต่มันเป็นโลก ยิ่งโลกโซเชียลที่ไม่เห็นตัวตน เขาก็เลยทำได้"

นอกจากเรื่องนุ่งสั้นแล้ว ใบเตยจะเล่าถึงมุมอื่นๆ โดยเฉพาะชีวิตการทำงานหลังจากโหมงานหนักมาตลอดทั้งปี ใบเตยเริ่มอยากพักเหนื่อยจากวงการบันเทิง และมีครอบครัวเสียที

"อยาก มีสามี อยากแต่งงานแล้วค่ะ ถ้าได้แต่งงานภายในปีสองปีนี้ก็พร้อมลาออกจากวงการเลย ใบเตยเหนื่อยมาก ทำงานอยู่ในวงการมา 4 ปี รู้สึกว่าเราเสียความเป็นส่วนตัวไปเยอะ รายได้ดี ทุกอย่างดี แต่เราต้องแลกกับอะไรเยอะ ความฝันของใบเตยคือได้เป็นนักร้องมีเพลงของตัวเอง เป็นความฝันสูงสุดแล้ว แต่ตอนนี้มันเกินฝันไปมากๆ มันสุดฝันแล้ว แค่นี้พอแล้วค่ะ สิ่งที่เราฝันเราได้สัมผัสมันแล้ว"

ทั้งสองต่างก็ยืนยันในการนุ่งสั้นของตนเอง

"สิ่งนี้มันคือ ตัวตนของพวกเราคงไม่เปลี่ยน ตามคำคนอื่น เพราะเราเอาใจใครทั้งประเทศไม่ได้ แต่เราก็มีแฟนคลับที่ชอบเรา คนไม่ชอบเราก็คงไม่มีใครมาอุดหนุนหรือสนับสนุนพวกเรา"