เวย์หุ้มนวมทั้งบ้านหลัง หลังบรู๊คลินล้มแก้มแตก

ถึงกับต้องทำใจในความซนของลูก ๆ เลยทีเดียว สำหรับสาว นานา ไรบีนา ตันวิมล และ เวย์ ไทเทเนียม หรือ ปริญญา อินทชัย ที่ล่าสุด เจ้าก็ควงลูกฝาแฝดน้องบีน่า และ บรู๊คลิน มาร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็ก HUGGIES Ultra (ฮักกี้ อัลตร้า) ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 งานนี้เลยได้อัพเดทพัฒนาการขเด็ก ๆ ทั้งสอง และนอกจากนี้ สาวนานา ยังเผยถึงแผลที่หน้าของลูกชาย น้องบรู๊คลิน หลังล้มหน้ากระแทกขอบโต๊ะว่า

"แผลที่หน้าน้องเกิดจากความซนของเด็กน้อยที่กำลังหัดเดิน เขาเลยชอบปีนป่ายจนจับแทบไม่ทัน พอจับไม่ทันเขาก็เลยล้มบ้าง ชนบ้าง ตามขอบตู้พอดีเลย ก็ร้องไม่เยอะนะ ผิดคาดมาก ร้องแปบเดียว แล้วเราก็พาไปล้างน้ำก่อน เพราะคุณหมอเคยเตือนเรื่องแผลพวกนี้ไว้ แต่กลายเป็นว่าสนุกสนานกันไป เราเห็นตอนแรกรู้สึกเศร้าค่ะ สงสารลูก คือเราไม่อยากให้เขาต้องมาโดนอะไรเจ็บ ๆ แบบนี้ แต่บางทีเราก็อยากให้ลูกได้วิ่งเล่นกันปกติ ดังนั้นเรื่องนี้ก็ต้องทำใจแหละนะว่า บางทีเราดูแลดีอย่างไรก็ไม่ทันจริง ๆ แล้วพอดีว่าตอนนั้นคุณพ่ออยู่กับลูก 2 คน กลายเป็นเด็ก 2 คน ผู้ใหญ่ 1 คน เอาไม่อยู่แล้ว ต้องประกบตัว ๆ เลยแหละ ไม่งั้นจะไม่ปลอดภัย เพราะเขากำลังหัดเดิน ซึ่งถ้าเราไปห้ามเขาเดิน ห้ามเขาทำอะไร 

นานาว่าอันนี้จะทำให้พัฒนาการของเขาช้าลง เอาเป็นว่าแผลลูกผู้ชายนะ แต่ก็ตกใจมาก เพราะตอนแรกเราคิดว่าเป็นแค่บวมช้ำปกติ แต่พอเห็นเลือดออกปุ๊บจะเป็นลมเลยค่ะ คุณพ่อนี่หน้าเสียเลย ซึ่งปกติเขาจะเข้มแข็งกว่าเรา สุดท้ายเราก็เลยพาไปหาคุณหมอค่ะ คือตอนนี้เขามีพี่เลี้ยงคนละ 1 เลยค่ะ แต่บางทีพี่เลี้ยงเขาก็ต้องพักบ้าง ซึ่งตรงนี้เราจะช่วยดูด้วย ก็อย่างที่บอกว่า เด็กคนเดียวบางทีดูแลกัน 2-3 คน ยังเหนื่อยเลย ดังนั้นที่บ้านก็เลยต้องมีสมาชิกเยอะหน่อย 

แผลอันนี้คุณหมอบอกว่าก็ต้องเย็บค่ะ เดี๋ยวเลิกงานนี่ก็จะไปเย็บแล้วค่ะ ตอนแรกเราก็ดู ๆ อยู่ว่าจะอย่างไร เพราะแผลมันก็ไม่ลึกมาก แต่คิดดูแล้วถ้าเราไม่เย็บแล้วแผลเป็นจะใหญ่ อีกอย่างถ้าเย็บแล้วแผลจะหายเร็วกว่าด้วย รักษาง่ายด้วยค่ะ คือตอนนี้คุณพ่อเนี่ยสั่งบุนวมทั้งบ้านเลย ใช่ค่ะ วันนี้มีคนมาบุให้หมดเลย ตอนแรกก็ทำไว้ 1 ห้อง เป็นห้องของเด็กแต่เขาก็เบื่อ จะให้นั่งแต่ในห้องก็คงไม่ได้ เขาก็ต้องอยากออกข้างนอกบ้าง

แต่พอพาออกมาข้างนอกก็เป็นอย่างที่เห็นค่ะ ตอนนี้อุปกรณ์อะไรก็ตามที่เป็นแก้ว หรือขาโต๊ะ ก็บุนวมหมด ส่วนเรื่องงานหรือพรีเซนเตอร์ ก็มีคุยเรื่อย ๆ แต่คุณพ่อเขาค่อนข้างจะดูรายละเอียดเยอะ อย่างเวลามางานก็จะดูว่า ต้องมานานแค่ไหน แล้วจะรบกวนเวลานอนเขาไหม คือเราก็ยังรู้สึกว่าเขายังเด็กเกินไป ดังนั้นให้พ่อแม่เหนื่อยดีกว่า แต่เอาจริง ๆ ว่า บางทีลูกไม่สบาย เราก็หดหู่ สงสารเขา แต่เดี๋ยวก็คงดีขึ้น เราพยายามจะทำใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาของเด็ก"