“ป้าแจ๋ว” เริดมากจี้ตรงจุด ชี้ “เจมส์” เสียเพราะคนดูแล

“ป้าแจ๋ว” เริดมากจี้ตรงจุด ชี้ “เจมส์” เสียเพราะคนดูแล

ขึ้นแท่นเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ไม่ทันไร พระเอกหนุ่ม เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ก็เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเรื่องเยอะ เข้าถึงยาก จนทำเอาหลายคนติดภาพลบ ล่าสุดพอมีโอกาสเจอตัว ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับดังที่ปลุกปั้นลูกรักหนุ่มเจมส์จนโด่งดัง เจ้าตัวก็ได้แสดงความเป็นห่วงถึงลูกรักว่า

“ห่วงมาก ห่วงว่าทำไมน้องต้องทำงานเยอะขนาดนี้ ทั้งที่ตอนต้นเราตกลงกันแล้วว่าน้องจะต้องไม่ทำงานเยอะ นี่ขนาดเป็นอีเวนท์ที่พ่วงมากับโฆษณา ไม่ใช่อีเวนท์ปกติทั่วไป และบางทีเราอาจจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่างว่าที่นี่มันคือประเทศไทยไม่ใช่เมืองนอก คือการทรีตกับน้อง มันทำให้น้องที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดนด่า โดนเกลียดโดยไม่ได้รับรู้เลยว่าเขาทำอะไรผิด เขาบอกให้น้องอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น เขาบอกให้น้องไม่จับไมค์เขาก็ไม่จับ บอกให้น้องนั่งเฉยๆก็นั่งเฉยๆ ไม่ให้น้องพูดน้องก็ต้องไม่พูด คือน้องทำอะไรไม่ได้เพราะมันมีคนบอก ทีนี้คนที่เป็นคนดูแลหรือจัดการต้องเป็นคนทำเอง เราไม่ใช่ดาราที่อินเตอร์เนชั่นแนล การจะให้นักแสดงไทยอยู่ในเมืองไทยก็ต้องทำแบบวัฒนธรรมทั่วไป มันต้องมียืดหยุ่น เพราะตรงนี้อยากจะบอกว่าคนรอบข้างหรือคนดูแลต้องเข้าใจวิธีการทำงานกับคนไทยด้วยกันเอง และขณะเดียวกัน นักข่าว แฟนคลับ คนอื่นๆก็ต้องเข้าใจน้องด้วยว่าน้องไม่มีอิทธิพลจะทำอะไรได้ด้วยตัวเอง เขาต้องทำสิ่งที่คนแนะนำหรือกำหนดมา ไม่ใช่ว่าน้องเรื่องมาก แต่น้องตัดสินใจเองไม่ได้”

ป้าแจ๋วได้คุยหรือสอนอะไรน้องบ้างไหม? “ช่วงวันแม่เขาโทรมา พี่ก็เลยถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาก็ไม่เล่านะ เขาเป็นเด็กดีนะ เขาก็ไม่พูด ก็เลยบอกว่าฝากบอกพี่ที่ดูแลว่าถ้ามีเวลาหรือมีปัญหาให้มาคุยกับพี่ไหม พี่จะแนะนำทางให้ว่าจะต้องทำตัวแบบไหน เพราะแบบนี้มันไม่ถูก แต่เจมส์เขาก็คงไม่กล้าบอกหรอก มันต้องเกิดคดีเอง เกิดประสบการณ์ตรงแล้วเขาจะรู้ คือพี่จะไปช่วยเหลือน้องก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่คนของพี่ การไม่เข้าใจว่าเรามีของดีอยู่ในมือแล้วเราจะเชิดๆเริ่ดๆ วันหนึ่งเขามีของดีกว่าโผล่ขึ้นมาเขาก็จะวิ่งไปหาของอีกอันหนึ่ง ซึ่งมาง่ายไปง่ายด้วยนะ เราสงสารน้องว่าทำแทบตาย แต่คนที่เอาไปใช้ไม่ระวังรักษาเอง พี่ทำผลงานชิ้นนี้ด้วยงานแฮนด์เมด ทำขึ้นมาเพื่อให้มันทรงคุณค่า แต่พอเอาของที่ทรงคุณค่าไปใช้โดยไม่ระมัดระวัง ค่าของมันก็ลดลง แล้วถ้ามันกลายเป็นของโหลที่ใครๆก็ไม่อยากหยิบแล้วมันจะลำบาก เราก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะกว่าเราจะเจอคนแบบนี้คนหนึ่งมันยาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่เป็นห่วงมากที่สุดในทุกๆศิลปินเลยก็คือคนดูแล คนดูก็เหมือนผู้ปกครอง ถ้าคิดผิด ดูแลผิด ก็เสียจังหวะ เสียโอกาสไปด้วย เราไม่ใช่พ่อแม่ แต่รู้ว่าอะไรควร ไม่ควร เราอยู่ในวัฒนธรรมอะไร นักข่าวคิดยังไง การปฏิเสธนักข่าวยังไง ทั้งหมดนี้มันมีประสบการณ์จากคนดูแลอื่นๆมากมายให้เห็นอยู่แล้ว ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันดีขึ้น มันก็มีคลื่นปั่นป่วนอยู่ตลอด พี่แคร์ความรู้สึกของคนดู และคนทั่วไป เพื่อนพี่แก่ๆก็จะมาถามว่าเจมส์เป็นอย่างนี้หรอ ซึ่งเขาได้ข่าวผิดๆ เขาไม่เหมือนเราที่รู้ว่าน้องเป็นคนยังไง”