ก่อนเข้าบันทึกเทปรายการ นายทองดี ยีรัมย์ เผยว่า “ที่ผมออกมาตามหาจาอีกครั้งเพราะผมเห็นข่าวว่าจาจะไปถ่ายหนังเมืองนอกคิดว่าคงไม่ได้คุยกับลูก อยากคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัวโดยไม่อยากออกข่าว เลยไปหาแต่พอจาเห็นเขาก็ตกใจ แต่พอภรรยาของจาเห็นผมก็ตรงเข้ามาทำร้ายร่างกาย”
นายทองดีกล่าวต่อว่า “ที่อยากเจอลูกไม่ใช่อยากได้ผลประโยชน์อะไรจากเขา แค่อยากให้จาไปทำปะกำช้าง จาไม่ได้ทำมา 2 ปีแล้ว เป็นความเชื่อถ้าไม่ทำ ผลร้ายต่างๆจะเกิดกับพ่อ ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าจาโดนของ ตอนแรกคิดว่าจาโดนแต่หลังๆ คิดว่ามันเป็นที่สันดานของจามากกว่า เขาเชื่อลูกเมียมากกว่าเชื่อพ่อแม่”
ทางด้าน ‘โจ-ธรัช’ น้องเขยเผยว่า “จาเป็นคนสำคัญสร้างชื่อเสียงให้กับครอบครัว เรื่องเงินไม่สำคัญเท่ากับการที่พ่ออยากเจอลูก เขามีเรื่องอยากคุยกับลูก อย่างพ่อป่วยเขาให้เงินรักษาแค่ไม่เท่าไหร่ พ่อเข้ารพ.รักษาเดือนละหมื่นกว่า ตอนนี้พ่อแข็งแรงแล้วตัดใจได้แล้ว แต่เห็นข่าวของลูกก็อยากมาเจออีก ถึงตอนนี้คงไม่ตามอีกเพราะเป็นเรื่องของคดีความ ต้องเจอกันที่สน.หรือที่ศาล คุณพ่อ,แวว ,พี่ชายของแวว แจ้งความว่าโดนบุ๊งกี๋ทำร้ายร่งกาย ส่วนผมแจ้งทั้งบุ้งกี๋,คุณแม่ของบุ้งกี้และตัวจาข้อหาทำร้ายร่างกาย”
นายธรัช กล่าวต่อว่า “เรื่องบ.ไอยราฟิล์มกับจา ผมฟ้องต่ออีกยาว พี่จาเคยร่วมหุ้นกับผมและคุณแววตอนทำองค์บาก2-3 มีสัญญากัน เราทำหนังและมีผลประโยชน์เรื่องเงินเข้ามา และทางคุณจาถอนตัวออกจาบริษัทไปตั้งแต่มีแฟน และตอนที่พี่จาแต่งงานก็ไปเก็บผลประโยชน์มาส่วนหนึ่งไปให้ภรรยา โดยไม่สนใจคำตกลงที่ทำไว้กับบริษัท หนังเรื่อง ‘องค์บาก2-3’ มีการตกลงแบ่งผลประโยชน์รายได้ 25 เปอร์เซ็นต์ จากรายได้หนังทั่วโลก แต่พี่จาไปรับเองส่วนหนึ่ง ซึ่งพี่จาไม่สามารถไปรับเองได้ มันคือผลประโยชน์ในฐานะร่วมกันสร้าง แต่บริษัทยังไม่ได้รับ พี่จารับค่าตัวและเอาไปให้ภรรยาซึ่งเรามีหลักฐาน ต้องให้ผู้ใหญ่มาชี้แจง ซึ่งพี่จาเอาไปแล้วประมาณ10ล้านบาท ตอนนี้กำลังปรึกษาอยู่ว่าจะฟ้องแพ่งหรืออาญาครับ”
https://www.facebook.com/teeneedotcom