‘บี้’อ้ำอึ้งมีคนคุย ลั่นจะบอกตอนแต่งอาจเป็นวิวาห์ฟ้าแลบ

เริ่มกลับมาลุยงานอีกครั้ง หลังจากไปบวชเรียนเป็นครั้งที่ 2 สำหรับซุป’ตาร์หนุ่ม บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว ที่ล่าสุดเจ้าตัวมาร่วมงานบวงสรวงหนัง “ทีเชอร์ส์ ไดอารี่” ที่จีทีเอช สุขุมวิท 31 งานนี้เลยต้องถามถึงชีวิตหลังบวชเรียน ที่มีข่าวเมาท์ว่าบี้บวชเพราะท้อแท้ในชีวิต และบวชแก้บน รวมทั้งให้อัพเดทหัวใจ ที่มีเหตุผลอะไร จึงไม่ยอมปริปากพูด ซึ่งทั้งหมดนี้ บี้ เผยว่า

“ช่วงนี้กลับมาลุยงานหนักอีกครั้งหลังจากไปบวชเรียนในเรื่องพระธรรม ส่วนที่ผมตัดสินใจบวชครั้งที่สอง เพราะรู้สึกว่าการบวชเหมือนการถูกหวย ชีวิตจริง ๆ ของคนเราก็สามารถถูกหวยในหลาย ๆ ครั้งได้ การบวชเป็นการกระทำที่เราได้บุญค่อนข้างสูงสุดและเป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าที่ผมไปบวชเพราะช่วงนั้นท้อแท้กับชีวิตถึงกับร้องไห้ จริง ๆ ช่วงที่บวชไม่ท้อแท้เลย ผมบวชเพราะต้องการจะอุทิศให้กับงาน ให้กับแอคส์ สตูดิโอ ส่วนที่ท้อแท้คือนานประมาณ 2 ปีที่แล้ว ที่แก้ไม่ตกในเรื่องงาน และที่บอกว่าผมบวชแก้บนนั้น คือไม่ได้บนเลยครับ ชีวิตผมเกิดมาไม่ชอบในเรื่องของการบนบานศาลกล่าว เราขอพรอย่างเดียว ถามว่าเราบวชด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถูกคนมองไปในแง่อื่น รู้สึกยังไง ก็นี่แหละคือหน้าที่ผมที่ต้องคอยเผยแพร่และคอยกล่อมเกลาไปเรื่อย ๆ พระพุทธศาสนาจริง ๆ เขากล่อมเกลากันมานานหลายพันปีแล้ว มารุ่นผมก็กล่อมเกลาเล็ก ๆ น้อย ๆ พอรุ่นผมจบไปก็มีรุ่นต่อมาก็ช่วยเผยแพร่ให้คนที่ไม่รู้ต่อ ๆ กันไป เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใจใครได้ภายใน 1-2 วันครับ ส่วนจะมีโอกาสบวชเป็นครั้งที่สามมั้ย คาดว่าถ้ามีโอกาสบวชก็จะบวชอีก บวชเป็นระยะสั้น ๆ เพราะผมก็ยังตัดอะไรได้ไม่หมด การบวชระยะเวลาสั้น ๆ ก็เหมือนเป็นการรีเฟรชตัวเอง รับธรรมะทำจิตใจให้สงบ”

ถามเรื่องหัวใจความรักหน่อยตอนนี้เหมือนรุ่นน้อง เดอะ สตาร์ หลายคนก็เปิดตัวว่ามีแฟน เราล่ะจะเปิดตัวรึยัง? “ก็ให้น้อง ๆ เขาเปิดไปเถอะครับ ผมก็ปิดของผมไป งานภายนอกเราจำเป็นต้องทำเพื่อส่วนรวม แต่ชีวิตปกติผมก็รักความเป็นส่วนตัวผมก็มีคนที่คุยด้วย แต่ไม่บอก เก็บไว้เป็นส่วนตัว เก็บไว้สบาย ๆ เราเลือกที่จะไม่เปิดดีกว่า ถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะพร้อมพูดถึงเรื่องความรัก คือผมวางอนาคตว่าประมาณอายุ 33-34 ปี แต่งงานมีลูกเลย เราจะบอกต่อเมื่อ แต่ง ที่ผ่านมาคนก็รู้เยอะนะว่าผมเคยคุยกับใครบ้าง แต่ผมไม่เคยยอมรับ (ยิ้ม) ถ้าเกิดว่าผมตัวคนเดียว ไม่ทำงาน ผมก็จะยอมรับอย่างลูกผู้ชาย แต่ผมอยู่ในรูปแบบของบริษัทค่อนข้างใหญ่ มันมีผู้จัดการคอยดูแล มีพีอาร์ มีเบื้องหลัง มีเจ้านายและภาพลักษณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องดูแล จะมาเอาเราตัวคนเดียวก็คงไม่ได้ จริง ๆ แล้วการเปิดตัวไม่ใช่สิ่งที่ผิด ตัวผมก็สบาย ๆ ชีวิตผมไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก เพียงแต่ผมรักความสงบ รู้กันแค่ครอบครัวก็โอเค

ส่วนมาเปิดตัวตอนจะแต่งคนช็อกมั้ย ก็ให้เขาช็อกไป เรื่องของเขา เราสบายใจแบบนี้ ให้ช็อกก็สนุกดี จะได้มีข่าวขำ ๆ ไว้ลงหน้าหนึ่ง ไม่แน่อาจจะมีวิวาห์ฟ้าแลบ เรื่องเราคบกับใคร มันก็บอกได้นะ แต่เราเลือกที่จะบอกคนที่ใกล้ชิดเราบอกได้บางคน อย่างทีมงานประชาสัมพันธ์ที่คอยแก้ปัญหาให้เรา ก็ต้องบอกเขานิดหน่อย แต่เจอนักข่าวบอกไม่ได้เลย ส่วนคนที่คบเรา เข้าใจเรื่องนี้มั้ย จริง ๆ ไม่มีใครเข้าใจหรอก หาคนเข้าใจเรายาก เพราะอาชีพแบบนี้ค่อนข้างหนักหนาสาหัสมาก ที่ไม่ยอมเปิดเรื่องความรักไม่ได้เพราะกลัวเรื่องแฟนคลับนะ แต่ผมกลัวว่าถ้าเปิดแล้วจะทำให้การทำงานยากขึ้น แทนที่คนจะโฟกัสเราในเรื่องของงาน ก็จะโฟกัสในเรื่องส่วนตัว ในส่วนที่ว่ากลัวเรตติ้งตก ถ้าเกิดผมตัวคนเดียวไม่กลัวหรอก แต่ถ้าเกี่ยวกับบริษัทแล้ว ก็ต้องเคารพสิทธิบริษัท การตอบในเรื่องความรักจะมีลิมิตของผมเพราะเรามีบริษัท บริษัทให้เราตอบประมาณนี้ก็พอ อย่าไปประเจิดประเจ้อ เพราะยังไงเราก็ยังมีสัญญาอยู่ ตราบใดที่ผมทำงานเดี่ยว ไม่มีใครมาเกี่ยวข้องก็คงพูดได้เต็มที่ แต่มีคนอื่นมาเกี่ยวข้องเราต้องใส่ใจผู้ที่ทำงานร่วมกับเรา เพราะการหักหน้ากันมันไม่ดี ซึ่งสำหรับตอนนี้ผมยังไม่มีใครครับ จะมีก็ตามชีวิตผู้ชายเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง กรุ๊บกริ๊บพอเป็นกำลังใจ ส่วนที่คนอาจจะมองว่าเจ้าชู้ ก็แล้วแต่คนมองครับ มันอยู่ที่จิตใจของเราตั้งมั่นอยู่ที่จุดไหน ถ้าเราตั้งมั่นไว้แล้ว คิดว่าเราทำดีที่สุด ก็ไม่เป็นไรครับ”.