เป็นดาวรุ่งที่แรงข้ามคืน แต่ก็มาพร้อมข่าวฉาวว่าไร้สัมมาคารวะต่อรุ่นพี่ สำหรับ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข งานนี้ได้เจอสาว ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก ที่รับบทเป็นแม่ของเจมส์ใน “ไทม์ไลน์” ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามถึงเรื่องนี้ ว่าร่วมงานกับเจมส์เป็นอย่างไรบ้าง พร้อมอัพเดทเรื่องทายาทที่หลายคนลุ้น โดยทั้งหมดนี้ ป๊อก-ปิยธิดา เผยว่า
“เรื่อง “ไทม์ไลน์” น่าจะถ่ายไปเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้จะเป็นความซาบซึ้งใจมากกว่า เรารับบทที่พูดถึงการเป็นซิงเกิ้ลมัม พอเราเลี้ยงลูกโดยลำพัง ความเศร้าใจคือเราจะยึดติดและคิดถึงสามีตลอด เราจะคิดเสมอว่ามีลูกเป็นตัวแทน แล้ววันนึงที่ลูกต้องออกมามีชีวิตของตัวเอง คือการเอนทรานซ์ติดใน กทม. เราเลยรู้สึกว่าเราจะรู้สึกยังไง เพราะเรามีลูกเป็นหลักยึดเหนี่ยวมาตลอดเวลา แล้วตามสไตล์เด็กวัยรุ่น ก็ต้องมีเพื่อน มีเที่ยว เลยลืมความสัมพันธ์กันไป ถามว่าเจมส์ทำให้เราเชื่อได้มั้ยว่าเป็นลูกจริง ๆ คือป๊อกว่าด้วยความเป็นนักแสดง ป๊อกเชื่อว่าตอนแรกคนรู้จักเราอาจจะไม่เชื่อ แต่ถ้าเขาเข้าไปดูแล้วมองเรื่องการแสดง แล้วเขาเชื่อว่าเราเป็นได้ อันนั้นเป็นความสำเร็จของนักแสดง”
เจมส์ จิมีข่าวเรื่องสัมมาคารวะต่อรุ่นพี่ แล้วกับป๊อกเขาเป็นยังไงบ้าง? “ไม่มีเลยค่ะ เราก็งงนะ เราพูดในฐานะที่เป็นนักแสดง และเจอรุ่นน้องในวงการ ป๊อกว่าเขาเป็นคนปกติ การนัดการทำงาน การมีวินัยปกติมาก ไม่ได้ดูเยอะหรือน่ากลัว เรื่องสัมมาคารวะก็ปกติ เขาแทบจะวิ่งมากราบเลย ป๊อกบอกว่าตายแล้ว นอบน้อมเกินไปมั้ยเจมส์ ก็ยังมีแซวเล่นกันบ้าง พี่ปิ๊กผู้จัดการของเขาก็ปกติมาก เราเองก็รู้จักพี่ปิ๊กอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเลย ตามข่าวที่ออกมา เราเลยรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นคนที่เข้าไม่ถึงรึเปล่า เลยไม่รู้จักตัวตนจริง ๆ แต่สำหรับป๊อกโอเคกับน้องเลยค่ะ”
ถามถึงเรื่องทายาทหน่อย? “คงไม่มีค่ะ เราไม่อยากมี เพราะเรารู้สึกว่าเราทำงานอย่างนี้ เราก็สบายตัว ด้วยความรับผิดชอบหลาย ๆ อย่างก็คิดว่ามันคงหนักเกินไป พี่ตั๊ก-นภัสกรเป็นคนบอกเองว่าเรื่องทายาทเอาไว้ก่อน แต่ถ้าเกิดอยากเปลี่ยนใจก็คงไม่สาย แต่ถ้าว่าเวลาที่เห็นเพื่อน ๆ มีลูกน่ารัก เราอยากมีบ้างมั้ย คือพวกเขามีตั้งแต่ประมาณอายุ 20 เกือบ 30 แต่ป๊อกว่าด้วยวิวัฒนาการสมัยนี้ ถ้าเปลี่ยนใจอยากมีก็คงไม่ยาก ถามว่าเรามีโมเมนต์ที่คิดจะอุ้มเด็ก ๆ บ้างมั้ย มันก็มีนะ แต่ที่บ้านเรามีหลานเยอะ และมีหลานที่รักมาก ๆ และนอนได้ด้วยเลยรู้สึกว่าเราไม่ได้ต้องการมาก อีกอย่างที่ไม่อยากมีลูกก็ด้วยสังคมสมัยนี้ด้วย ป๊อกว่าการมีลูกแล้วต้องอาศัยอยู่กรุงเทพฯ คำว่ากรุงเทพฯ มันเป็นเรื่องที่ยาก ต้องพยายามในการใช้ชีวิต ต้องพยายามตื่นเช้า พาลูกไปโรงเรียนที่ดีที่สุด ต้องพยายามนู่นนี่ มันเยอะมาก ป๊อกว่าด้วยสภาพของเมืองด้วย อย่างเราไปอยู่เชียงใหม่มาเป็นอาทิตย์ ก็ยังคิดว่าถ้าเราอยู่ในสังคมแบบนั้นน่าจะดี ซึ่งเรื่องทายาทผู้ใหญ่เองก็ไม่มีว่าอะไรนะคะ แล้วเขาก็มีหลานกันอยู่แล้วค่ะ”.
https://www.facebook.com/teeneedotcom