ได้ยินว่าเวลามีคนจ้างเมย์ สมมุติจ้าง 5 บาท แต่เมย์ทำงาน 5 แสน หมายความว่าอย่างไร?
“เราบอกตัวเองเสมอว่าเราเป็นศิลปินไม่ใช่ดารา ใครจ้างเราให้ทำงานอะไรเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด คุณแม่สอนมาดี คุณแม่สอนเรามาแบบนี้ ใครจะจ้างเราเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ถ้าเราทำงานนี้แล้วต้องทำให้ดีที่สุด เต็มที่กับมันมากที่สุด ปกติรับงานเราไม่ได้มองเรื่องตัวเงินเป็นหลัก สมมุติถ้าอยากจะเล่นฟรีก็เล่นนะ แต่ถ้าไม่อยากเล่นเอามา 1 ล้านหรือ 10 ล้านก็ไม่เล่นนะ”
ที่ผ่านมา เมย์ พยายามบอกทุกคนว่า ไม่เหมาะกับบทนางเอก ทำไมถึงพูดแบบนั้น
“ที่ผ่านมาเมย์ไม่ค่อยจะได้รับบทนางเอกสักเท่าไหร่นะ ซึ่งถ้าได้บทนางเอกก็จะเป็นบทนางเอกที่แรงไปเลยอย่างบท โสเภณี หรือ โดนข่มขืน เพราะหน้าเราดูร้าย จะให้มารับบทหวาน ๆ ก็ไม่ได้ เพราะหน้าอกเราใหญ่มาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เล่นเราเล่นมาจากความรู้สึก”
ชีวิตช่วงหนึ่งงานเข้ามาเยอะมาก เงินก็เข้ามาเยอะด้วย ทำให้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจริงอ่ะป่าว?
“จริงค่ะ เมย์เข้าวงการตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วดังเร็ว มันก็มีเงินทองเข้ามา วันหนึ่งตอนเศรษฐกิจดี ๆ เดินแฟชั่นโชว์ 3 งาน แล้วไหนจะอีเวนต์อีก ถ่ายหนัง ถ่ายละครเดือนหนึ่ง 7 เรื่อง มันเข้ามาเยอะมาก เราก็เลยชอปปิงของแบรนด์เนมสนุกเลย ซื้อทุกอาทิตย์ แต่ตอนนี้เลิกหมดทุกอย่าง เพราะเรามีลูกมีครอบครัวที่ต้องดูแลด้วย ย้อนไปตอนนั้นเราไม่ได้เก็บเงินเลย เพราะเงินมาง่ายเราก็ใช้จ่ายสนุก เงินหาง่ายมาก เราหลงตัวเอง คิดว่าเงินคงจะมาเรื่อย ๆ และเราจะดาวค้างฟ้า ถามว่าเงินที่ได้มาเอาไปใช้จ่ายอะไรหมด ก็ซื้อเสื้อผ้า ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย”
“เมย์” มักจะพูดว่า คุณแม่เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต
“เอาจริง ๆ คุณแม่เก่งมาก ถามว่าเราจะไปเทียบท่านได้มั้ย บอกเลยว่าไม่ได้ ไม่มีทาง ในส่วนของเรามันคือความสามารถของเรา ถามว่าเล่นได้ทุกบทบาทมั้ย บอกเลยว่าคงไม่ได้ทุกบทบาทเหมือนคุณแม่ เพราะคุณแม่มาเหนือเฆมจริง ๆ เล่นได้ทุกบทบาท แต่เราจะเอาบทบาทที่ได้รับไปปรึกษาคุณแม่และให้ท่านสอนให้ ในส่วนของการสอนต่าง ๆ คุณแม่ไม่ได้สอนว่าเราจะอยู่ในวงการยังไง แต่คุณแม่สอนให้เราเป็นศิลปิน หนังบางเรื่องที่แรง ๆ อย่างจันดารา ตอนแรกเราก็จะไม่รับเล่นนะ แต่คุณแม่บอกว่าถ้าเธอไม่รับเล่นก็โง่แล้ว เพราะบทดีมาก”
นอกจากคุณแม่จะคอยให้คำแนะนำเรื่องการรับงานแล้ว เรื่องการใช้ชีวิตคุณแม่ได้แนะนำอะไรบ้าง
“เรื่องการใช้ชีวิตคุณแม่ไม่ค่อยให้คำแนะนำเท่าไหร่ เพราะคุณแม่รู้ว่าพูดไปเราก็ไม่ฟัง เพราะว่าคุณแม่รู้จักนิสัยของลูกดี ท่านรู้ว่าเมย์เป็นคนที่มีจุดยืนชัดเจน ต้องเรียนรู้เองต้องพลาดเองเท่านั้น เมย์เหมือนแม่มากเราดื้อเงียบทั้งคู่เลย ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา”
ชีวิตในวงการดูสวยหรู แต่อยู่ ๆ ก็หายเงียบไปหลายปี เกิดอะไรขึ้น?
“ตอนนั้นเมย์ไปเล่นหนังเรื่องหนึ่ง ค่อนข้างแรงใช้ร่างกายและแอ๊คติ้งเปลืองมาก แก้ผ้าหมดเลย ในบทเราเล่นเป็นโสเภณีต้องนอนกับผู้ชาย มันแก้หมดทั้งหญิงและชาย ซึ่งจะเห็นข้างหลัง เราทำงานทุ่มมาก กล้องต้องอยู่ข้างหลัง ภาพที่ออกมาจะมีตากล้องอยู่ด้านหลัง แต่พอหนังออกมีภาพหลุดซึ่งถ่ายมาจากด้านหน้า เราโกรธมาก ตอนสุดท้ายบอกว่าอยากโปรโมตแบบฝรั่ง ซึ่งเรารับไม่ได้ และไม่ยอมเล่นหนังกับเขาเลย ช่วงนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่มีใครดูแล เพราะเรารับงานเอง ด้วยเหตุจากหนังทำให้เราหยุดงานไปเลย 6-7 ปี วงการมันไม่ได้มีแต่มุมดีนะ เมื่อก่อนเราเป็นนางแบบ มีแบรนด์เสื้อผ้านอกมาให้เดิน นางแบบก็แย่งกัน มันไม่ใช่แค่ในละคร ชีวิตจริงก็มีนะ แต่ช่วงนั้นเราก็ไปเรียน ไปทำนั่นทำนี่เรื่อยเปื่อย ตอนนั้นเรามองว่าวงการโหดร้าย ไปตั้งสติใหม่แล้วถามตัวเองว่าเราพลาดจากอะไร”
ย้อนกลับไปช่วงสาว ๆ เหมือนจะใช้ชีวิตคุ้มค่ามาก
“ใช่ค่ะแต่หนูคบใครคบทีละคน และไม่เคยแย่งสามีคนอื่น เรามีโอกาสที่ได้เลือก เมื่อเรามีโอกาสสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ผู้ชายที่เราจะเลือกไม่จำเป็นต้องรวยหล่อ แต่ต้องฉลาดกว่าเราในเรื่องที่เราไม่รู้ เรื่องดื่มเหล้าเรื่องดูดบุหรี่ทุกวันนี้ยังมีอยู่ เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้โกงใคร ไม่ได้ฆ่าใคร”
หันมาถามชีวิตครอบครัวบ้าง “เมย์” มีลูกคนแรกตอนอายุเท่าไหร่
“คนแรกตอนอายุ 21 ค่ะ เราก็ไม่คุมอะไร เขามาของเขาเอง เราคิดว่าเรารักผู้ชายคนนี้ เราก็ลุยเลยสุดท้ายก็มาเลย ส่วนคนที่ 3 เพิ่งคลอดไปเมื่อเดือนกว่า ๆ เอง เราผ่านการใช้ชีวิตคู่มาหลายรอบ มีแต่งงานจริง ๆ แค่ครั้งเดียว แต่เราไม่มีการจดทะเบียน คนแรกเลิกกันเพราะว่าเด็กทั้งคู่แต่งงานเริ่มตั้งแต่อายุ 20 มีลูกเร็วเป็นลูกชาย ส่วนคนที่สองเราตั้งใจเลือกมาก 5-6 ปี กว่าจะคบกัน คิดว่าตอนนั้นใช่ แต่ผู้ชายก็มักจะเป็นผู้ชาย เราอดทนเยอะ จนมาคิดว่าอดทนเพื่ออะไร และมีลูกสาวเพิ่มอีกคน เขาเป็นคนเจ้าชู้และไม่ใช่แก้วน้ำที่ใช้แบ่งกัน เราไม่ให้ลูกกับใครเพราะลูกของเรา มาถึงคนที่สามยังอยู่คิวเลิกยังไม่มี มีความสุข สามีคนล่าสุดเป็นรุ่นน้องเปิดบริษัททำรายการอาหารด้วย เขาอายุน้อยกว่าเรา 8 ปี เป็นโปรดิวเซอร์ ตัดต่อ กำกับฯ ทำเองหมดเลย ถามว่าแน่ใจมั้ยกับชีวิตคู่ครั้งนี้เพราะอายุต่างกันเยอะ จริง ๆ แล้วการใช้ชีวิตคู่ไม่ได้อยู่ที่อายุแต่อยู่ที่ความคิด คนนี้เขาขยันทำงาน มีศักดิ์ศรี มีความรับผิดชอบ เขามีเกียรติแม้ว่าเขาจะเด็กกว่า เขาทำงานเลี้ยงดูเมย์ได้ เป็นคนดีที่สำคัญคือไม่เจ้าชู้ด้วย”
สุดท้ายลูก 3 คนมาจากคนละพ่อ เขาอยู่ด้วยกันโอเคมั้ยคะ
“เมย์โชคดีมากที่สามีคนนี้เขาเข้าใจ คนโต 15 ปีแล้ว คนที่สองผู้หญิงก็ 8 ขวบ เมย์เลี้ยงให้เขาดูแลกันเอง คนโตกับคนเล็กห่างกันมาก แต่เขาก็ดีใจที่เขามีน้อง เมย์จะสอนตลอดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามทิ้งกัน เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด ลูกๆ เขาก็เจอกับคุณพ่อ เราไม่เคยห้าม คนเป็นพ่อเขาก็รักลูก ชีวิตทุกวันนี้มีความสุข เรามีงานมีสามีที่ดี และมีลูกที่น่ารัก ชีวิตไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติม”
เมย์-ภัทรวรินทร์
“เราบอกตัวเองเสมอว่าเราเป็นศิลปินไม่ใช่ดารา ใครจ้างเราให้ทำงานอะไรเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด คุณแม่สอนมาดี คุณแม่สอนเรามาแบบนี้ ใครจะจ้างเราเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ถ้าเราทำงานนี้แล้วต้องทำให้ดีที่สุด เต็มที่กับมันมากที่สุด ปกติรับงานเราไม่ได้มองเรื่องตัวเงินเป็นหลัก สมมุติถ้าอยากจะเล่นฟรีก็เล่นนะ แต่ถ้าไม่อยากเล่นเอามา 1 ล้านหรือ 10 ล้านก็ไม่เล่นนะ”
ที่ผ่านมา เมย์ พยายามบอกทุกคนว่า ไม่เหมาะกับบทนางเอก ทำไมถึงพูดแบบนั้น
“ที่ผ่านมาเมย์ไม่ค่อยจะได้รับบทนางเอกสักเท่าไหร่นะ ซึ่งถ้าได้บทนางเอกก็จะเป็นบทนางเอกที่แรงไปเลยอย่างบท โสเภณี หรือ โดนข่มขืน เพราะหน้าเราดูร้าย จะให้มารับบทหวาน ๆ ก็ไม่ได้ เพราะหน้าอกเราใหญ่มาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เล่นเราเล่นมาจากความรู้สึก”
ชีวิตช่วงหนึ่งงานเข้ามาเยอะมาก เงินก็เข้ามาเยอะด้วย ทำให้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจริงอ่ะป่าว?
“จริงค่ะ เมย์เข้าวงการตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วดังเร็ว มันก็มีเงินทองเข้ามา วันหนึ่งตอนเศรษฐกิจดี ๆ เดินแฟชั่นโชว์ 3 งาน แล้วไหนจะอีเวนต์อีก ถ่ายหนัง ถ่ายละครเดือนหนึ่ง 7 เรื่อง มันเข้ามาเยอะมาก เราก็เลยชอปปิงของแบรนด์เนมสนุกเลย ซื้อทุกอาทิตย์ แต่ตอนนี้เลิกหมดทุกอย่าง เพราะเรามีลูกมีครอบครัวที่ต้องดูแลด้วย ย้อนไปตอนนั้นเราไม่ได้เก็บเงินเลย เพราะเงินมาง่ายเราก็ใช้จ่ายสนุก เงินหาง่ายมาก เราหลงตัวเอง คิดว่าเงินคงจะมาเรื่อย ๆ และเราจะดาวค้างฟ้า ถามว่าเงินที่ได้มาเอาไปใช้จ่ายอะไรหมด ก็ซื้อเสื้อผ้า ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย”
“เมย์” มักจะพูดว่า คุณแม่เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต
“เอาจริง ๆ คุณแม่เก่งมาก ถามว่าเราจะไปเทียบท่านได้มั้ย บอกเลยว่าไม่ได้ ไม่มีทาง ในส่วนของเรามันคือความสามารถของเรา ถามว่าเล่นได้ทุกบทบาทมั้ย บอกเลยว่าคงไม่ได้ทุกบทบาทเหมือนคุณแม่ เพราะคุณแม่มาเหนือเฆมจริง ๆ เล่นได้ทุกบทบาท แต่เราจะเอาบทบาทที่ได้รับไปปรึกษาคุณแม่และให้ท่านสอนให้ ในส่วนของการสอนต่าง ๆ คุณแม่ไม่ได้สอนว่าเราจะอยู่ในวงการยังไง แต่คุณแม่สอนให้เราเป็นศิลปิน หนังบางเรื่องที่แรง ๆ อย่างจันดารา ตอนแรกเราก็จะไม่รับเล่นนะ แต่คุณแม่บอกว่าถ้าเธอไม่รับเล่นก็โง่แล้ว เพราะบทดีมาก”
นอกจากคุณแม่จะคอยให้คำแนะนำเรื่องการรับงานแล้ว เรื่องการใช้ชีวิตคุณแม่ได้แนะนำอะไรบ้าง
“เรื่องการใช้ชีวิตคุณแม่ไม่ค่อยให้คำแนะนำเท่าไหร่ เพราะคุณแม่รู้ว่าพูดไปเราก็ไม่ฟัง เพราะว่าคุณแม่รู้จักนิสัยของลูกดี ท่านรู้ว่าเมย์เป็นคนที่มีจุดยืนชัดเจน ต้องเรียนรู้เองต้องพลาดเองเท่านั้น เมย์เหมือนแม่มากเราดื้อเงียบทั้งคู่เลย ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา”
ชีวิตในวงการดูสวยหรู แต่อยู่ ๆ ก็หายเงียบไปหลายปี เกิดอะไรขึ้น?
“ตอนนั้นเมย์ไปเล่นหนังเรื่องหนึ่ง ค่อนข้างแรงใช้ร่างกายและแอ๊คติ้งเปลืองมาก แก้ผ้าหมดเลย ในบทเราเล่นเป็นโสเภณีต้องนอนกับผู้ชาย มันแก้หมดทั้งหญิงและชาย ซึ่งจะเห็นข้างหลัง เราทำงานทุ่มมาก กล้องต้องอยู่ข้างหลัง ภาพที่ออกมาจะมีตากล้องอยู่ด้านหลัง แต่พอหนังออกมีภาพหลุดซึ่งถ่ายมาจากด้านหน้า เราโกรธมาก ตอนสุดท้ายบอกว่าอยากโปรโมตแบบฝรั่ง ซึ่งเรารับไม่ได้ และไม่ยอมเล่นหนังกับเขาเลย ช่วงนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่มีใครดูแล เพราะเรารับงานเอง ด้วยเหตุจากหนังทำให้เราหยุดงานไปเลย 6-7 ปี วงการมันไม่ได้มีแต่มุมดีนะ เมื่อก่อนเราเป็นนางแบบ มีแบรนด์เสื้อผ้านอกมาให้เดิน นางแบบก็แย่งกัน มันไม่ใช่แค่ในละคร ชีวิตจริงก็มีนะ แต่ช่วงนั้นเราก็ไปเรียน ไปทำนั่นทำนี่เรื่อยเปื่อย ตอนนั้นเรามองว่าวงการโหดร้าย ไปตั้งสติใหม่แล้วถามตัวเองว่าเราพลาดจากอะไร”
ย้อนกลับไปช่วงสาว ๆ เหมือนจะใช้ชีวิตคุ้มค่ามาก
“ใช่ค่ะแต่หนูคบใครคบทีละคน และไม่เคยแย่งสามีคนอื่น เรามีโอกาสที่ได้เลือก เมื่อเรามีโอกาสสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ผู้ชายที่เราจะเลือกไม่จำเป็นต้องรวยหล่อ แต่ต้องฉลาดกว่าเราในเรื่องที่เราไม่รู้ เรื่องดื่มเหล้าเรื่องดูดบุหรี่ทุกวันนี้ยังมีอยู่ เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้โกงใคร ไม่ได้ฆ่าใคร”
หันมาถามชีวิตครอบครัวบ้าง “เมย์” มีลูกคนแรกตอนอายุเท่าไหร่
“คนแรกตอนอายุ 21 ค่ะ เราก็ไม่คุมอะไร เขามาของเขาเอง เราคิดว่าเรารักผู้ชายคนนี้ เราก็ลุยเลยสุดท้ายก็มาเลย ส่วนคนที่ 3 เพิ่งคลอดไปเมื่อเดือนกว่า ๆ เอง เราผ่านการใช้ชีวิตคู่มาหลายรอบ มีแต่งงานจริง ๆ แค่ครั้งเดียว แต่เราไม่มีการจดทะเบียน คนแรกเลิกกันเพราะว่าเด็กทั้งคู่แต่งงานเริ่มตั้งแต่อายุ 20 มีลูกเร็วเป็นลูกชาย ส่วนคนที่สองเราตั้งใจเลือกมาก 5-6 ปี กว่าจะคบกัน คิดว่าตอนนั้นใช่ แต่ผู้ชายก็มักจะเป็นผู้ชาย เราอดทนเยอะ จนมาคิดว่าอดทนเพื่ออะไร และมีลูกสาวเพิ่มอีกคน เขาเป็นคนเจ้าชู้และไม่ใช่แก้วน้ำที่ใช้แบ่งกัน เราไม่ให้ลูกกับใครเพราะลูกของเรา มาถึงคนที่สามยังอยู่คิวเลิกยังไม่มี มีความสุข สามีคนล่าสุดเป็นรุ่นน้องเปิดบริษัททำรายการอาหารด้วย เขาอายุน้อยกว่าเรา 8 ปี เป็นโปรดิวเซอร์ ตัดต่อ กำกับฯ ทำเองหมดเลย ถามว่าแน่ใจมั้ยกับชีวิตคู่ครั้งนี้เพราะอายุต่างกันเยอะ จริง ๆ แล้วการใช้ชีวิตคู่ไม่ได้อยู่ที่อายุแต่อยู่ที่ความคิด คนนี้เขาขยันทำงาน มีศักดิ์ศรี มีความรับผิดชอบ เขามีเกียรติแม้ว่าเขาจะเด็กกว่า เขาทำงานเลี้ยงดูเมย์ได้ เป็นคนดีที่สำคัญคือไม่เจ้าชู้ด้วย”
สุดท้ายลูก 3 คนมาจากคนละพ่อ เขาอยู่ด้วยกันโอเคมั้ยคะ
“เมย์โชคดีมากที่สามีคนนี้เขาเข้าใจ คนโต 15 ปีแล้ว คนที่สองผู้หญิงก็ 8 ขวบ เมย์เลี้ยงให้เขาดูแลกันเอง คนโตกับคนเล็กห่างกันมาก แต่เขาก็ดีใจที่เขามีน้อง เมย์จะสอนตลอดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามทิ้งกัน เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด ลูกๆ เขาก็เจอกับคุณพ่อ เราไม่เคยห้าม คนเป็นพ่อเขาก็รักลูก ชีวิตทุกวันนี้มีความสุข เรามีงานมีสามีที่ดี และมีลูกที่น่ารัก ชีวิตไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติม”
เมย์-ภัทรวรินทร์ 
เมย์-ภัทรวรินทร์ 
เมย์-ภัทรวรินทร์ 
เมย์-ภัทรวรินทร์ 
เมย์-ภัทรวรินทร์ 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
https://www.facebook.com/teeneedotcom