ป้าเปิดใจยุ้ย-รจนาบ้านแตกสาแหรกขาดแถมมีลูกชายวอนจนท.ช่วยดูแลหลาน


เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 1 ก.ย. นางปวีณา หงสกุล รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางไปที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของยุ้ย- น.ส.รจนา เพชรกัณหา อายุ 37 ปี อดีตนางแบบชื่อดัง ที่ชีวิตพลิกผัน ติดยาเสพติด จนเพี้ยนเสียสติ กลายเป็นคนเร่ร่อน เข้าพักรักษาตัวอยู่อาคารพวงชมพู โดยเข้าไปเยี่ยมประมาณ 45 นาที  จึงกลับออกมาโดยทางรพ.ไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ

นางปวีณา เปิดเผยว่า หลังรับตัวคุณยุ้ยเข้ามารักษาตัวที่นี่ ทางพม.พร้อมตำรวจได้เข้ามาดูแล ทั้งประสานครอบครัวของคุณยุ้ยด้วยอีกทางเพื่อให้มาพบปะพูดคุยกันถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว และหลังจากที่คุณยุ้ยรักษาตัวจนหายดีแล้วและออกจากรพ.ไปแล้วนั้นจะได้มีที่อยู่ที่อาศัยและไม่กลับมาเร่ร่อนอีก ซึ่งในลักษณะนี้ทางกระทรวงต้องการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและดูแลกันเองในครอบครัว  จะได้หาทางออกได้

นางปวีณา กล่าวต่อว่า  ขณะนี้ต้องการให้ครอบครัวของคุณยุ้ยมาดูแล แต่ในส่วนที่ว่าจะมีความพร้อมหรือไม่นั้น กำลังอยู่ระหว่างการประสานงาน เนื่องจากต้องการให้คุณยุ้ยได้ฟื้นฟูสภาพจิตใจเป็นอันดับแรก คาดว่าครอบครัวน่าจะรับสภาพความเป็นอยู่ของคุณยุ้ยได้ ส่วนตอนนี้คุณยุ้ยต้องการเพียงพบกับพี่ชายเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไรอย่างอื่นอีกที่ต้องประสานครอบครัวคุณยุ้ยให้ได้ เนื่องจากเกรงว่าหากออกจากรพ.ไปแล้วจะไม่มีที่อยู่อาศัย และไม่ต้องการให้กลับมาป่วยอีก

นอกจากนี้เรื่องการดูแลครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ในส่วนของครอบครัวคุณยุ้ยถ้าหากยังไม่พร้อมทาง พม.ก็จะดูในเบื้องต้นก่อน หากครอบครัวพร้อมเมื่อไรก็จะส่งตัวต่อให้ครอบครัวไปดูแลต่อไป หากไม่พร้อมจะดูแลอีกทาง พม.ก็จะได้ไปพูดคุยว่าเพราะเหตุใดและหาทางออกกันต่อไป

นพ.สินเงิน สุขสมปอง ผอ.รพ.สมเด็จสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า สำหรับอาการของผู้ป่วยและรายละเอียดอื่นๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ว่าเป็นอย่างไร อยู่อย่างไร รักษาอย่างไร และยังตอบไม่ได้ว่าสุขภาพเป็นอย่างไร  ในส่วนของผู้ป่วยเมื่อเข้ามารักษาแล้วทางรพ.จะดูแลที่สุด พร้อมประสานงานญาติมาดูแลด้วย ซึ่งวันนี้ดีใจที่ท่านรมต.เข้ามาช่วยเหลือดูแลอีกทาง ในส่วนที่ว่าจะสามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวเมื่อไรนั้นต้องรอดูกันต่อไป

ด้านนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คงไม่พูดถึงกรณีนี้ แต่ขอพูดถึงกระบวนการดูแลผู้ป่วยโดยทั่วไป เมื่อพนักงานสอบสวนนำส่ง รพ.จิตเวชแล้ว ก็ต้องดูว่าป่วยจริงหรือไม่ ถ้าป่วยจริงต้องดูว่ายินยอมให้รักษาหรือไม่ ทั้งจากตัวผู้ป่วยและญาติ หรือถ้าพิจารณาแล้วอาจเป็นอันตรายต่อตัวเอง หรือคนอื่นในสังคมก็บังคับบำบัดรักษาตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิตได้ หากมีประวัติการรักษามาก่อนแล้วตามที่ตำรวจกล่าว ทาง รพ.ที่รับการรักษาก็ต้องประสานขอประวัติมาดูทั้งหมด ระหว่างที่รักษาจะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้นก็ต้องบอกญาติ ปัจจุบันพบว่าคนที่ติดเหล้า หรือยาเสพติดแล้วมีอาการทางจิตเพิ่มมากขึ้น
 

เมื่อถามถึงโอกาสรักษาหาย นพ.วชิระ กล่าวว้า ถ้าเป็นเรื้อรังก็ยังมีโอกาสรักษาให้ทุเลาได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้ เป็นๆหายๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ว่าสมองถูกทำลายมากน้อยแค่ไหน  ดังนั้นจะหายหรือไม่คงต้องให้จิตแพทย์ที่รักษาเป็นคนตอบ เพราะจะรู้ระดับความรุนแรง "ขอเตือนคนกินเหล้าและเสพยาเป็นเวลานานๆ นอกจากทำลายอวัยวะภายในแล้วยังทำลายสมองด้วย พอสมองถูกทำลายก็เกิดอาการทางจิต.

วันเดียวนายจิรศักดิ์ เอี่ยวในเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านไผ่ ต. กลางใหญ่ อ. เขื่องใน จ. อุบลราชธานี นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 7 บ้านไผ่ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวอดีตนางแบบโลก  พบนางดี กอแก้ว อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน มีศักดิ์เป็นป้าของยุ้ย  บอกว่า  ทราบข่าวของหลานจากสื่อต่างๆ แล้ว  รู้เสียเศร้าใจมาก ที่หลานต้องกลายมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้   พร้อมเล่าเรื่องราวของยุ้ย โดยนำภาพถ่ายผลงานในอดีตที่เคยโด่งดังที่เจ้าตัวอัดใส่รอบไว้มาโชว์ยืนยันด้วย  

โดยเปิดเผยว่า  ยุ้ยเป็นลูกสาวของนายยศ เพชรกัณหา ชาวจ. เพชรบุรณ์  เป็นช่างซ่อมรถยนต์  กับนางจันดี  หลานสาวสามีตน  และเป็นช่างเสริมสวย แต่ภายหลังแยกทางกัน  นางจันดีจึงนำยุ้ยมาฝากให้ช่วยเลี้ยงตั้งแต่ 2 ขวบ   พร้อมส่งเสียเงินมาให้ดูแล  ซึ่งตนกับสามีก็เลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆ จนเรียนจบป. 6  จากนั้นยุ้ยก็บอกว่าจะเข้ากรุงเทพฯไปตามหาแม่ที่ทราบว่าเป็นช่างเสริมสวยอยู่ย่านอ่อนนุช   และมีสามีใหม่  ครอบครัวยุ้ยจึงแตกแยก  ยุ้ยจึงไปทำงานล้างจาน ก่อนจะมีโอกาสไปเดินแบบต่างประเทศ กลายเป็นนางแบบของโลกผู้โด่งดัง ซึ่งก็เคยส่งเงินมาให้ตนใช้บ้าง

ต่อมาทราบว่ามีปัญหาเรื่องยาเสพติดและกลับเมืองไทย มาอยู่กับแม่ต่อ  แต่แม่ยุ้ยก็ติดสุรา  ส่วนยุ้ยเองก็มีปัญหาไม่แพ้กัน ทั้งคู่เลยระหองระแหงกัน  ยุ้ยติดเหล้าอย่างหนัก  จนทะเลาะกับแม่และหนีไปอยู่กับพ่อ  แต่ก็มีปัญหากับแม่เลี้ยงก็เลยออกมา   กระทั่งเมื่อปี 55 เลยกลับมาอยู่กับตน และพาไปรักษาอาการทางจิตที่รพ. ศรีมหาโพธิ์  จนอาการดีขึ้น เขาก็บอกว่าจะกลับไปกรุงเทพฯ อีก เพราะเพื่อนโทรมาตามให้ไปเดินแบบ  พอมีงาน มีเงิน ก็กลับไปกินเหล้าอีก  จนอาการกำเริบขึ้น  ล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ก็กลับมาอยู่กับตนอีก  แต่ไม่ยอมเลิกเหล้า เลิกเบียร์ แถมสูบบุหรี่มวนต่อมวน  ตนเห็นสภาพแล้วหดหู่เลยบอกให้เลิก  พร้อมต่อว่าไปว่า หากทำตัวแบบนี้ อย่ากลับมาเลย เพราะรับไม่ได้  จากนั้นยุ้ยก็ออกจากบ้านไป  มาทราบอีกทีก็วันนี้ที่สื่อนำเสนอข่าวว่ากลายเป็นคนเร่ร่อนเสียสติไปแล้ว

นางดี เล่าอีกว่า   ชีวิตยุ้ยน่าสงสาร บ้านแตกสาแหรกขาด  ตนสงสารหลานมาก  ตอนนี้ทราบข่าวว่าแม่เค้าไม่ได้อยู่ที่อ่อนนุชแล้ว เห็นว่าไปบวชชีอยู่ที่ภาคใต้ ยังติดต่อไม่ได้ ส่วนพ่อเค้าตนก็ติดต่อให้ไม่ได้  ตัวเองเลี้ยงหลานมาตั้งแต่ 2 ขวบก็ผูกพันธ์ แต่ตัวเราก็มีภาระ เป็นคนบ้านนอก  ฐานะก็ไม่ดีค่อนข้างลำบาก   พอเห็นยุ้ยอยู่ในสภาพนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน  อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแล  เพราะครอบครัวแตกแยก  ไปกันคนละทาง  คงหาความอบอุ่นไม่เจอ   ที่สำคัญยุ้ยมีลูกชายด้วย แต่ตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นสามีและดูแลลูกของยุ้ย  ส่วนสภาพที่ต้องเข้ารักษาทางจิตอยู่นั้น ก็ไม่รู้รายละเอียด นักข่าวน่าจะรู้ดีที่สุด


ยุ้ย รจนา เพชรกัณหายุ้ย รจนา เพชรกัณหา


ภาพจาก เดลินิวส ์ภาพจาก เดลินิวส ์


ยุ้ย รจนายุ้ย รจนา

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์