รักนี้ยิ่งใหญ่ แม่ลูกซุป’ตาร์

โดย...นกขุนทอง ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

‘ป๊อปปี้’ ดื้อบ้าง งอนบ้าง แต่รักแม่ที่สุด

หลังจากเสร็จภารกิจขายดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติ ในฐานะพรีเซนเตอร์ดอกมะลิวันแม่ “ชัชชญา ส่งเจริญ” หรือ “ป๊อปปี้” ศิลปินวงทรีทูวัน ก็ควงเขนคุณแม่ “ชัญญ์ญาณ์ พลอยรัตน์” มาเมาท์มอยถึงความสนิทชิดใกล้ แม่ลูกคู่นี้เปิดใจคุยกันทุกเรื่อง แม้ฝ่ายลูกสาวจะชอบขัดๆ บ้าง แต่ก็หยอกเอินคุณแม่เพราะความรัก

“คุณแม่จะคอยสอนตลอดค่ะ แต่หนูเป็นเด็กชอบพูดไงคะ ชอบแสดงความคิดเห็น เวลาแม่บอกอย่างนี้ หนูก็พูดขึ้นมาเลยว่า ทำไมอย่างนั้นไม่ได้ล่ะ เหมือนขัดคุณแม่ แต่สุดท้ายหนูก็ทำตามคุณแม่ตลอด (หัวเราะ) ไม่รู้จะแย้งไปทำไม เถียงแบบเป็นอารมณ์งอนๆ ในมุมมองของเด็กอยากให้แม่ฟังเราบ้าง แต่สุดท้ายแล้วคุณแม่สอนว่า ถึงสักวันหนึ่งเราต้องตัดสินใจด้วยตัวเองอยู่แล้ว เอาสิ่งที่แม่แนะนำมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ” ป๊อปปี้ กล่าว

มาถึงฝ่ายคุณแม่พูดถึงลูกสาวบ้าง “ไม่มีอะไรหนักใจกับเขาเลย เขาเชื่อฟังและทำตัวดีตลอด เราเลี้ยงเขามา เรารู้เขาเป็นอย่างไร ดังนั้นวางใจเขาได้ เรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน เที่ยวกลางคืน เขาก็จะรู้ลิมิตว่าอะไรได้แค่ไหน กลับบ้านเวลาไหน ไม่ต้องมาคอยบอกกันอีก ที่แม่ยังห่วงอยู่ก็มีแค่เรื่องตรงต่อเวลา เขาจะมีเลตนิดๆ หน่อยๆ จะคอยสอนว่าพยายามให้ตรงต่อเวลา ปลุกให้ตื่นตลอด แต่สิ่งที่ภูมิใจในตัวเขามากก็คือ เขาทำงานหนักแต่เรื่องการเรียนเขาก็ทำได้ดี แม่ภูมิใจมากที่สอบติดจุฬาฯ (ป๊อปปี้ เรียนปี 2 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมีประยุกต์ อินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)”

ส่วนเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกของแม่ชัญญ์ญาณ์ ก็คือ “เราคุยกันเหมือนเพื่อน ทำให้เวลาเขามีอะไรจะกล้าเล่าให้เราฟัง ทั้งเรื่องเรียน ทำงาน เพื่อนผู้ชาย ซึ่งจุดนี้เราเบาใจได้มาก เพราะได้รู้ปัญหาของลูก รู้ความเป็นไปของเขา”

ป๊อปปี้ เสริมว่า “ทุกวันเราตัวติดกัน ไปกินข้าว ดูหนัง เจอเพื่อนๆ ก็พาคุณแม่ไปด้วย เวลาคุณแม่ไปเจอเพื่อนหนูก็ไปด้วย คุณแม่หนูทันสมัยมาก มีอินสตาแกรม มีไลน์ เวลาไม่ได้อยู่ด้วยกัน หนูก็จะส่งไลน์ไปบอกว่าอยู่ไหน ทำอะไร คุยกับคุณแม่ทุกเรื่องจริงๆ บ่นไร้สาระหนูก็บ่น ไม่ดูด้วยว่าแม่อยากฟังหรือเปล่า แต่เพื่อความให้แม่เชื่อใจเรา หนูคิดว่าต้องเปิด ต้องเล่าให้ฟังทุกอย่าง”

สุดท้าย ป๊อปปี้ อยากบอกอะไรถึงคุณแม่ แต่เจ้าตัวเขินซะงั้น เพราะคุณแม่นั่งฟังอยู่ข้างๆ จึงขอเขียนและให้ทางโพสต์ทูเดย์นำข้อความมาตีพิมพ์ ซึ่งคุณแม่ก็คงจะได้ทราบในวันนี้ ว่าลูกสาวแสนงอนคนนี้ อยากบอกอะไรจากใจ

“ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างที่แม่ทำเพื่อหนูมาโดยตลอด ถึงหนูจะดูนิ่งๆ ไม่พูดจาหวานเหมือนลูกคนอื่นๆ แถมยังดื้อ ไม่ค่อยเชื่อฟังแม่ตลอดเลย ทำให้คุณแม่เหนื่อยใจอยู่บ่อยๆ อยากจะบอกจริงๆ เลยว่าทุกอย่างที่หนูเผลอทำไป หนูไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แม่เสียใจเลยจริงๆ รู้ตัวและรู้สึกผิดทุกครั้ง อยากขอโทษแม่จากใจหนูจริงๆ ถึงหนูจะไม่ใช่ลูกที่ดีที่สุด แต่หนูจะทำทุกอย่างต่อจากนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้แม่คนนี้ต้องผิดหวังในตัวหนูแน่นอนค่ะ รักแม่มากที่สุดและจะรักตลอดไปนะคะ”

‘ณเดชน์’ พ่อทูนหัวของ ‘แม่แก้ว’

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ “แม่แก้วสุดารัตน์ คูกิมิยะ” คุณแม่ของซุป’ตาร์ “แบร์รี่ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นแม่ดีเด่น ประจำปี 2556 จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หากใครได้ติดตามอินสตาแกรมของแม่แก้ว จะเห็นภาพแม่แก้วและณเดชน์เข้าวัดทำบุญอยู่บ่อยๆ

วันนี้แม่แก้วเล่าให้ฟังว่า เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นซุป’ตาร์ที่รักของประชาชน เสียดายจริงๆ ที่ต้องตัดทอนเนื้อหา เพราะถ้าลงแบบเต็มๆ คงได้หลายหน้ากระดาษ แต่นั่นล่ะ ฟังแล้วถึงบางอ้อว่า ณเดชน์ ขึ้นมาเป็นที่รักในใจแฟนคลับได้เพราะความดี

“ครอบครัวของแม่แก้วเลี้ยงกันมาโดยศาสนา แม่แก้วโตมาก็เห็นภาพคุณยายนั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำบุญตักบาตร จนแม่แก้วโตมีครอบครัว มีลูก เราก็พาลูกดำเนินชีวิตแบบนั้น สอนเขาตลอดให้พิจารณาตนก่อน ให้รู้ถูกรู้ผิด ไม่พูดวาจาทิ่มแทงใคร ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร อ่อนน้อมถ่อมตน อันดับแรกที่ตั้งใจสอนเขา คือ ความเป็นตัวเขาเอง เขาโตมามีการแอ็กชันยังไง เราจะดึงในส่วนดีๆ ของเขามายังไง ให้เขาได้โตด้วยตัวเขาเองอย่างมีคุณภาพ และพึ่งตนเองได้ ซึ่งณเดชน์เรียนรู้อะไรได้เร็ว ฉลาดคิด และที่บอกเขาเสมอ คือ คนเราอยากได้ดี ทำหลังให้งอ ทำคอให้อ่อน

เขามาเป็นดารานิสัยพื้นฐานเดิมที่ดีอยู่แล้วไม่เปลี่ยน เขายังนอนหนุนตักแม่ ร้องเพลงดังลั่นในห้องน้ำ และไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน เขาไม่ลืมที่จะพาแม่กับป๊าไปกินข้าวนอกบ้าน แคร์ความรู้สึกป๊ากับแม่ ไม่ทำให้เสียใจ เก็บเรื่องเล็กๆ ที่คนอื่นมองข้าม อย่างแม่แต่งตัวแบบนี้ ทาสีปากแบบนี้ไม่เหมาะ เขาก็บอก”

ทุกวันนี้ ณเดชน์ โด่งดัง ออกนอกบ้านเป็นที่รู้จักของผู้คน มีคนมากรี๊ดมารัก แต่เมื่อ ณเดชน์ กลับเข้าบ้าน เขาก็จะเป็น “พ่อทูนหัว” (แม่แก้วเรียกณเดชน์) ยังเป็นลูกตัวน้อยให้แม่กอดหอม “มีบ้างที่แม่เรียกว่าหนู เขาก็จะล้อกลับมาว่า หนูหรอๆ แล้วเบ่งกล้ามให้ดู หนูอะไรใหญ่ขนาดนี้ (หัวเราะ) แม่เรียกเขาหลายชื่อ บางทีก็ไปไหนมาพ่อ แบร์รี่บ้าง แต่เวลาอยู่ข้างนอกก็เรียกณเดชน์ตามที่คนอื่นเรียก มีนะที่เรียกแล้วเขาไม่หันมาต้องสะกิด

ก่อนณเดชน์จะออกจากบ้านไปทำงานได้ใช้เวลานาน เพราะแม่ต้องหอมแล้วหอมอีก และถ่ายรูปเอามาลงอินสตาแกรมแล้วอวยพรเขาทุกๆ เช้าในนี้ ขากลับแม่ก็จะรอลูก ไม่มาไม่นอน พอเจอกันก็กอดหอมหัวเหม็นๆ ทำมาตั้งแต่เด็ก หน้าที่ของลูกเปิดประตูบ้านมาเอาหัวไถเข้ามาให้แม่ดมก่อนเลย (หัวเราะ) หอมหัว หอมหน้าผาก แล้วเขาก็หอมแก้มแม่ แล้วพากันขึ้นไปดูป๊านอน ณเดชน์ ก็จะลูบขาบอกป๋ากลับมาแล้วนะครับ แล้วแยกย้ายกันไปนอน แม่ก็จะบอกว่า หลับฝันดีนะพ่อ พรุ่งนี้เอากี่ปลุก ส่วนมากณเดชน์จะขอสามปลุก ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก แม่ปลุกเองตลอด แต่สุดท้ายต้องตื่นทันทีนะ ลุกเป็นลุก ณเดชน์เป็นมาแต่เด็ก นอนขี้เซา นอนหลับดีมาก นอนอิ่มกินอิ่ม กินง่ายอยู่ง่ายไปหมด ไม่เคยฮึดฮัด ตรงนี้ทุกคนถึงชอบเขา สิ่งดีๆ ที่เขาสื่อมาออกจากใจ ไม่ได้มาแอ็กชัน เขาอยากทำอะไรก็ทำ เวลาอยู่กับณเดชน์นินทาใครไม่ได้เลยนะ เขาไม่ชอบ”

แม่แก้วใช้ธรรมนำทางในการสอนลูก ค่อยๆ เติมลงไปวันละนิด ทั้งคำพูดและการกระทำ จนณเดชน์เติบโตเป็นเช่นนี้ และในวันนี้ (10 ก.ค.) แม่แก้วกับณเดชน์ รวมถึงครอบครัวญาญ่า ได้ทำบุญผ้าป่าวันแม่แห่งชาติ ณ วัดป่าจันทรมณี (ภูกระแต) อ.กระนวน จ.ขอนแก่น แม่แก้วฝากบอกบุญ ใครอยากร่วมทำบุญตามไปสมทบยังทัน

คูปองวันแม่จาก ‘ญาญ่า’

เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นแม่ลูกวัยทีนเลยเชียว สำหรับ “ญาญ่าอุรัสยา เสปอร์บันด์” และ “แม่ปลาอุไร เสปอร์บันด์” เพราะควงคู่ทำกิจกรรมทุกอย่างด้วยกัน ลูกสาวจะพาเฟี้ยว คุณแม่ก็เฟี้ยวตามได้ไม่ขัดเขิน แถมยังดูน่ารักชวนยิ้มสำหรับผู้พบเห็น

อีกอย่างแม่ปลายังรับหน้าที่เป็นผู้จัดการดาราไปในตัว เรียกว่าลูกฉันดูแลเองครบวงจรทั้งในบ้านนอกบ้าน ซึ่งญาญ่าแฮปปี้ที่สุด “หนูไปดูหนังกับเพื่อน หม่ามี้ก็ไปด้วย หม่ามี้เข้ากับวัยรุ่นได้หมด (แล้วหม่ามี้เรียกญาญ่าว่าอะไร) เรียกพี่ญ่าค่ะ (หันกลับไปถามหม่ามี้ทันทีว่า) หม่ามี้เรียกพี่ญ่า เรียกเพราะเอ็นดูหนูหรือเปล่า (หัวเราะโดยไม่รอฟังคำตอบ) หม่ามี้หนูอึดอดทนที่สุด หนูก็ดื้อไปตามประสา ไม่ได้ฟังทุกเรื่อง แต่หม่ามี้ก็ยังอดทน คอยเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพื่อน เป็นแม่ เป็นผู้จัดการ เป็นคนขับรถ เพราะหนูไม่ถูกใจคนอื่นขับรถให้ และการมีหม่ามี้เป็นผู้จัดการดีที่สุดเลยค่ะ เพราะหม่ามี้เป็นคนที่รักเรามากที่สุด ทุกอย่างที่จัดให้เป็นประโยชน์สูงสุดของตัวหนู ทำงานสบายใจ คุยได้ตลอด มีงานเข้ามาจะถามหนูก่อนเลยว่า อยากทำไหม”

แม่ปลาออกตัวแต่แรกแล้วว่า ไม่อยากสัมภาษณ์ออกสื่อ ปล่อยให้ญาญ่าพูดไปเถอะ แม่ขอนั่ง (อมยิ้ม) ฟังเพลินๆ ญาญ่าเล่าถึงกิจกรรมที่ทำในวันแม่แห่งชาติ ว่า ทุกๆ ปีจะมอบดอกมะลิและกราบแม่ ทำอาหารให้แม่รับประทานในมื้อเช้า และมื้อเย็นไปรับประทานอาหารนอกบ้าน และอีกหนึ่งอย่างที่น่ารัก คือ ทำคูปองวันแม่ เป็นอย่างไรนั้นฟังเธอ “ก็จะทำคูปองกับพี่สาว คนละ 5 ใบ มอบให้หม่ามี้ มีอายุใช้งาน 1 เดือน ในคูปองก็จะเขียน ล้างจาน เช็ดจาน ทำความสะอาดบ้าน รีดผ้า นวด หม่ามี้ก็ใช้หมดนะคะ (หัวเราะ) แล้วมีอีกใบให้หม่ามี้คิดเอง อยากใช้อะไรตามใจเลย หม่ามี้ก็ขำกับไอเดียนี้”

ไม่ว่าแต่ละแม่ลูกจะแสดงความรักต่อกันแบบไหน ทว่าความรักนี้นับเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่หวังผลตอบแทน และไม่มีที่สิ้นสุด