เปิ้ล ไอริณ ขึ้นโรงพักแจ้งความกลับคู่กรณี โต้ข้อกล่าวหาคดีฉ้อโกง

 เมื่อ 1 ก.ค. ที่กองปราบปราม “เปิ้ล ไอริณ”ไอริณ ศรีแกล้ว ดารานางแบบ พร้อมทนายความ เข้าพบพ.ต.ท.วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ พงส.กก.1 บก.ป.

เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ พร้อมนำหลักฐานคำสั่งไม่ฟ้องในคดีที่เปิ้ล ไอริณ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงจากพนักงานอัยการ ลงวันที่ 19 มิ.ย.2556 มามอบให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวนดารานางแบบสาวให้การว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนมิ.ย.2554 ขณะนั้นตนรับจัดงานอีเวนต์  ถ่ายโฆษณาขนตาปลอมให้บริษัทของคู่กรณีคนดังกล่าว ส่วนดารานางแบบคือ“เป้ย ปานวาด” ตามสัญญาตนจะได้ค่าจ้างเป็นผู้จัดการ การถ่ายทำทั้งหมด จำนวน 2 แสนบาท ส่วนนางแบบจะได้อีกส่วนหนึ่ง แยกต่างหาก

 ต่อมาหลังจากงานเสร็จสิ้น คู่ความของตนจ่ายค่าจ้างมาให้ก่อน 1.2 แสนบาท เหลืออีก 8 หมื่นบาทจะจ่ายให้ภายหลัง แต่จากนั้นไม่นานปรากฎว่าตนกลับถูกหมายเรียกตัวจากพนักงานสอบสวนสน.คลองตัน ให้มารับทราบข้อหาฉ้อโกง หลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวนก็ทราบว่าผู้เสียหายคือผู้ว่าจ้างงานดังกล่าวที่ยังติดเงินค่าจ้างตนอยู่นั่นเอง ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร

 น.ส.ไอริณให้การต่อไปว่า ระหว่างนั้นตนเองพยายามชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอน แต่อธิบายอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง  หลังรับทราบข้อกล่าวหาเสร็จแล้วก็ถูกพิมพ์มือ ระหว่างถูกดำเนินคดีต้องไปรายงานตัวที่ศาลตลอด ส่งผลต่อการงาน เดินทางไปต่างประเทศก็ไม่ได้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง กระทั่งเมื่อคดีมาถึงชั้นอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ตนเห็นว่าเรื่องนี้ถูกกลั่นแกล้งเลยเข้าแจ้งความดำเนินคดี

 “สาเหตุที่เกิดขึ้น คิดว่าน่าจะมาจากดารารุ่นใหญ่รายหนึ่ง โดยก่อนถูกแจ้งดำเนินคดี เปิ้ลและเพื่อนและดาราคนนี้ไปเที่ยวที่ภูเก็ตด้วยกัน ปรากฎว่าระหว่างออกไปเที่ยว เปิ้ลเกิดไปมีปัญหากับดาราคนนี้ ทำให้เขาไม่พอใจ ก่อนเดินทางกลับเขาก็พูดในเชิงข่มขู่ว่า ให้ระวังตัวนะ กลับมาจะมีการแถลงข่าว ก็ยังแปลกใจว่าจะมีอะไร มาทราบอีกทีก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว โดยผลจากที่ได้รับจากการถูกแจ้งความทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเฉพาะทางสังคมออนไลน์ ที่กล่าวหาเปิ้ลอย่างเสียหาย ก็เลยต้องมาแจ้งความกลับดังกล่าว” ดาราสาว ระบุ