ใบเตย โอดถูกด่าคนเดียวทั้งที่สร้างชื่อให้ประเทศ

"ใบเตย" โอดเสียความรู้สึกถูกรุมจวกอยู่คนเดียวทั้งที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ อาร์สยามย้ำท่าเต้นเป็นศิลปะอย่ามองแต่ด้านลบ

ล่าสุด น.ส.สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม รวมทั้งค่ายเพลงต้นสังกัด ได้ออกมาชี้แจงและท้วงติงกลับไปว่า กรณีของใบเตยนั้น เป็นศิลปะ และเป็นการแสดง ไม่มีเจตนาทำให้วงการเพลงลูกทุ่งไทยเสื่อมเสีย
 
น.ส.สุธีวัน กล่าวว่า การแต่งตัว รวมทั้งท่าเต้นของเธอทุกท่า เป็นรูปแบบที่ค่ายเพลงต้นสังกัดจัดเตรียมให้ทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี และยังได้รับความนิยมในต่างประเทศด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย และศิลปินไทย
 
  น.ส.สุธีวัน กล่าวว่า ปัจจุบันในวงการเพลงไทย และเพลงลูกทุ่งมีศิลปิน นักร้องที่แต่งตัวนุ่งสั้น และมีท่าเต้นในลักษณะเดียวกับตนมากมาย แต่เหตุใดจึงจ้องจับผิดมาที่ตนเพียงคนเดียว การที่ถูกผู้ใหญ่ในสังคมออกมาตำหนิแบบนี้ทำให้รู้สึกผิดหวัง และเสียความรู้สึก ทั้งที่ผลงานของตนสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ทุกวันนี้คนต่างประเทศก็ร้องเพลงแน่นอกได้
 
  ด้าน นายศุภชัย นิลวรรณ ผู้บริหารค่ายเพลงอาร์สยาม ในเครือ บมจ.อาร์เอส ต้นสังกัดของใบเตย กล่าวว่า ต้องขอบคุณรองอธิบดี สวธ.ที่แสดงความเป็นห่วง แต่ขอชี้แจงว่า ค่ายเพลงอาร์สยามมีศิลปินกว่า 100 ชีวิต ผลิตเพลงทุกแนว ทั้งลูกทุ่งอีสานหมอลำส่งเสริมวัฒนธรรม ลูกทุ่งแท้ๆ ลูกทุ่งเพื่อชีวิต และลูกทุ่งป๊อปอย่างแนวใบเตย ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบแนวนี้
 
  "งานเพลงในมุมมองของบริษัทถือว่าเป็นงานศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ไม่มีกรอบตายตัว แต่ละแนวเพลงที่ผลิตออกมาเราใช้บุคลิกของศิลปินแต่ละคนมาเป็นองค์ประกอบใน การสร้างสรรค์ผลงาน เช่น คนไหนเรียบร้อย ก็ทำแนวเพลงที่เรียบร้อย คนที่เซ็กซี่ก็ทำแนวลูกทุ่งป๊อปตามยุคสมัย แต่ไม่ได้หมายความว่านักร้องทั้งค่ายจะมานุ่งน้อยห่มน้อยหากินจนเป็นสูตร สำเร็จกันทุกคน เพราะปกติ ค่ายอาร์สยามจะเตือนให้นักร้องแต่งกายให้ถูกกาลเทศะอยู่เสมอ"  นายศุภชัยกล่าว

  ส่วนที่ตำหนิว่านักร้องสาวใบเตยทำให้เยาวชนลอกเลียนแบบท่าเต้นโชว์เรือนร่าง และปล่อยคลิปตามยูทูบ จนเกิดเป็นการเสื่อมเสียนั้น นายศุภชัยกล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คงไม่ผิดถ้าแค่เลียนแบบท่าเต้นที่เป็นที่นิยม ส่วนที่ทำในเชิงอนาจารเลยเถิด ทางบริษัทไม่เห็นด้วย และยังได้ร่วมแสดงการคัดค้าน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบดูแลเกี่ยวกับความผิดทางสื่อ อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย

"ผมเป็นคนหัวเก่า เพียงแต่ยอมรับความจริง และปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยบ้าง เพื่อให้คนรุ่นใหม่สนใจเพลงไทยมากขึ้น และเมื่อเปิดใจกว้างยอมรับแล้ว สามารถสอดแทรกสาระที่เป็นประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยการบังคับหรือเอาความรู้สึกของเราหรือของ ใครเป็นที่ตั้งได้" ผู้บริหารค่ายเพลง กล่าว
 
  นายศุภชัย กล่าวต่อว่า กรณีของใบเตยควรมองในมุมสร้างสรรค์ว่า จะใช้ความโด่งดังของ ใบเตย มาสร้างประโยชน์ให้แก่โครงการดีๆ ในสังคมได้อย่างไรบ้าง แทนที่จะต่อต้านเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมามีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ เชิญใบเตยให้ร่วมทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์มากมาย แต่เรื่องดีๆ มักไม่ค่อยได้รับความสนใจ หากหน่วยงานไหนต้องการให้ใบเตยไปร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ก็สามารถทำ เรื่องเข้ามาขออนุมัติหรือปรึกษาหารือได้
 
  "ใบเตย เป็นศิลปินของค่าย เราสามารถควบคุมให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมได้ แต่ถ้าเห็นว่าเรื่องใดไม่เหมาะสมหรือเห็นแล้วไม่สบายใจ สามารถติติงในเชิงสร้างสรรค์ได้ เพราะบริษัทพยายามควบคุมดูแลศิลปินอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมชีวิตศิลปินได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางเรื่องเป็นสิทธิส่วนบุคคล สุดท้ายขอขอบพระคุณท่านรองอธิบดี สวธ.อีกครั้งที่แสดงความเป็นห่วง บริษัทจะนำคำติชมนี้มาพิจารณา ดำเนินการแก้ไขให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อความสบายใจของทุกคน" นายศุภชัยกล่าว
 

ด้าน นายดำรงค์ ทองสม รองอธิบดี สวธ.กล่าวชี้แจงกรณีที่ออกมาติติงกรณีใบเตยว่า เพียงต้องการให้รู้ว่า การแต่งกายหรือการแสดงของศิลปินที่ออกมาน่าจะเหมาะสมกับสังคมวัฒนธรรมไทย เท่านั้น ส่วนชื่อเสียงด้านดีของใบเตยนั้นก็ยอมรับในแง่ของการออกไปเผยแพร่เพลง ลูกทุ่งให้เป็นที่รู้จักของนานาประเทศ แต่ถ้าเด็กรุ่นใหม่มาเห็นท่าทางการแสดงทั้งนุ่งสั้นเสมอหู ยั่วยวนทางเพศ ก็นำไปเลียนแบบอย่างที่เป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ การเป็นบุคคลสาธารณะจึงต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มาก หากเป็นคอนเซ็ปต์ส่วนตัวที่ต้องนุ่งสั้นก็ไม่มีใครห้าม แต่เพียงเตือนให้รู้ว่าควรสั้นพอประมาณ

  "การที่คุณจะคิดว่าทำเพื่อประเทศชาติแล้วคุณจะทำอย่างไรก็ได้นั้น มันไม่ถูกต้อง เพราะชื่อเสียงมันก็มีทั้งแง่บวก และลบ ต่างชาติอาจจะคิดว่า คนไทยใจถึง คุณคิดว่ามีอะไรดี เมื่อคนเป็นพ่อแม่ฟังเขาจะรู้สึกอย่างไรกับการมีชื่อเสียงก้องโลกแบบนี้ คุณไม่ใช่บุคคลดังแบบมาดอนนา นักร้องชาติตะวันตก ที่จะไปแต่งตัวยั่วยวนแบบนั้น แต่คุณเป็นคนไทยก็ควรนำสิ่งดีงามไปเผยแพร่ไปแสดงต่างประเทศ ในส่วนของกระทรวงแม้จะไม่มีอำนาจสั่งห้ามไม่ให้นุ่งสั้น หรือไม่ให้เต้นยั่วยุ แต่อยากให้ใบเตย ซึ่งเป็นคนของประชาชนเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ลองฟังเสียงของผู้หลักผู้ใหญ่ดูบ้าง" รองอธิบดี สวธ.กล่าว
 
  ขณะที่ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ อดีต รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันสื่อทีวี อินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การแสดงออกของศิลปินเปลี่ยนไป เห็นได้จากการแต่งตัว ที่สมัยใหม่ นิยมนุ่งสั้น โชว์หน้าอก เพื่อเป็นจุดขายของตัวเอง และการค้า เช่นเดียวกับกรณีใบเตย ที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้หญิงเซ็กซี่ สร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองแตกต่างจากนักร้องลูกทุ่งคนอื่นๆ จนเป็นที่ฮือฮาของสังคม ที่สำคัญสามารถสร้างผลประโยชน์ให้แก่บริษัทต้นสังกัดได้อย่างมหาศาล
 
  คุณหญิงไขศรี กล่าวว่า วันนี้สังคมไทยอ่อนแอมาก จนไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว ต้องตั้งคำถามให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหาว่า ทำอย่างไรถึงจะสร้างสำนึกให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของบริษัท ที่ผลิตตัวศิลปิน มาเพื่อการค้า ก็ควรให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ขณะเดียวกัน จำเป็นต้องหาทางสร้างสำนึกให้เยาวชน คนไทย ตระหนักถึงการแยกแยะให้ได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ดี อะไรคือสิ่งที่ไม่ดี เราจะมาหวังเพียงแต่การแก้ปัญหาของกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ