สูตรสำเร็จใหม่ละครไทย ไม่ใช่จ้องตา แต่ความฟินที่กำลังมา อยู่ตรงเท้า

ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับ ที่ใส่ทั้งฉาก "คุณชายหมอ" นวดเท้าให้ "กรองแก้ว" เมื่อตอนนางเอกข้อเท้าเคล็ดจากการซ้อมเต้นรำ, ใส่รองเท้าให้นางเอกตอนพยายามหลบหนี "ท่านพินิจ" และเหมือนจะมีอีกครั้งในตอนอวสานวันนี้บอกว่า ที่ตั้งใจใส่ฉากดังกล่าวก็เพื่อแสดงให้เห็นความรู้สึกของนางเอก ที่ว่าทำไมคุณชายผู้สูงส่ง จึงไม่ถือตัวเลย

"ซึ่งมันดูน่ารักมากๆ"

"เวลาทำเราจะคิดว่าถ้าเป็นเรา เราจะรู้สึกยังไง โหย...เป็นคุณชาย แถมเป็นหมอ แล้วนั่งลงจับเท้าผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง มันโรแมนติกมาก"

"เราว่าเราเดาใจคนดูถูก" ดังนั้น จึงมั่นใจว่าคนที่ดูฉากนี้ "จะรู้สึกเขินไปกับเรา"

มั่นใจอีกว่าไม่เพียงเฉพาะ "กรองแก้ว" แต่ผู้หญิงทุกคน ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้เข้า "ใจยวบ" แน่นอน

ใครดูแล้วไม่ฟินคงแปลก

ขณะ ชาย-ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ ผู้กำกับ "ตะวันฉายในม่านเมฆ" ซึ่งมีฉากบอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ล้างเท้าและทำแผลให้ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ก็ว่าตอนแรกไม่คิดจะใส่ฉากนี้ไว้ให้ฟิน แต่เมื่อสถานการณ์ของเรื่องคือชายทะเล อะไรๆ ก็เลยพาไปให้เกิดฉากนี้ขึ้น

ฉากที่นางเอกเดินชายหาดแล้วโดนเปลือกหอยบาดเท้า

"คนสองคนที่มีความรู้สึกต่อกัน ก็มีความรู้สึกห่วงหาอาทร มันเลยเป็นวิธีสื่อแบบหนึ่งที่บอกว่า คนเราก็อยากจะทำอะไรก็ได้ให้คนที่เรารักปลอดภัย หายเจ็บ"

"ส่วนเท้าคนไทยคิดว่าเป็นของต่ำหน่อย แต่เมื่อเป็นคนที่เขารักมาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนเขาก็ดูแล ทะนุถนอม เหมือนเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ที่จริงการสัมผัสส่วนต่างๆ มันสร้างความโรแมนติกได้หมด แต่การที่ผู้ชายคนหนึ่งจะลงไปล้างเท้าให้ เป็นการแสดงความจำนงให้ผู้หญิงรับรู้ ว่าเขายอมในทุกอย่างทุกด้าน"

การจะห้ามใจนางเอกไม่ให้รัก คงยากพอๆ กับห้ามคนดูไม่ให้จิกหมอนละ

เขายังว่าฉากฟินๆ แบบนี้ผู้กำกับทุกคนพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้เป็นจุดขายของตัวเอง โดยพยายามฉีกจากภาพเดิมๆ เลิกหันมาเจอกัน ล้มทับกัน

"จะให้จูบจริง หอมจริงก็ไม่ได้ ให้จับมือก็ปกติไป"

ฉากเท้าๆ ดังว่าจึงเกิดขึ้น

ด้าน อำไพพร จิตต์ไม่งง ก็เล่าถึงฉากที่ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ จูง คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ มานั่งตัก แล้วใส่รองเท้าให้ จนใครๆ พากันกรีดร้อง อยากมีคนให้นั่งตัก แล้วทำอย่างนั้นบ้างก็ว่าก่อนหน้านี้ในเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" เธอเคยให้พระเอกตัดเล็บเท้าให้นางเอกมาแล้ว และได้รับเสียงตอบรับถล่มทลาย

"มันคือความอบอุ่น การยอม การงอนง้อ"

ดังนั้น พอโคลสอัพภาพผู้ชายขณะก้มลงทำกิริยาอาการเหล่านั้น มันจะให้ความรู้สึกว่าเขาร้ากกกรัก

จึงไม่ต้องแปลกใจที่คนดูซึ่งเป็นหญิงส่วนใหญ่จะใจละลายไปกับพฤติกรรมดังว่า

อย่างไรก็ดี ในสายตาเธอ ฉากฟินๆ เหล่านี้แม้ไม่ใช่จุดขายของเรื่อง

"แต่เป็นจุดที่ขาดไม่ได้"

เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ละครน่าติดตามมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้เรื่องต่อๆ ไปอาจมีเรื่องที่ต้องเล่นกับเท้าอีก แต่คงต้องมีการดีไซน์ท่าทางใหม่ ไม่ให้ซ้ำเดิม

การนี้ไม่เพียงเพื่อสนองความต้องการไม่อยากซ้ำของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเพื่อสร้างภาพใหม่ๆ ให้คนดูด้วย

เตรียมใจฟินกับฉากใหม่ๆ ไว้ได้เลย

 

หน้า 24,มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2556