ส่องดาวดวงใหม่ไฉไลในแบบฉบับมิว-นิษฐา

โด่งดังเป็นที่รู้จักกับบทบาทของ "หม่อมเจ้าหญิงวรรณรสา" หรือ "หญิงแต้ว" ในละครเรื่อง "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ตอน "คุณชายปวรรุจ" 

เวลานี้ทำให้หลายคนอยากรู้จักนางเอกหน้าหวาน "มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน" ให้มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากหน้าตาของเธอจะสวยบาดใจหนุ่มๆ แล้ว ความสามารถทางด้านการแสดงของนางเอกใหม่คนนี้ถือว่าสอบผ่านได้อย่างฉลุย วันนี้ "คม ชัด ลึก" เลยขอคว้าตัวเธอมานั่งพูดคุยกันแบบเปิดอกกับทุกเรื่องราว โดยเฉพาะเรื่องหัวใจที่เธอออกตัวว่าตอนนี้โสดสนิท 

          กระแสตอบรับค่อนข้างดีมากเลย ส่วนใหญ่คนจะชอบทั้งตัวรสา และตัวเราเองด้วย คนดูรอติดตาม บางคนบอกไม่อยากให้จบเลย (ยิ้ม) เขาอินกับละครที่เราเล่น เราเลยรู้สึกดีใจ แต่ตอนแรกที่ได้เล่นเรื่องนี้ยอมรับว่ากดดันมาก ไปเปิดกล้องที่สวิตเซอร์แลน ตอนนั้นไม่อยากไปเลยกลัว (หัวเราะ) ไม่พร้อมด้วย ต้องไปกับคนที่เราไม่รู้จักเลย เราไม่สนิทกับใครเลยในนั้น แม่ก็ไม่ได้ไป กลัวไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง คือเราได้เวิร์กช็อปกับเพชร (นาระ เอื้อทวีกุล) พลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) นิดหน่อยก่อนไป เราเลยรู้สึกว่ามีสองคนนี้ที่เราคุยได้ วันแรกกับพี่โป๊ป (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) แทบจะไม่ได้คุยกันเลย แต่พอได้ไปหาอะไรกินกัน ระหว่างหยุดพักถ่ายก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น

          ไม่เลย คิดว่าคนน่าจะชอบ แต่กระแสตอบรับมันดีกว่าที่เราคิดเอาไว้เยอะ แฮปปี้มากหายเหนื่อยเลย เพราะเรื่องนี้ถ่ายนานเหมือนกัน ไปเปิดกล้องที่สวิตเซอร์แลนด์ กลับมาก็ถ่ายเมืองไทยอีกด้วย

          มีนะ ก่อนจะที่ได้เล่นละครเรื่องนี้ ได้เรียนการแสดงกับที่ช่องประมาณ 3 เดือน พอได้เล่นเรื่องนี้ พี่คิง (สมจริง ศรีสุภาพ) ก็ให้ไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่ม เรียนมารยาท ขี่ม้า ไวโอลิน

          ยาก หินกว่าที่เราคิดไว้เยอะ เวลาที่เรียนการแสดงในห้องกับเล่นจริงมันคนละอย่าง เพราะเวลาเราเล่นจริง มีสภาพแวดล้อม มีบท มีหลายสิ่งที่บีบบังคับให้เราทำให้ได้ มันยิ่งเพิ่มความกดดันให้เรา อย่างซีนง่ายๆ พูดกับเพื่อนยังยากเลย เพราะมันตื่นเต้นมันเกร็งอะไรก็ยากไปหมด จำได้ว่าซีนแรกที่ถ่าย โดนเข้าไปประมาณ 5-6 เทก ซึ่งเป็นซีนธรรมดาคุยกับเพื่อน คือพอเรากดดันก็จะลืมบท ลืมซ้ำแล้วซ้ำอีก เรายิ่งรน

          คล้ายๆ ตรงที่เป็นคนนิ่งๆ พูดน้อย มีความมั่นใจระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่เท่ารสา จริงๆ ดีใจนะที่คนชอบตัวรสา เราเองก็รักในตัวรสาเหมือนกัน เขาเป็นผู้ใหญ่มั่นใจ เป็นท่านหญิง แต่ยังไงเขาก็เอาความรักเป็นที่หนึ่ง ให้ความสำคัญกับความรักมากกว่ายศถาบรรดาศักดิ์ 

          เซ็นสัญญาไว้ 3 ปี ที่เซ็นสัญญาไว้สั้นเพราะตอนแรกคิดว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เลยบอกพี่สมรักษ์ (สมรักษ์ ณรงค์วิชัย) ไว้ พี่สมรักษ์เลยแนะนำให้เซ็นไว้ 3 ปี ถ้ายังไงค่อยเซ็นก็ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่คิดว่าหลังจากนั้นจะยังไงต่อไป คือหนูเรียนจบทางด้านแฟชั่นดีไซน์ ตอนแรกคิดว่าถ้าไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงการ คงไปเรียนต่อทางด้านแฟชั่นมาร์เก็ตติ้งที่ต่างประเทศ

          ในเรื่องเล่นเป็นลูกศร ตอนนี้เราอ่านหนังสือและอ่านบท บทออกมาประมาณ 7 ตอนแล้ว อาจจะมีไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่มเติม ในเรื่องอเล็กซ์ (อาเล็กซ์ ธีรเดช) เป็นคู่หมั้นเรา แต่ที่รักกันจริงๆ คือพี่ชาคริต (ชาคริต แย้มนาม) ตอนนี้เราพยายามศึกษาคาแรกเตอร์ตัวนี้อยู่ จะไม่ดูเทปละครเรื่องเก่า ถามว่าเคยดูมั้ย เคยดูตอนเด็กๆ แต่จำไม่ค่อยได้ จำได้ว่าใครเล่น แต่จำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้ 

          รู้อยู่แล้วว่าต้องโดนเปรียบเทียบอยู่แล้ว แต่ไม่ได้กลัวนะ เพราะคิดว่าไม่น่าจะออกมาเหมือนกันอยู่แล้ว คาแรกเตอร์มิวกับพี่นุ่น (สินิทรา บุญยศักดิ์) เล่นออกมาน่าจะเป็นลูกศรคนละลูกศรกัน สิ่งที่หนักใจคือเราเป็นเด็กใหม่อยู่คนเดียว นอกนั้นเป็นรุ่นใหญ่ที่ผ่านการแสดงมาเยอะมาก มันก็นาจะกดดันมากเวลาถ่ายทำ

          เหมือนหลายคนเลย แต่เราแฮปปี้นะ เพราะแต่ละคนที่เขาบอกทุกคนสวยๆ ทั้งนั้นเลย ดีใจภูมิใจ (หัวเราะ)

          เริ่มจากโฆษณา เป็นโฆษณาที่ไม่ต้องแคสติ้ง เหมือนไปนั่งอยู่หลังรถคุยกับเพื่อน พอมีโฆษณาชิ้นนั้น คุณพ่อก็ไม่ชอบให้ถ่ายเท่าไหร่ เลยหยุดไปสักพักหนึ่ง เพราะคุณพ่อไม่ชอบให้ทำงานในวงการนี้ เขากลัวด้วย แต่พอเราเรียนอยู่ปี 2 มีเพื่อนที่เขาเหมือนเป็นโมเดลลิ่งพาไปแคสติ้งใหม่ คุณพ่อเลยโอเค เพราะเหมือนเป็นเพื่อนกับคุณพ่อ คุณพ่อเลยอนุญาต แล้วก็ถ่ายโฆษณาประมาณ 5-6 ตัว จนตัวล่าสุดคือซันซิล ที่ช่อง 3 เห็น เลยเรียกมาที่ช่อง

          จะถามตลอดว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง ทำอะไรอยู่ คุณพ่อจะบอกเสมอว่าให้เราทำตัวเหมือนเดิม ระวังตัวดีๆ อย่าเหลิง คือตอนนี้มีคุณแม่มาช่วยดูด้วย ถ้าคุณแม่ว่าง ก็จะมาทำงานกับเราด้วย บางทีถ่ายไกลๆ เราไม่รู้ทางคุณแม่ก็จะมาส่ง 

          ไม่เลย ไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะเป็นคนไม่กล้าแสดงออก ทำอะไรแบบนี้ไม่ค่อยเป็น ขี้อายมากกว่า แต่ตอนนี้เราเข้ามาตรงนี้ เลยเป็นคนกล้าขึ้นเยอะเลย(หัวเราะ) ตอนเด็กๆ ก็เป็นเด็กเงียบๆ ตั้งหน้าตั้งตาเรียน เป็นเด็กเรียนเกรดก็ 3 อัพ ไม่ค่อยซ่าเท่าไหร่

          ตอนแรกเราก็มองว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวเหมือนกัน เป็นอะไรที่มาเร็วไปเร็ว ฉะนั้นเราต้องทำตัวให้ดี อย่าให้มีข่าวทำให้เราเสียหาย ภาพลักษณ์ไม่ดี อย่างการแสดงเราต้องพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ คนเขาจะยินดี ชื่นชอบเราเอง

          เรียนจบแล้ว รอรับปริญญา ที่ มศว (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร) แต่ตอนที่ถ่ายละครเรื่องนี้ เรากำลังเรียนอยู่ปี 4

          คุณพ่อเขาก็ไม่อยากเข้าวงการตอนที่เราเรียนอยู่ เพราะกลัวเรียนไม่จบ แต่พอเข้ามาแรกๆ เราไปเรียนหนังสือ พอเรียนเสร็จก็มาเรียนแอ็กติ้งเพิ่ม เวลาไม่ชนกัน กระทั่งมาได้เล่นเรื่องนี้ จริงๆ ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่เราทำวิทยานิพนธ์  ละครก็ต้องเร่งถ่ายด้วย ถ้ามีอะไรที่ต้องไปมหาวิทยาลัย ต้องบอกกับทางกองไว้ ขอเขา เขาจะจัดคิวให้ไม่ชนกัน  

          ตอนนี้ว่าจะพักเบรกเรื่องเรียนไว้ก่อน เพราะเรียนจบแล้ว มาทำงานในวงการให้เต็มที่ก่อน จนถึงจุดหนึ่งที่เราพอใจ แล้วค่อยไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ  คือโอกาสการทำงานตรงนี้มันมายาก และยากที่จะอยู่ได้นานๆ จะทำให้เต็มที่และสุดๆ เลย ตอนนี้เรากำลังสนุกกับงานในวงการ เหมือนเราได้ทำอะไรใหม่ๆ ตลอด อย่างเช่นถ่ายละคร เราก็ได้บทที่แตกต่างกันในแต่ละเรื่อง เหมือนได้ลองอะไรใหม่ๆ ตลอด เลยรู้สึกสนุกและชอบงานตรงนี้

          ต้องเปลี่ยนนะ เหมือนเราทำอะไรเป็นมากขึ้น จัดเวลาให้เป็นมากขึ้น ต้องแพลนชีวิตให้ดี บางวันมีอะไรที่ต้องทำหลายอย่าง แต่ไม่ต้องปรับอะไรมาก ส่วนใหญ่คนรอบข้างจะเรียกเราว่าท่านหญิง หญิงแต้ว เราไม่ต้องปรับอะไรมาก ก็ขำๆ ตลกดี เรายังทำตัวเหมือนเดิม บางทีมีคนมาขอถ่ายรูปบ้าง ทักบ้าง เราก็รู้สึกดีที่มีคนจำเราได้ (ยิ้ม)

          ถามว่ามีโลกส่วนตัวมั้ย ก็มีบ้างนะ บางทีเหมือนอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ เพราะเราทำงานเจอคนเยอะ เหมือนเจอมาทั้งวันแล้ว เลยมีอารมณ์เหนื่อย อยากอยู่คนเดียว นอนสบายๆ (หัวเราะ) 

          เราเตรียมใจไว้เหมือนกันว่ามันต้องมีข่าวไม่ดีออกมาแน่ๆ ซึ่งมันอาจจะจริงหรือไม่จริง แต่ไม่ได้เครียดอะไรนะ คิดว่าเราจะรับมือกับมันได้เอง คิดว่าเราทำตัวให้ดีๆ ถ้าข่าวออกมาไม่ดี ไม่เป็นความจริง เดี๋ยวคนก็รู้กันเอง 

          เขินๆ เหมือนกัน ไม่กดดันนะ แต่แค่เขินๆ ที่ถูกเรียกแบบนี้ 

          คุณพ่อคุณแม่นี่ล่ะ คอยบอกเราตลอด คนรอบข้างจะบอกเราเหมือนกัน ว่าเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น ให้เป็นเหมือนเดิม พอดังแล้วอย่าทำตัวเปลี่ยนไป หรืออย่าเหลิง เราก็จำได้ แต่ทุกวันนี้เราไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นนางเอก ทำตัวเป็นมิวปกติ ใช้ชีวิตปกติ

          น่าจะคล้ายๆ กัน คงเอาเรื่องความรักมากกว่าเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ ถ้าเกิดเรามียศนะ (หัวเราะ)

          กับพี่โป๊ปก็ไม่ค่อยสอนอะไร พี่คิงผู้กำกับจะสอนให้เรามากกว่า พี่โป๊ปจะให้กำลังใจและช่วยส่งบทให้มากกว่า ส่งมาให้เต็มที่เลย 

          รู้สึกดีเหมือนกัน แสดงว่าเราเล่นรับส่งกันดี เคมีเข้ากัน คนชอบเลยให้จิ้นกันนอกจอ

          พี่โป๊ปเป็นคนน่ารัก แต่สเปกหรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่ได้สนิทกันขั้นนั้น รู้จักกันระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ศึกษากันจริงจังว่าใช่หรือไม่ใช่

          (หัวเราะ) ไม่ได้ส่งสายตาปิ๊งๆ เลยนะ เหมือนคนเขากำลังอินกับละครมากกว่า เขาเลยมองว่ากุ๊กกิ๊กกันหรือเปล่า แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย คุยกันปกติ แทบจะไม่ได้คุยกันเลย เพราะทุกวันนี้ไม่ได้ถ่ายละคร เลยไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันเลย

          โสดนะ แต่อาจจะมีคนเข้ามาคุยบ้าง ตามปกติ หนุ่มๆ ในวงการไม่มีมาจีบ มีแต่หนุ่มๆ นอกวงการเข้ามาคุย ในวงการเราไม่ค่อยได้เจอใคร นอกจากหนุ่มๆ ในสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ถามว่าสเปกเป็นแบบไหน ให้เป็นคนดี อบอุ่น ดูแลเราได้ เหมือนคุณชายปวรรุจ ก็โอเค เพราะเขาเป็นคนดี

 

          นี่แหละ "หญิงแต้ว" ในแบบฉบับ "มิว"

.......................................

 เธอคนนี้ชื่อ...นิษฐา จิรยั่งยืน

 ชื่อเล่น...มิว

 เกิด วันที่ 21 กันยายน 2533

 การศึกษา เพิ่งเรียนจบ เอกออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาศตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร 

 ผลงานที่ผ่านมา โฆษณาซันซิล, AIS, Cute Press รวมถึงเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ

 ผลงานละครเรื่องแรก ซีรีส์ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ เรื่อง คุณชายปวรรุจ

 ผลงานตอนนี้ กำลังถ่ายละครทรายสีเพลิง