สองปีหลังจากที่มาไรอาห์ แครีย์ ร่วมแสดงคอนเสิร์ตในงานส่งท้ายปีเก่าให้แก่ครอบครัวของนายมูอัมมาร์ กัดดาฟี
เธอเปิดเผยว่าตอนนี้เธอรู้สึก "เลวร้ายและอับอาย"ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าเธอจะปฏิเสธที่จะบริจาคเงินค่าตัวจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ที่เธอได้รับก็ตาม แต่เธอสัญญาว่ารายได้ที่เธอได้รับจากซิงเกิ้ลเพลงต่อไปของเธอ คือ Save the Day จะบริจาคให้แก่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน
"ฉันรู้สึกอับอายที่เคยมีส่วนร่วมในสิ่งที่เลวร้ายครั้งนั้น" เธอกล่าวให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าววานนี้(3 มี.ค.)
แต่กระนั้น สิ่งที่เธอกล่าวก็ยังแสดงถึงความรู้สึกผิดของเธอมากกว่านักร้องสาวอีกสองรายที่เคยร่วมแสดงคอนเสิร์ตลักษณะเดียวกันนี้ คือ บียอนเซ่ และเนลลี่ เฟอร์ทาโด้ โดยทั้งสามคนเคยร่วมแสดงคอนเสิร์ตในงานเลี้ยงส่วนตัวของครอบครัวกัดดาฟีมาแล้ว และได้รับค่าตัวเป็นเช็คเงินสด โดยบียอนเซ่และแครีย์กล่าวในขณะนั้นว่า ตนเองไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง
"ฉันซื่อและขาดความระมัดระวังจนเกินไปว่าใครเป็นคนจ้าง" แครีย์ถือเป็นหนึ่งใน 22 คน ที่อยู่ในรายชื่อ"กำลังตาม"(following) โดยนายซาอิฟ อัล-อิสลาม บุตรชายของนายกัดดาฟี "พูดอย่างตรงไปตรงมา นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญที่ศิลปินจะต้องเรียนรู้" แครีย์กล่าว "เราจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้น และแสดงความรับผิดชอบ โดยที่ต้องคำนึงว่าใครเป็นผู้จ้างเรา ท้ายที่สุดแล้ว เราในฐานะศิลปินจะต้องแสดงความรับผิดชอบ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom