เจาะลึก หนุ่มหน้าตี๋ ขวัญใจสาวๆ จอห์นนี เงวียน

"บอกตรงๆ ครับว่า ผมรักประเทศไทย"


นี่คือ ความรู้สึกที่ออกจากปากของ จอห์นนี เงวียน (Johnny Nguyen) ดาราฮอลลีวูดชาวเวียดนาม ที่เอาดีจากการเป็นสะตั๊นแมน เป็นตัวประกอบ จนกระทั่งเป็นพระเอก และลงมือสร้างเอง เล่นเองในที่สุด


หากยังนึกไม่ออกว่าพ่อบึกคนนี้เป็นใคร


ก็ลองหลับตานึกถึงเรื่องราวในหนัง "ต้มยำกุ้ง" ที่ "จ่ามาร์ค" หม่ำ จ๊กม๊ก พาพระเอก จา พนม ดั้นด้นไปตามหา "พ่อใหญ่" ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย แล้วไปเจอแก๊งเวียดนามที่นั่น


เจ้าบึกคนที่หน้าตายียวนกวนโอ๊ย คนที่เตะ จา พนม จนกลิ้งนั่นแหละ คือ จอห์นนี เงวียน คนนี้


หากยังนึกไม่ออกก็ลองหลับตานึกอีกสักที ..

นึกถึงโฆษณาของแบงก์กสิกร ฉากที่มนุษย์ลมกรดจัดการกับการฝากเงินให้แก่ลูกค้าสูงวัยผู้หนึ่ง หรือ โฆษณาเบียร์พรีเมียมยี่ห้อหนึ่ง ที่มีฉากเจ้าภาพงานเลี้ยงต้อนแขกให้กลับบ้าน

และมีคำบรรยายเป็นภาษาไทยใต้ขอบจอว่า "ดึกแล้วๆ" อะไรทำนองนั้น


เจ้าภาพที่ เห็นแก่ตัว คนนั้นแหละคือ


จอห์นนี เงวียน เขาประกาศปิดงานเลี้ยง เมื่อพบว่าในตู้เย็นเหลือเบียร์อยู่แค่ขวดเดียว

ผลงานทั้งหมดมันบอกให้รู้ว่า

ในช่วงปีใกล้ๆ นี้ จอห์นนี เงวียน ได้อยู่ใกล้ประเทศไทยมาก หรืออย่างน้อยก็ได้มาเห็น มาทำงานและพำนักในกรุงเทพฯ


หนุ่มลูก 1 ล่ำบึก จากนครโฮจิมินห์ บอกความในใจเกี่ยวกับเมืองไทย


ผ่านนิตยสาร IMAGE ฉบับเดือน พ.ย. ที่ยังอยู่บนแผงหนังสือทั่วไปในขณะนี้

"ผมบอกตรงๆ ครับว่า ผมรักประเทสไทย เพราะคนไทยใจดี อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ" จอห์นนีกล่าวถึงไทยแต่เพียงสั้นๆ

ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ยาว

ซึ่งกินความถึงเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว และการเผชิญภัยในวัยเด็ก เมื่อต้องหนีจากเวียดนาม ติดตามบิดาไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ


อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่เคยมีสาวคนรักเป็นคนไทย


แต่เจ้าตัวก็บอกว่า ไม่เคยมีแฟนฝรั่ง "ผมมีแต่แฟนเป็นคนเอเชียที่โน่นมากกว่า" จอห์นนี คุยไปหัวเราะไป

หน้าตาที่จัดว่าหล่อเหลาปานนี้ หนุ่มบึกก็ยังบอกว่า จริงๆ แล้วเคยถูกสาวหักอกมา 2-3 ครั้ง ตอนที่ยังอยู่ในวัยโจ๋ แต่การอกหักก็ได้ทำให้เรียนรู้ และ คนเราไม่ควรเป็นทุกข์กับมันจนเกินไป


ผู้หญิงแบบไหนที่คุณชอบ?...


"ตอนผมยังเป็นวัยรุ่นนั้น หน้าตาสำคัญมาก แต่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นความคิดก็เริ่มเปลี่ยนไป ตอนนี้การเรียนรู้กันและกัน ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า" จอห์นนีกล่าว

ส่วนประกอบของความรัก

มันเข้าใจยากเหมือนกันนะ อาจจะเป็นเพราะดวงของผมด้วยหรือเปล่าไม่ทราบ ผมเป็นคนเกิดปีขาล เป็นคนที่อยู่คนเดียวได้ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร"


เขาบอกว่าตอนที่กลับไปเวียดนามใหม่ๆ


ได้เดินทางไปทุกที่ เหนือจรดใต้ เพราะไม่เคยได้รู้จักบ้านเกิดเลย แต่ในที่สุดก็ได้ค้นพบว่า ที่นั่นมีพื้นฐานทางวัฒนธรรมมากมายที่สามารถผลิตเป็นภาพยนตร์ได้ เวียดนามมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

และ สถาปัตยกรรมที่ล้วนแต่มีสีสันสวยงามสำหรับการสร้างภาพยนตร์เช่นเดียวกัน


จอห์นนี ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ในบ้านเกิดหลายเรื่อง


เรื่องล่าสุด คือ "ตะวันดับที่ไซ่ง่อน" หรือ Saigon Thin Thuc โดยผู้กำกับชื่อดังคนหนึ่ง หนังได้ลงโรงในเวียดนามเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ผู้สร้างมีความตั้งใจว่าจะทำให้มันโกอินเตอร์อีกด้วย


ความหลังผ่านไปแล้วตั้ง 30 ปี ในวันนี้พระเอกล่ำบึก


ได้พาภรรยาชาวเวียดนาม กับทายาทตัวน้อยกลับไปตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิด ยังคงทำงานในวงการบันเทิง ยังเล่นเป็นสะตั๊นให้กับฮอลลีวูดเป็นจ๊อบๆ ไป ขณะกำลังเตรียมสคริ๊ปภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา และอีกหลายต่อหลายอย่าง

หวังว่าเขาคงจะกลับมาเยี่ยมประเทศไทยที่เขารักบ่อยๆ..



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์