รายงานระบุว่า วีดีโอดังกล่าวเผยภาพราชาเพลงป๊อป กำลังเต้นอยู่บนเวที ก่อนจะเกิดเหตุพลุประกอบเพลงระเบิด และไหม้บนศีรษะของเขา โดยตอนแรกไมเคิลยังไม่รู้ตัว เขายังคงเต้นต่อไปเป็นเวลา 5 วินาที ก่อนที่ทีมงานจะรุดมาช่วยกันดับไฟบนหัวของเขา และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไมเคิล ต้องผ่าตัดหนังศีรษะ และต้องหันไปใช้ยาระงับอาการปวดซึ่งกลายเป็นจุดพลิกผันที่เขาต้องพึ่งมันตลอดเวลา โดยแหล่งข่าวระบุว่า อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้ชีวิตของเขาไม่เหมือนเดิม โดยบุคลิกภาพของไมเคิลได้เปลี่ยนไป หลังจากใช้ยาซึ่งเข้ามาครอบงำชีวิตของเขา ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์เอบีซียังได้เผยแพร่ภาพแผลขนาดใหญ่บริเวณขาของไมเคิล แจ๊คสัน จากการใช้ยา และรอยเข็มจำนวนมากบริเวณดังกล่าว เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา
โดยแพทย์ระบุว่า ไมเคิล ต้องหันมาฉีดยาบริเวณขา เพราะเขาไม่สามารถเข้าเส้นเลือดได้อีก และทำให้เกิดแผลดังกล่าวซึ่งเกิดจากการถูกสารกัดกร่อนผิวหนัง ขณะเดียวกัน เว็บไซต์"TMZ"ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยข่าวการเสียชีวิตของไมเคิล แจ๊กสัน เปิดเผยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายว่า ตำรวจสรุปว่า ไมเคิล
เสียชีวิตเพราะยาสลบ"โปรโปตอล"ที่มีฤทธิ์รุนแรง ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น โดยไมเคิลใช้ยาดังกล่าวเพื่อระงับอาการโรคนอนไม่หลับของเขา ซึ่งยาประเภทนี้ถูกพบว่าถูกใช้บ่อยจากเจ้าหน้าที่แพทย์บางคนของไมเคิล โดยจากการสอบสวนของตำรวจยังได้พบคราบหยดยาและถังอ๊อกซิเจน หลังการสอบปากคำหนึ่งในคณะแพทย์ของไมเคิล ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญชี้ว่า ยาดังกล่าวถูกใช้โดยแพทย์รายหนึ่งของไมเคิล ซึ่งก่อนหน้านี้ แพทย์รายหนึ่งให้การว่า เขารู้ว่า
ไมเคิลใช้ยาดังกล่าว และเขาได้ตำหนิไมเคิลว่าเขากำลังบ้าไปแล้ว ที่ใช้ยาสลบในโรงพยาบาล รักษาอาการนอนไม่หลับของตัวเอง ทั้งนี้ รายงานระบุว่า จากการสอบสวนของตำรวจ อาจทำให้อัยการสรุปว่า แพทย์ของไมเคิลซึ่งรู้ถึงความรุนแรงของยาสลบดังกล่าว อาจต้องเผชิญข้อหาฆ่าคนตาย หรือฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา นอกจากนี้ ตำรวจยังได้สอบสวนการออกใบสั่งยาต่าง ๆ หลังจากคณะแพทย์ของเขาหลายคนบอกว่า มีการแอบอ้างชื่อของพวกเขาเพื่อสั่งซื้อยาเหล่านี้
https://www.facebook.com/teeneedotcom