โรคของแจ๊กสัน

แม้ว่า ไมเคิล แจ๊กสัน จะเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-แอฟริกัน และเป็นคนผิวสีแต่เกิด แต่เมื่อถึงช่วงต้นทศวรรษ 1980 ผิวของไมเคิลกลับขาวขึ้น ก่อนที่จะพบว่า ไมเคิลเป็นโรคด่างขาว ที่เม็ดสีจะถูกทำลายไป ทำให้ผิวสีไม่สม่ำเสมอ

ช่วงเวลานี้เองที่ไมเคิลเริ่มการผ่าตัดทำศัลยกรรมพลาสติค จะเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงของรูปจมูกและคางของไมเคิล เชื่อกันว่า ไมเคิลยังได้ทำการผ่าตัดศัลยกรรมอีกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นยกกระชับหน้าผาก ทำริมฝีปากให้บางลง และผ่าตัดโหนกแก้ม

ขณะที่ใบหน้าของไมเคิลเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ร่างกายของไมเคิลก็ดูจะผ่ายผอมลงจากการลดน้ำหนัก และเพื่อต้องการให้ร่างกายมีหุ่นที่ดีเหมาะกับการเต้น หลายคนบอกว่า บางครั้งไมเคิลถึงกับเกิดอาการหน้ามือ และเชื่อว่า ไมเคิลอาจจะเป็นโรค "อะนอเร็กเซีย เนอโวซา" หรือโรคคลั่งความผอม และคิดว่าตัวเองอ้วนอยู่ตลอดเวลา

แพทย์บางคนเชื่อว่า ไมเคิลเป็นโรค "บอดี้ ดิสมอร์ฟิก ดิสออร์เดอร์" หรือโรคไม่พึงพอใจในรูปร่างตัวเอง ซึ่งผู้ป่วยรู้สึกถึงรูปร่างตัวเองไม่ตรงตามความเป็นจริง

เดอะซัน หนังสือพิมพ์หัวสีของอังกฤษ เคยรายงานไว้ว่า ไมเคิลป่วยเป็นโรคผิวหนังติดเชื้อ

ในปี 1999 มีข่าวลือสะพัดว่า ไมเคิลได้ทำการผ่าตัดเอาขนเพชรมาไว้ที่ขากรรไกรเพื่อทำเป็นเคราแพะ !!

ข่าวลือครั้งนั้น ทำให้ไมเคิลถึงกับหัวเสีย ให้สัมภาษณ์ว่า

"ทำไมไม่บอกเขาไปหละ ว่าผมเป็นมนุษย์ต่างดาว มาจากดาวอังคาร บอกเขาสิว่าผมกินไก่เป็นๆ และเต้นวูดูกลางดึก พวกเขาเชื่อคุณหมดแหละ เพราะคุณเป็นนักข่าว"

ไมเคิลยังมีข่าวเรื่องการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกหลายครั้ง ล่าสุด มีรายงานว่าแพทย์เยอรมันต้องผ่าตัดเอากระดูกอ่อนจากหูของไมเคิลไปไว้ในจมูกของไมเคิล หลังจากที่ใบหน้าที่ผ่านการศัลยกรรมมาของไมเคิลเริ่มเสื่อมลงตามกาลเวลา

ในระยะหลังๆ ไมเคิลเริ่มดูอ่อนแอและผอมแห้งลง ขณะที่ไมเคิลยังคงเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อซ้อมคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในการกลับมาอีกครั้งของคอนเสิร์ตของ "ไมเคิล แจ๊กสัน"

แต่ยังไม่ทันที่จะได้แสดง ราชาเพลงป๊อปผู้นี้ก็ลาจากโลกไปเสียก่อน