Oppenheimer กวาด 5 ลูกโลกทองคำ
‘Oppenheimer' กวาด 5 ลูกโลกทองคำ หนังยอดเยี่ยม-ผู้กำกับ-นักแสดงนำชาย-สมทบ ‘Barbie' ซิวรางวัลใหม่ สำเร็จด้านรายได้
Oppenheimer (ออพเพนไฮเมอร์) ภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ที่เป็นเรื่องราวการสร้างระเบิดปรมาณูเพื่อเอาชนะนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 จากฝีมือการกำกับของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับมือทอง ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการกวาดรางวัลบนเวทีลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 81 จัดที่เบเวอร์ลีฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อค่ำวันที่ 7 มกราคม คว้าไปได้ถึง 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดรามา, ผู้กำกับยอดเยี่ยมจากคริสโตเฟอร์ โนแลน, คิลเลียน เมอร์ฟี นักแสดงชาวไอริช คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม และ ลุดวิก โกรันส์สัน คว้ารางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก ออพเพนไฮเมอร์ เป็นการเปิดฉากฤดูกาลมอบรางวัลของวงการฮอลลีวูด
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้รับบท ลูอิส สเตราส์ นักการเมืองทรงอิทธิพล ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามของ เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ ที่รับบทโดย คิลเลียน เมอร์ฟี กล่าวชื่นชมผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ขณะขึ้นรับรางวัลว่า เป็นผลงานชิ้นเอก และว่า หนังที่เป็น "เรื่องราวที่ครอบคลุมเกี่ยวกับประเด็นที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางจริยธรรมด้านอาวุธนิวเคลียร์ ทำเงินได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์น่ะเหรอ? ไม่หรอก เว้นแต่และเป็นเพราะยูนิเวอร์ซัลทุ่มสุดตัวให้คริสโตเฟอร์ โนแลน มากำกับ"
ด้านคิลเลียน เมอร์ฟี ผู้รับบทนำ ออพเพนไฮเมอร์ กล่าวยกย่องในความเข้มงวด ความมุ่งมั่นและการอุทิศตนของโนแลน ที่สร้างผลงานหนังที่ยอดเยี่ยมนี้ โดยบอกว่า
"ผมรู้ตั้งแต่แรกที่เดินเข้าฉากของคริสโตเฟอร์ โนแลนว่ามันแตกต่างออกไป ผมบอกได้เลยว่าระดับความเข้มงวด ความมุ่งมั่น ทุ่มเทและการไม่มีเก้าอี้ให้นักแสดงนั่ง นั่นทำให้ผมรู้ว่าอยู่ในมือของผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์"
ส่วน Barbie (บาร์บี้) ภาพยนตร์แนวสุขนาฏกรรมในฉบับ Live-action ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตุ๊กตาบาร์บี้ ผลงานการกำกับของ เกรตา เกอร์วิก ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังทำเงินได้อย่างงดงามในปีที่แล้วและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในปีนี้ถึง 9 รางวัล นั้น แต่คว้าได้เพียง 2 รางวัล คือ รางวัลภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้มากที่สุด (Best cinematic and box office achievement) ซึ่งเป็นรางวัลใหม่ของเวทีลูกโลกทองคำ และ รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเพลง "What Was I Made For?" ของ บิลลี ไอลิช นักร้องสาวคนดังชาวอเมริกัน ที่ร่วมเขียนเพลงและทำดนตรีกับ ฟินเนียส โอคอนเนลล์ นักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน
ขณะที่ ลิลี แกลดสโตน คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Killers of the Flower Moon หนังฆาตกรรมลึกลับยุค 1920 ที่นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, โรเบิร์ต เดอ นีโร และ ลิลี แกลดสโตน
หนังเรื่อง Poor things จากฝีมือการกำกับของ ยอร์กอส แลนธิมอส ผู้กำกับชาวกรีก ซึ่งเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากเรื่องราวสุดคลาสสิกของตัวละครแฟรงเกนสไตน์ ที่ถูกนำมาตีความใหม่ คว้าไป 2 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง และ เอ็มมา สโตน นักแสดงนำในหนังเรื่องนี้ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง
Anatomy of a Fall ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญสืบสวนสอบสวน จากฝีมือการกำกับของ จัสติน ทริเยต์ และ อาร์เธอร์ ฮารารี นำแสดงโดย ซานดรา ฮีลเลอร์ และ สวานน์ อาร์โลต์ คว้า 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ส่วน The Holdovers หนังแนวดรามาของผู้กำกับ อเล็กซานเดอร์ เพย์น คว้า 2 รางวัล จาก พอล จิอามัตติ ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ประเภทตลกหรือเพลง และ ดาวีน จอย แรนดอล์ฟ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
สำหรับรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ตกเป็นของ "The Boy and the Heron"
ในส่วนของผลรางวัลด้านโทรทัศน์ของเวทีลูกโลกทองคำในปีนี้ Succession ถือเป็นละครชุดทางโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด โดยคว้ารางวัลซีรีส์แนวดรามายอดเยี่ยมไปครอง ที่ ซาราห์ สนูค ยังคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครองจากซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ส่วนรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมทางโทรทัศน์ประเภทตลกหรือเพลงนั้น เจเรมี อัลเลน ไวท์ เป็นผู้คว้าไปจากการรับบทนำในซีรีส์เรื่อง "The Bear" ที่เอโย เอดิบีรี คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงประเภทตลกหรือเพลง และซีรีส์เรื่องนี้ยังได้รางวัลซีรีส์ยอดเยี่ยมแนวตลกหรือเพลงไปครองด้วย
https://www.facebook.com/teeneedotcom