The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ



 The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ



  The Crown ซีซัน 5 กำหนดลง Netflix วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งคือวันนี้ หลังเว้นช่วงจากซีซั่น 4 มานานเกือบ 3 ปีด้วยข้อจำกัดเรื่องการถ่ายทำอันเนื่องมาจากสถานการณ์โรคระบาด ก่อนที่จะถึงกำหนดฉายในเดือนพฤศจิกายน มีเหตุการณ์สำคัญๆ ในราชวงศ์อังกฤษซึ่งช่วยเพิ่มกระแส "ฟีเวอร์" ของ The Crown ให้ปังเกินต้านหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นงานฉลองครองราชสมบัติครบ 70 ปีของควีนอลิซเบธที่ 2 ซึ่งสวรรคตหลังจากนั้นต่อมาเพียงไม่กี่เดือน นำมาสู่การขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และการขึ้นเป็นพระราชินีของคามิลล่า

ทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัวราวจัดวางเพราะกษัตริย์อังกฤษที่เพิ่งขึ้นครองราชย์พร้อมพระราชินีเป็นจุดโฟกัสของ The Crown ซีซั่น 5 ซึ่งเน้นนำเสนอชีวิตคู่ที่มีปัญหาความขัดแย้งรุนแรงระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์ (รับบทโดย Dominic West) และเจ้าหญิงไดอาน่า (รับบทโดย Elizabeth Debicki) โดยมีคามิลลา พาร์คเกอร์ โบลส์ (รับบทโดย Olivia Williams) เป็นตัวแปรสำคัญ

ในเมื่อทุกอย่างเหมือนมาตามนัด The Crown ซีซั่นใหม่จึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ หลังจากที่ควีนอลิซเบธที่ 2 จากไปในวันที่ 8 กันยายน Netflix เผยว่า ยอดผู้เข้าชม The Crown ระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน (วันหยุดสุดสัปดาห์) พุ่งสูงขึ้นถึง 800% เฉพาะในอังกฤษ และหลังจากการไว้อาลัยควีนอลิซเบธที่ 2 เสร็จสิ้นลง Netflix ก็ประกาศวันปล่อย The Crown ซีซั่นล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีคนรอชมมากกว่าปกติจากการนำพาของทุกสถานการณ์ที่ว่ามา

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเฉพาะทีมเชียร์เท่านั้น ทีมตำหนิก็มาด้วย กระแสความไม่พอใจที่มีต่อ The Crown ปรากฏตั้งแต่ซีซั่น 2 ในประเด็นที่ซีรีส์ปูเรื่องให้เข้าใจว่า เจ้าชายฟิลิป พระสวามีควีนอลิซเบธที่ 2 มีไลฟ์สไตล์ซุกซนตามประสาชายหนุ่ม แต่ด้วยวิธีการเล่าที่ทิ้งความคลุมเครือ ไม่ฟันธง ก็ดูเหมือนว่าคนดูจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เสียงก่นด่าปะทุขึ้นชัดเจนในซีซั่น 4 ซึ่งนำเสนอปมรักสามเส้าของเจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าหญิงไดอาน่า และคามิลล่า แม้ซีรีส์จะพยายามสร้างมิติให้ตัวละครโดยฉายภาพความเป็นมนุษย์ที่ซับซ้อนและให้ความสำคัญแก่ความหนักแน่นของเหตุผล รวมถึงที่มาที่ไปของการกระทำในตัวละครแต่ละตัวโดยเฉพาะชาร์ลส์และไดอาน่า ทว่าผู้ชมก็เทความน่าสงสาร น่าเห็นใจ ความรักไปที่ตัวละครเจ้าหญิงไดอาน่าแบบหมดหน้าตัก ทิ้งควีนให้เป็นหญิงวัยกลางคนที่ดูเหมือนว่าไม่มีความละเอียดอ่อนและไม่พยายามที่จะเข้าใจหัวอกใครทั้งสิ้น ส่วนตัวละครเจ้าชายชาร์ลส์ก็เป็นศิลปินที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์วูบไหวอมทุกข์เพราะต้องตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการ แม้ว่าบทจะเกลี่ยความน่าสงสารให้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนดูไม่ค่อยซื้อนัก

ถึงจะมีกระแสไม่พอใจว่า ซีรีส์ไม่เป็นธรรมกับบุคคลจริงในราชวงศ์ แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ามีคนออกมาบ่นๆ แล้วก็เงียบหายไปภายในชั่วข้ามคืน ตรงข้ามกับดราม่ารอบนี้ นอกจากคนดังหลายคนจะออกมาวิจารณ์ว่า The Crown สร้างความเสื่อมเสียแก่ราชวงศ์ด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ยังมีการเรียกร้องกดดันให้ The Crown ขึ้นข้อความเตือน (disclaimer) ซึ่งท้ายที่สุดก็ได้ผล โดย Netflix ยอมขึ้นข้อความว่า "Inspired by real events, this fictional dramatization tells the story of Queen Elizabeth II and the political and personal events that shaped her reign." (การแสดงสมมตินี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพระราชินีอลิซเบธที่ 2 รวมถึงเหตุการณ์ทางการเมืองและเหตุการณ์ส่วนบุคคลที่ก่อร่างรัชสมัยของพระองค์ขึ้นมา)

 The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ


น่าสังเกตว่า คนที่ออกมาเป็นเดือดเป็นร้อนกับประเด็นนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนอาวุโส ไม่ว่าจะคุณยาย Judi Dench หรือ John Major อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ หรือแม้แต่ฝั่งรัฐบาลเอง ซึ่งหากคนเหล่านี้จะเชื่อว่าผู้ชมรุ่นใหม่แยกเรื่องจริงกับการแสดงไม่ออก ก็ไม่ได้น่าแปลกใจนัก แต่ก็เป็นเรื่องน่าสนใจว่า แม้แต่ในประเทศโลกที่ 1 ซึ่งผ่านประวัติศาสตร์ด้านมาแสนยาวนานในหลากหลายมิติทั้งดีร้าย ก็ยังมิวายมีผู้คนรู้สึกเปราะบางกับความบันเทิง 1 เรื่อง รู้สึกกลัวว่าจะมีเรื่องเสื่อมเสีย...

ความกลัวนี้อาจถือเป็น generation gap ก็ได้เพราะคนรุ่นใหม่คงไม่มีใครเข้าใจว่าความบันเทิงในรูปแบบซีรีส์อย่าง The Crown เป็น "เรื่องจริง" (non-fiction) หรือเป็น "ภาพยนตร์สารคดี" (documentary) การตระหนักว่าเรื่องที่ "based on true story" ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการปรุงแต่ง การดัดแปลง การถักทอ การเรียงลำดับใหม่ การเลือกเล่า เลือกละออก การตีความใหม่ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ไม่ได้เป็นความเข้าใจพื้นฐานสำหรับคนทั่วโลกที่โตมากับโทรทัศน์ ภาพยนตร์ สื่อบันเทิง นวนิยายหรอกหรือ? ความเข้าใจในเรื่องนี้น่าจะเป็น "ข้อตกลงเบื้องต้น" ที่รับรู้กันดีอยู่แล้วระหว่างผู้สร้างและผู้เสพโดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

การไม่แปะป้ายเตือนคนดูว่าเรื่องที่กำลังจะปรากฏต่อหน้าเป็นพื้นที่แห่งการ "ประกอบสร้าง" หรือ "สมมติ" อาจเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สะกดผู้ชมให้ตรึงอยู่กับความกำกวม การเหลื่อมซ้อนกันระหว่างโลกจริงและโลกสมมติ ความกระหายใคร่รู้ว่าตกลงแล้วเรื่องนี้จริงหรือไม่จริงแม้จะตระหนักว่าองค์ประกอบต่างๆ ในเรื่องแต่งแต้มมาแล้วก็ตามที แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ ชาร์ลส์และคามิลล่าถูกนำเสนอเป็นตัวละครไม่พึงประสงค์ การที่ความนิยมของราชวงศ์จะลดลง หรือกษัตริย์และพระราชินีตัวจริงจะเป็นถูกชิงชังล้วนเป็นเรื่องที่ "unlikely" คือไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

คงต้องคอยดูว่า ตัวแปรสำคัญในซีซั่นใหม่คือชาร์ลส์กับคามิลล่าจะได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นภาพอย่างไร หากตัวละครทั้งสองนี้ถูกทำให้เป็นตัวร้ายแบนๆ ปราศจากมิติ มีแต่ทำให้ไดอาน่าบอบช้ำ Netflix คงไม่วายโดนพสกนิกรทีมคิงชาร์ลส์และควีนคามิลล่าถล่มยับ

 The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ




 The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ




 The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ




 The Crown ซีซั่น 5 ถูกกดดันให้ขึ้นคำเตือน...เป็นเรื่องสมมติ


เครดิตแหล่งข้อมูล : harpersbazaar




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์