สื่อจีนวิเคราะห์ ไอดอลเกาหลีสัญชาติจีน นับวันยิ่งยากจะกลับไปปังต่อในจีน!
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดารานานาชาติ สื่อจีนวิเคราะห์ ไอดอลเกาหลีสัญชาติจีน นับวันยิ่งยากจะกลับไปปังต่อในจีน!
หากพูดถึงคนดังจีนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการ จุดเริ่มต้นเส้นทางในวงการของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป บางคนเข้าวงการจากการเป็นนักแสดง บางคนเข้ามาจากการเป็นนักร้อง นายแบบ นางแบบ และอีกส่วนหนึ่งที่หลายปีมานี้ถูกส่งต่อเข้าวงการบันเทิงจีนอย่างต่อเนื่องก็คือ ไอดอลจีน และ ไอดอลเกาหลีสัญชาติจีน ที่นับวันก็เริ่มถูกผลิตเข้าสู่วงการมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนที่ต่างออกไปตรงที่พวกเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะไอดอลเกาหลีใต้ แล้วค่อยเป็นที่นิยมจนได้กลับมารับงานในประเทศบ้านเกิดของตัวเองอย่างจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง
ไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนส่วนใหญ่ที่กลับไปทำงานต่อในจีนที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น หานเกิง (Han Geng) อดีตสมาชิกบอยแบนด์เกาหลี Super Junior, เลย์ exo (Lay Zhang หรือจางอี้ซิง Zhang Yixing), คริส วู (Kris Wu หรือชื่อจริง อู๋อี้ฝาน Wu Yifan), ลู่หาน (Lu Han), หวงจื่อเทา (Huang Zitao) 3 อดีตสมาชิกบอยแบนด์เกาหลี EXO, แจ็คสันgot7 (Jackson Wang หรือชื่อจริง หวังเจียเอ๋อร์ Wang Jiaer), สวีหมิงฮ่าว (Xu Minghao) หรือ The8 สมาชิกวง SEVENTEEN และอื่นๆ อีกเพียบ
หลังจากมีไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนเข้าไปโกยเงินมหาศาลก็มีสื่อจีนยักษ์ใหญ่อย่าง xw.qq.com วิเคราะห์ถึงทิศทางอนาคตของเหล่าไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนที่กลับมาทำงานในจีนว่า อนาคตเส้นทางนี้อาจไม่ง่ายเหมือนอย่างรุ่นก่อนๆ จะด้วยปัจจัยอะไรบ้างตามสุดฯ มาไล่เรียงไปพร้อมๆ กันเลยจ้า
หากพูดถึงรุ่นแรกคนที่หลายคนนึกถึงกันก็คือ หานเกิง อดีตสมาชิกบอยแบนด์เกาหลี Super Junior ซึ่งถือเป็นรุ่นบุกเบิกของทั้งในจีนและเกาหลี เนื่องจากวง Super Junior ถือเป็นวงเกาหลีวงแรกๆ ที่จุดกระแสเคป็อป หลังจากหานเกิงฉีกสัญญากับค่ายต้นสังกัด SM Entertainment ไปเมื่อปี 2008 ก็ตัดสินใจกลับไปผลิตผลงานต่อในจีน ซึ่งช่วงที่หานเกิงกลับไปจีนเป็นช่วงที่กระแสเคป็อปกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ตลาดไอดอลจีนยังขาดแคลน บวกกับความสามารถรอบด้านของหานเกิงที่ครบเครื่องทั้งความสามารถด้านการแสดง ร้องเพลง และเต้น จึงได้รับความนิยมมาโดยตลอดตั้งแต่กลับไปจีน
อีกหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ซ่งเชี่ยน หรือ วิคตอเรีย f(x) ที่เริ่มเข้าสู่วงการแสดงในจีนเมื่อปี 2012 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนจำนวนน้อยมาก-ก-กที่ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านการแสดงมาเยอะนัก แต่แทบทุกเรื่องที่วิคตอเรียได้รับก็เป็นบทนางเอกซีรี่ย์จีนแทบทั้งสิ้น ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาวิคตอเรีย f(x) ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนางเอกแถวหน้าของจีนได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นวิคตอเรีย f(x) ยังขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในตัวแม่ด้านแฟชั่นของวงการบันเทิงจีนแล้วด้วย
รุ่นสอง : รุ่นที่สื่อจีนให้คำนิยามว่า "รุ่นแห่งความโชคดี"
รุ่นที่สองที่ตามรุ่นพี่มาติดคือ คริส วู, ลู่หาน, หวงจื่อเทา, เลย์ exo ที่ชาวจีนเรียกกันว่าเป็น 4 จตุรเทพไอดอลที่กลับมาเปล่งประกายสร้างผลงานในจีนได้มากมาย ซึ่งในช่วงที่ทั้ง 4 หนุ่มกลับมาทำงานในบ้านเกิดเป็นช่วงที่จีนยังถือว่าขาดแคลนไอดอลเหมือนกัน และกระแสเคป็อปก็บูมมากขึ้น บวกกับ ณ ตอนนั้นเป็นช่วงที่รายการวาไรตี้ เรียลลิตี้จีนกำลังเป็นที่นิยมในจีน จึงเป็นการเปิดช่องทางในการทำงานให้ผู้ชมได้รู้จักเหล่าศิลปินกันมากขึ้น โดยคริส วู, ลู่หาน, หวงจื่อเทา, เลย์ exo กลับเข้ามารับทั้งผลงานการแสดง งานเพลง รายการต่างๆ ที่เป็นที่นิยมและทำให้แฟนๆ ได้เห็นศักยภาพ ความสามารถของพวกเขามากขึ้น ซึ่งถือเป็นไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนที่เติบโตในวงการบันเทิงจีนอย่างรอบด้าน ดังนี้
รุ่นที่สองที่ตามรุ่นพี่มาติดคือ คริส วู, ลู่หาน, หวงจื่อเทา, เลย์ exo ที่ชาวจีนเรียกกันว่าเป็น 4 จตุรเทพไอดอลที่กลับมาเปล่งประกายสร้างผลงานในจีนได้มากมาย ซึ่งในช่วงที่ทั้ง 4 หนุ่มกลับมาทำงานในบ้านเกิดเป็นช่วงที่จีนยังถือว่าขาดแคลนไอดอลเหมือนกัน และกระแสเคป็อปก็บูมมากขึ้น บวกกับ ณ ตอนนั้นเป็นช่วงที่รายการวาไรตี้ เรียลลิตี้จีนกำลังเป็นที่นิยมในจีน จึงเป็นการเปิดช่องทางในการทำงานให้ผู้ชมได้รู้จักเหล่าศิลปินกันมากขึ้น โดยคริส วู, ลู่หาน, หวงจื่อเทา, เลย์ exo กลับเข้ามารับทั้งผลงานการแสดง งานเพลง รายการต่างๆ ที่เป็นที่นิยมและทำให้แฟนๆ ได้เห็นศักยภาพ ความสามารถของพวกเขามากขึ้น ซึ่งถือเป็นไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนที่เติบโตในวงการบันเทิงจีนอย่างรอบด้าน ดังนี้
คริส วู : หนังจีนและหนังฮอลลีวู้ดทั้งหมด 11 เรื่อง (ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา) และมีรายการจีนที่คริส วูเป็นสมาชิกประจำ เช่น Challenger's Alliance, The Rap of China
ลู่หาน : หนังจีน 7 เรื่อง ซีรี่ย์จีน 2 เรื่อง (ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา) และมีรายการจีนดังๆ เช่น Keep Running (รันนิ่งแมนเวอร์ชั่นจีน), Hot Blood Dance Crew
หวงจื่อเทา : มีหนังจีนทั้งหมด 4 เรื่อง ซีรี่ย์จีนอีก 5 เรื่อง และรายการจีน เช่น Takes a Real Man, Produce 101
เลย์ exo : มีหนังจีน 8 เรื่อง ซีรี่ย์จีนอีก 6 เรื่อง และรายการจีนดังๆ เช่น Idol Producer, Go Fighting!
จากที่กล่าวมา สื่อจีน xw.qq.com อธิบายถึงบทสรุปความโด่งดังของรุ่นที่ 2 ว่า สาเหตุที่บอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นแห่งความโชคดีเป็นเพราะเป็นช่วงเวลาที่จีนมีช่องทางอันหลากหลายให้พวกเขาได้แสดงความสามารถมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นยุคก่อนที่กระแสไอดอลจีนจะบูมในประเทศ ทำให้พวกเขาถูกจับตามองเป็นพิเศษ จนกลายเป็นไอดอลของไอดอลจีนอีกทีหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งจำกัดกิจกรรมของดาราเกาหลีในจีนโดยตรงด้วย
รุ่นสาม : รุ่นที่ประสบกับความยากลำบากมากขึ้น
ในรุ่นที่ 3 ถือเป็นรุ่นที่นับวันยิ่งเจอกับความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลด อีกทั้งหลังจากรุ่นแรกกับรุ่นสองเข้ามาปังในบ้านเกิดได้สำเร็จแล้ว ก็ประจวบเหมาะกับมีคำสั่งจำกัดกิจกรรมของดาราเกาหลีในจีนด้วย ทำให้กิจกรรมหลายๆ อย่างมีการเปลี่ยนแปลง และเป็นไปได้ยากมากขึ้น ตัวอย่างของไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนในรุ่นที่ 3 เช่น เฉิงเซียว, อู๋เซวียนอี้, โจวเจี๋ยฉง, เมิ่งเหม่ยฉี, The8 SEVENTEEN, ลูคัส Way V ฯลฯ ที่หลังจากกลับมารับงานในจีนก็ไม่มีคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง หรือบทบาทในรายการโทรทัศน์ที่ทำให้คนจดจำได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้การจะกลับเข้ามาปังได้นั้นดูจะต้องใช้ความพยายามและเวลามากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงของรุ่นที่ 3 เป็นช่วงที่ตลาดไอดอลจีนมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีการผลิตไอดอลจีน บอยแบนด์จีน และเกิร์ลกรุ๊ปจีนเป็นของตัวเองมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปีถึงสองปีมานี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยวงที่หลายคนน่าจะพอคุ้นเคยกันบ้าง เช่น NINEPERCENT, TFBOYS, NEX7, ONER, Rocket Girls 101 ซึ่งล้วนเป็นวงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน ทำให้พื้นที่ไอดอลในจีนมีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นชนิดที่ว่าดุเดือดเลยทีเดียว แม้ว่าความสามารถด้านการเต้นและภาพรวมต่างๆ อาจยังถูกเปรียบเทียบกับวงไอดอลของเกาหลีใต้ แต่ในทางกลับกันการถูกวิจารณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ทำให้แฟนคลับได้เห็นพัฒนาการของเหล่าไอดอลจีน และเติบโตไปพร้อมๆ กัน ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ยึดแฟนคลับไว้ได้ในระดับหนึ่ง
สื่อจีน xw.qq.com ชี้ว่า ยกตัวอย่างจาก สวีหมิงฮ่าว หรือ The8 สมาชิกบอยแบนด์เกาหลี SEVENTEEN ซึ่งเป็นวงที่โด่งดังเป็นพลุแตกในเกาหลี หลังจากสวีหมิงฮ่าวได้เข้ามาเป็นหนึ่งในโค้ชฝึกสอนของเหล่าผู้เข้าแข่งขันในรายการเซอร์ไวเวิลจีน Idol Producer ซีซั่น 2 (2019) โดยสวีหมิงฮ่าวได้แสดงให้เห็นความสามารถด้านการเต้นอย่างต่อเนื่อง แต่แฟนคลับในเวย์ป๋อของสวีหมิงฮ่าวกลับเพิ่มขึ้นจาก 5 แสนคนมาที่ 2 ล้านกว่าเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักสำหรับดาราจีน ยังมี ลูคัส Way V และ ซ่งอวี่ฉี (G)I-DLE ที่เข้าร่วมเป็น 2 สมาชิกน้องเล็กของรายการ Keep Running (2019) ที่ยังคงเป็นที่เปรียบเทียบในหมู่คนจีนว่า ไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับตอนที่ลู่หานและแองเจล่าเบบี้อยู่
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom