"Black Panther มีชีวิตโลดแล่นอยู่ในหนังสือการ์ตูนของเรามานานนับครึ่งศตวรรษ และมีเรื่องราวอีกตั้งมากมายให้เราเล่าเกี่ยวกับมัน" คือคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าพ่อค่ายซูเปอร์ฮีโร่ เผยให้แฟน ๆ เบาใจกันไปในขั้นแรกแล้วว่า อย่างน้อยมาร์เวลก็ยังมีความสนใจในเรื่องราวด้านอื่น ๆ ในโลกของฝ่าบาทที ชัลล่าอยู่ และยังยืนยันอีกว่า ถ้าหากแผนการสร้าง Black Panther ภาคต่อเกิดขึ้นจริง แน่นอนว่าผู้กุมบังเหียนนำก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) ผู้กำกับจากภาคแรกนั่นเอง
ทั้งนี้ เป็นที่แน่นอนแล้วว่าโปรเจคท์การสร้างภาคต่อ Black Panther จะไม่เกิดขึ้นในปีสองปีนี้แน่นอน เนื่องจากมาร์เวลยังมีรายชื่อหนังที่รอจ่อคิวเปิดกล้องและตัดต่อให้เสร็จสมบูรณ์ทันวันกำหนดอีกยาวเป็นหางว่าว อาทิ Avengers: Infinity War กำหนดฉาย 26 เมษายน 2018, Ant-Man and the Wasp กำหนดฉาย 5 กรกฎาคม 2018, Captain Marvel กำหนดฉาย 8 มีนาคม 2019, ภาคต่อ Avengers 4 กำหนดฉาย 3 พฤษภาคม 2019, ภาคต่อ Spider-Man: Homecoming กำหนดฉาย 5 กรกฎาคม 2019 และ Guardians of the Galaxy Vol.3 กำหนดฉายในปี 2020
ก็ต้องไปรอลุ้นและรอฟังคำยืนยันชัด ๆ อีกทีจากปากของค่ายมาร์เวลกันอีกทีในอนาคตว่าหนังเด่นแห่งปี 2018 อย่าง Black Panther จะได้สร้างภาคต่อสานความคูลของฝ่าบาท และถ่ายทอดเสน่ห์มุมใหม่ ๆ ของประเทศวากานดาหรือไม่ ในตอนนี้ เหล่าสาวกสนมฝ่าบาททั้งหลาย คงได้แต่รอพบกับที ชัลล่าในฐานะสมาชิกคนใหม่แห่งทีมอเวนเจอร์และสหายคนสนิทของกัปตันอเมริกากันได้ใน Avengers: Infinity War ย้ำกำหนดวันฉายกันอีกทีในวันที่ 26 เมษายน 2018
https://www.facebook.com/teeneedotcom