ความพ่ายแพ้ปีนี้ ทำให้บียอนเซ่ต้องอกหักจากรางวัลสาขาหลักของแกรมมี่เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางโลกออนไลน์ โดยบางคนบอกว่า จะไม่ดูงานแกรมมี่อีกต่อไป บางคนประกาศว่า บียอนเซ่แพ้รางวัลอัลบั้มแห่งปี แต่ชนะในสาขาอัลบั้มแห่งศตวรรษ รวมถึงเชื่อมโยงการหักแกรมมี่ของอาเดล เหมือนครั้งที่คานเย่ เวสต์ ขึ้นไปทวงความยุติธรรมให้กับบียอนเซ่ ในงาน MTV Video Music Awards เมื่อปี 2009 ที่เขาขึ้นไปแย่งไมค์จากเทเลอร์ สวีฟท์ ระหว่างรับรางวัลที่เธอชนะบียอนเซ่มาได้
อาเดล เปิดใจหลังเวทีว่า บียอนเซ่คือศิลปินในดวงใจของเธอมาตั้งแต่อายุ 11 ปี จนวันนี้บียอนเซ่ก็ยังคงรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งศิลปินที่ทำได้แบบนี้ล้วนเป็นตำนานที่เสียชีวิตไปหมดแล้ว เธอจึงคิดว่าถึงเวลาที่บียอนเซ่ ควรจะคว้ารางวัลใหญ่ที่ไม่ว่ากรรมการของแกรมมี่จะหัวอนุรักษ์นิยมแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม เธอจะยินดีกับชัยชนะ แต่ยังคิดว่าบียอนเซ่เหมาะสมกับรางวัลมากกว่า
ความพ่ายแพ้ของบียอนเซ่ยังตอกย้ำเสียงวิจารณ์ต่อเวทีแกรมมี่ อวอร์ดส์ ที่ให้พื้นที่ศิลปินผิวสีแค่เวลาเสนอชื่อเข้าชิงกับรางวัลในสาขาเฉพาะแนวเพลง แต่แทบไม่ให้โอกาสในรางวัลใหญ่ ทำให้ศิลปินผิวสีหลายคนประท้วงด้วยการไม่ร่วมงานแกรมมี่ปีนี้ ทั้ง คานเย่ เวสต์ และเดรก ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงคนละ 8 สาขา
ความผิดพลาดทางเทคนิกยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแกรมมี่อีกครั้ง เมื่ออาเดล ตัดสินใจยุติการแสดงอุทิศให้กับจอร์จ ไมเคิล กลางคัน เนื่องจากปัญหาระบบเสียงที่เคยทำลายการแสดงของเธอในงานแกรมมี่เมื่อปีก่อน เธอจึงขอร้องใหม่อีกครั้ง เพื่อเห็นแก่ยอดศิลปินผู้ล่วงลับ ส่วนเลดี้ กาก้า ก็ต้องแบ่งไมค์กับเจมส์ เฮดฟิลด์ นักร้องนำวง Metallica เนื่องจากไมโครโฟนระหว่างที่สองศิลปินต่างแนวขึ้นแสดงร่วมกัน เกิดไม่มีเสียงขึ้นมา
การแสดงซึ่งเป็นไฮไลท์ปีนี้ คือการอุทิศให้กับซูเปอร์สตาร์ผู้ล่วงลับตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งการแสดงไว้อาลัยแก่พรินซ์ โดยบรูโน มาร์ส ในเพลง Let's Go Crazy และการร้องประสานเสียงของวง Pentatonix ระหว่างการรำลึกถึงอัล จาร์โร นักร้องแจ๊สระดับตำนานที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลสำคัญบนเวทีแกรมมี่ อวอร์ดส์ เช่น แชนซ์ เดอะ แร็ปเปอร์ ศิลปินคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่จากการเผยแพร่ผลงานผ่านทางสตรีมมิ่งเท่านั้น การคว้า 4 รางวัลของเดวิด โบวี ที่ส่ง Blackstar อัลบั้มทิ้งทวนที่วางจำหน่ายก่อนเสียชีวิตเพียง 2 วัน กวาดทุกสาขาที่เข้าชิง และชัยชนะของ Megadeth สุดยอดวงแทรช เมทัล ที่คว้าแกรมมี่ตัวแรกได้สำเร็จในสาขา Best Metal Performance หลังจากเข้าชิงมาแล้วถึง 11 ครั้ง
การกวาด 3 รางวัลใหญ่บนเวทีแกรมมี่ อวอร์ดส์ เป็นครั้งที่ 2 ยังทำให้อาเดล กลายเป็นศิลปินคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าทั้งรางวัลเพลงแห่งปี บันทึกเสียงแห่งปี และอัลบั้มแห่งปีได้มากกว่า 1 ครั้ง
https://www.facebook.com/teeneedotcom