“สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน”ส่งผ่านเสน่ห์แห่งหญิงสาวสู่“คา” งูเหลือมยักษ์
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดารานานาชาติ “สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน”ส่งผ่านเสน่ห์แห่งหญิงสาวสู่“คา” งูเหลือมยักษ์
“สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน”
ส่งผ่านเสน่ห์แห่งหญิงสาวสู่
“คา” งูเหลือมยักษ์
ผู้มีเสียงเย้ายวนและสายตาสะกดทุกสรรพสิ่ง
“เดอะ จังเกิ้ล บุ๊ค–เมาคลีลูกหมาป่า”
คา หมายตาเมาคลีไว้แล้ว ในตอนที่เธอเจอเขาอยู่ตามลำพังในป่า งูหลามตัวใหญ่นี้ได้ใช้น้ำเสียงที่เย้ายวนและสายตาสะกดจิตของเธอในการครอบงำลูกมนุษย์ และ เมาคลี ก็พบว่าตัวเองไม่อาจต้านทานอ้อมกอดต้องมนต์ของเธอได้ แม้ว่าฟาฟโรว์อยากจะรักษาจิตวิญญาณของตัวละครตัวนี้เอาไว้ แต่เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเพศของมัน ฟาฟโรว์ ผู้กำกับ “เมาคลีกำลังสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในป่า ที่ที่ปกคลุมไปด้วยหมอก มืดหม่นกว่าและลึกลับกว่าพื้นที่ใดๆ ในป่า นั่นเป็นที่ที่คาอาศัยอยู่ นั่นเป็นที่ที่เธอได้ครอบงำเขา จนกระทั่งบาลูช่วยเขาและพาเขากลับมาถ้ำของเขาน่ะครับ ผมจำดวงตาสะกดจิตของคาที่มีวงล้อหมุนติ้วได้ครับ ในเวอร์ชั่นปี 1967 ทุกตัวเป็นเพศชาย ผมก็เลยคิดว่าสำหรับคาแล้ว มันมีโอกาสที่จะเสริมแต่งอะไรเข้าไปเพิ่มขึ้นอีกครับ ผมจำได้ว่าได้ดูหนังเรื่อง ‘Her’ และผลกระทบที่สการ์เลตต์สร้างขึ้นมาได้โดยใช้เพียงแค่เสียงของเธอ เธอมีเสียงที่มีเสน่ห์เหลือเกินครับ” ผู้กำกับเผยว่าความทรงจำที่ชัดเจนที่สุดที่เขามีต่อ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นปี 1967 คืองูตัวนี้ “จอน ฟาฟโรว์” เลือกนักแสดงหญิง ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำ “สการ์เลตต์ โจแฮนสัน” มาเนรมิตชีวิตให้งูผู้เย้ายวนใจ
โจแฮนสัน “ตั้งแต่ฉันยังเด็ก ฉันก็ชอบงานพากย์เสียงค่ะ นักแสดงทุกคนมีเครื่องมือที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือเสียงของเรา ในตอนที่คุณถูกพรากจากอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณก็จะรับรู้ถึงสิ่งอื่นๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น มันเป็นกระบวนการที่น่าสนใจค่ะและบางครั้ง คุณก็จะเจอกับเรื่องบังเอิญและองค์ประกอบที่น่ายินดี ที่จะช่วยเสริมแต่งการแสดงของคุณ มันเป็นวิธีที่น่าสนใจในการทำงานและล้วงลึกลงไปค่ะ สำหรับฉันโอกาสในการพากย์เสียง คา ตามความคิดของจอน [ฟาฟโรว์] เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากๆ งูจากหนังแอนิเมชั่นเป็นผู้ชาย เขาเป็นเวอร์ชั่นที่เป็นมิตรและตลกกว่า แต่ในหนังเรื่องนี้ คาล่อลวงและหลอกล่อเมาคลีด้วยการเล่าเรื่องของเธอ ด้วยน้ำเสียงของเธอ เธอเป็นกระจกที่สะท้อนอดีตของเมาคลี มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้นำเสนอตัวละครตัวนี้แบบใหม่ในเรื่องราวนี้ค่ะ ฉันได้เห็นคานิดๆ ในช่วงถ่ายทำแรกๆ ค่ะ มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันที่จะได้เห็นว่าเธอมีรูปร่างอย่างไรเมื่อเทียบกับเมาคลี เพื่อช่วยในการกำหนดความหนักเบาของเสียงของฉัน ฉันมีเครื่องมือชิ้นเดียว คือเสียงของฉัน มันก็เลยจะเป็นเรื่องยากมากๆ ถ้าไม่ได้มีภาพเบื้องต้นเป็นข้อมูลอ้างอิงไว้บ้างน่ะค่ะ คาสวยมาก ลักษณะการเคลื่อนไหวของเธอมีเสน่ห์มากๆ และเย้ายวนใจ ผู้ชมจะได้เห็นตัวละครตัวนี้ผ่านสายตาที่ไร้เดียงสาของเมาคลีเด็กชายตัวน้อย พวกเขาจะกลาย เป็นส่วนหนึ่งของโลกของเขาค่ะ ความทรงจำเกี่ยวกับเวอร์ชั่น ปี 1967 ของ “The Jungle Book” ที่ชัดเจน “ฉันจำซาวน์แทร็คของมันได้ดีค่ะ มันได้รับความนิยมมากตอนฉันเป็นเด็ก เพลง ‘Bare Necessities’ เป็นเพลงที่เด็กทุกคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันร้องได้ และไอเดียของการที่เด็กในป่าถูกเลี้ยงดูขึ้นมาโดยสัตว์ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ค่ะ ฉันคิดว่าเด็กเล็กๆสามารถเข้าถึงธีมของการตามหาครอบครัวและการค้นพบความหมายของการเป็นครอบครัวได้ คำนิยามของครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัวและครอบครัวก็มีได้หลายรูปแบบและขนาด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ครอบครัวประกอบไปด้วยคนรอบตัวคุณที่รักคุณอย่างไม่มีเงื่อนไขค่ะ” ตัวละครตัวนี้ถูกออกแบบให้น่าสะพรึงกลัว และก็น่าเชื่อ เธอพูด
“The Jungle Book” เป็นผลงานเรื่องที่ 3 ที่โจแฮนสันได้ร่วมงานกับ จอน แฟฟโรว์ ผู้กำกับ โดยเธอได้รับบท แบล็ค วิโดว์ ใน “Iron Man 2”
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom