บทประพันธ์ โยษิตา
บทโทรทัศน์ ภาคย์รพี
กำกับการแสดง เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ผู้ผลิต กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
เรื่องราวของเด็กหญิง ธิดารัชทายาทรัฐอิสระแห่งหนึ่ง ซึ่งชะตากรรมทำให้ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ผู้สูงส่ง ไปอยู่ในความอุปการะของขอทาน ผู้มีกะลาเป็นเครื่องมือหากิน เธอจึงได้ชื่อว่า “กะลา” แต่ด้วยความดี ความงาม ความกตัญญู และความอดทน ทำให้เธอฝ่าฟันอุปสรรคนานา พิสูจน์คุณค่าของความเป็น “กะลาทอง”
--------------------------------------------------------------
นาฏลดา (พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์) ถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกา พร้อมครรภ์แก่ใกล้คลอด คุณหญิงชฎา (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ผู้เป็นแม่ทำเช่นนี้เพราะก่อนที่สามีของเธอจะตายได้หมั้นหมายนาฏลดากับอนุวัฒน์ (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ชฎาคิดว่าจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำได้ เธอส่งนาฏลดาไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด โดยมีสำลี (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) แม่นมของนาฏลดาคอยช่วยเหลือ นาฏลดาคลอดทารกเพศหญิง เธอผูกเส้นเชือกซึ่งเป็นหูกระเป๋าผ้าไหมจีนลายหงส์ทองกับข้อมือของทารก ซึ่งเป็นของสิ่งสุดท้ายที่เจ้ามิ่งหล้า คนรักของเธอมอบให้ ก่อนที่เขาจะหนีจากไป นาฏลดารู้เพียงว่าเขาเป็นเจ้าชายจากรัฐอิสระรัฐเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ต้องจากเธอไปด้วยเหตุผลทางการเมือง มิ่งหล้าไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้ เพราะเกรงว่านาฏลดากับลูกจะมีภัย
วิทย์ (ธราธิป สีหเดชรุ่งชัย) ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงชฎาให้ขโมยลูกของนาฏลดาไปทิ้ง นาฏลดาเสียใจมาก มีเพียงสำลีที่คอยปลอบใจ เธอถูกส่งตัวเข้าพิธีแต่งงานตามฤกษ์ที่ซินแสให้อย่างกะทันหัน ส่วนเด็กทารกนั้นวิทย์ นำใส่รถตู้ไปทิ้งไว้ข้างบุญช่วย (สมชาย ศักดิกุล) ขอทานริมถนน บุญช่วยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องไห้ของทารกตอนเช้าตรู่ และเห็นทารกน้อยอยู่ข้างกะลาที่แกใช้ขอทาน บุญช่วยจ้างยายนิ่ม (วิยะดา อุมารินทร์) ให้ช่วยเลี้ยงทารกน้อย กระเป๋าลายหงส์และที่ผูกข้อมือทารก ทำให้แกตั้งชื่อทารกว่า “หงส์ฟ้า” (อุษามณี ไวยานนท์) แต่ยายนิ่มเรียกว่า “นังกะลา” (อุษามณี ไวยานนท์) ในที่สุดทุกคนในสลัมก็เรียกเด็กหญิงว่า “กะลา” และต่างก็เชื่อว่ากะลา เป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งในซ่อง ซึ่งวิ่งหนีตำรวจ แล้วนำเด็กมาทิ้งไว้ กะลาเองก็เชื่อว่าแม่ของตนคือโสเภณีคนหนึ่งในซ่องนั้น ทุกครั้งที่กะลาเสียใจ เพราะถูกยายนิ่มตี เธอจะไปที่หน้าซ่องแล้วก็เรียกหาแม่ ทำให้พิกุล (ชุติมา เอเวอร์รี่) แม่เล้าเจ้าของซ่องเกิดความเวทนาและรับกะลาเป็นลูก อ้อมกอดของพิกุล สร้างความอบอุ่นให้แก่กะลา โดยที่เด็กหญิงมิเคยรังเกียจ
กะลาเติบโตมาพร้อมกับเงาะ (รุ้งลดา เบญจมาธิกุล) หลานยายนิ่ม ซึ่งแม่คลอดแล้วก็มาฝากไว้ แล้วไม่กลับมาอีกเลย เงาะชอบลักเล็กขโมยน้อย กะลาไม่อยากทำ แต่ก็ถูกยายนิ่มตี ถ้าวันไหน บุญช่วยไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูมาให้ แกก็จะบังคับให้กะลาหาเงินมาให้แกแทน บ่อยครั้งที่กะลาได้เงินจากมานพ (ธนพล นิ่มทัยสุข) เด็กวัด ข้างสลัม มานพสงสารกะลา เขารู้สึกผูกพันกับกะลามาก
วันหนึ่งบุญช่วยถูกรถชน คนขับชนแล้วหนีไป กะลาต้องหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ได้ เธอตัดสินใจวิ่งราวกระเป๋าของนาฏลดา ซึ่งลงจากรถมาซื้อพวงมาลัยข้างทาง แล้วกะลาก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด มานพหาที่ซ่อนให้ แต่ไม่วายถูกวิทย์ตามมาพบ วิทย์จับตัวกะลาได้พร้อมของกลาง มานพเข้าช่วยแต่ก็สู้วิทย์ไม่ได้ วิทย์ทุบตีกะลาแต่นาฏลดาเกิดความเวทนาจึงเข้าห้าม และจะอุปการะกะลา เมื่อถามว่าพ่อแม่เป็นใคร กะลาก็ตอบว่า “พ่อเป็นขอทาน แม่เป็นผู้หญิงหากิน” ทำให้อนุวัฒน์รังเกียจกะลาตั้งแต่แรกเห็น นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตน กะลาจึงเรียกค่าตัวเป็นค่ารักษาพยาบาลบุญช่วย เธอขอไปบอกยายนิ่มก่อน แล้วจะกลับมาพบ เมื่อถึงบ้านยายนิ่ม กะลามอบเงินให้ สั่งให้นำไปเป็นค่ารักษาพ่อ เธอขอเพียงกะลาที่บุญช่วยใช้ขอทานกับกระเป๋าไหมจีนรูปหงส์ทองติดตัวไปเท่านั้น แต่เมื่อพบมานพ เธอซึ้งใจในน้ำใจของเพื่อน จึงให้กระเป๋าหงส์ทองใบนั้นเป็นสิ่งตอบแทน ขอให้มานพสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขว้างมัน เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันการมีอยู่ของตัวเธอ
https://www.facebook.com/teeneedotcom