ยุคเปลี่ยนผ่านของละครจักรๆวงศ์ๆ และก้าวที่มั่นคงของ ‘สามเศียร’

ยุคเปลี่ยนผ่านของละครจักรวงศ์ และก้าวที่มั่นคงของ ‘สามเศียร'

แม้ว่าวงการละครไทยจะเปลี่ยนยุคยังไง แต่ที่ยังอยู่คู่ชาวไทยมายาวนานคงหนีไม่พ้นละครแนวละครพื้นบ้าน หรือที่หลายคนเรียกว่า แนวจักรๆ วงศ์ๆ ที่ตอนนี้มีเพียงช่อง 7 และ ค่าย สามเศียร เท่านั้นที่เป็นผู้ผลิต โดยมีหัวเรือใหญ่อย่าง ไพรัช สังวริบุตร ยังคอยควบคุมดูแล โดยมีลูกๆ หลานๆ พร้อมรับช่วงต่อ

แต่กระนั้นที่เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยเมื่อ หลุยส์ สยาม สังวริบุตร ลูกชาย ได้ลุกขึ้นมาประกาศตามหานางเอกละครจักรวงศ์คนใหม่ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็ได้บอกเล่าถึงที่มาว่า

"เรื่องของเรื่องคือเราไปนั่งคุยกับคุณพ่อและน้องลอร์ด (สยม สังวริบุตร) ซึ่งกำลังประชุมละครของค่ายสามเศียรอยู่ โดยที่เราไม่ได้เกี่ยวอะไรหรอก แต่เห็นเขาบ่นกันว่ามีเรื่องใหม่ที่อยากจะเปิดแล้ว แต่ยังหาพระเอกนางเอกไม่ได้ เราก็บอกว่ามันจะยากยังไง"

"จากนั้นก็เลยลองโพสต์เล่นๆ โดยการก๊อบปี้รูปแบบข้อความตามคนอื่นที่เขาลงประกาศรับสมัครงานกัน ที่ต้องขึ้นด้วยว่า "ด่วน!" พื้นหลังใช้เป็นสีแดงก็เอาสีแดงบ้าง "ด่วน!" ตามล่าหานางเอกละครจักรวงศ์คนใหม่ สนใจทัก inbox!"

จากนั้นก็มีหลายคนทักเข้ามาให้เปิดโพสต์เป็นสาธารณะ และเพียงเท่านั้นแหละ!

"คนแชร์กันเพียบเลย แล้วก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะมาก"

กับการที่หลายคนสงสัยว่าสถานการณ์ตอนนี้คืออยู่ในจุดที่ละครจักรวงศ์ขาดแคลนนางเอกจนถึงขั้นต้องประกาศหาเลยหรือ หลุยส์ สยาม ก็ว่า

"คนเก่าตอนนี้อายุเกินหมดแล้ว ความที่สเปกของนางเอกเรื่องนี้ต้องเป็นเด็กสาวๆ แล้วที่มีอยู่คืออายุ 20 กว่ากันทั้งนั้น"

"จริงๆ ไม่ใช่ตามหาแค่นางเอก พระเอกก็อยากได้ แต่เราไม่รู้ว่าจะเขียนยังไง สเปกพระเอกเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วปัญหาคือคนที่ตัดสินคือคุณพ่อเราคนเดียว ทีนี้คนเข้ามาสมัครเป็นร้อยเลย"

ซึ่งความรู้สึกหลังจากนั้นคือ "ซวยแล้ว" ก่อนจะเล่ากลั้วเสียงหัวเราะต่อว่า

"อยู่ในอินบ็อกซ์เต็มเลย ปกติอินบ็อกซ์เราจะว่างๆ แล้วก็มีแต่พวกมิจฉาชีพ ตอนนี้กลายเป็นมาสมัครอะไรกันเต็มไปหมด"

จากคนมาสมัครเยอะหลายร้อย ถ้าถามถึงไทป์ พระเอก-นางเอก ละครจักรวงศ์ที่คุณพ่อไพรัชชื่นชอบนั้น ผู้กำกับคนดังก็ว่า ไม่ทราบ แต่ว่า...

"เดี๋ยวนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างได้หมดเลย หน้าฝรั่งก็มี หน้าเกาหลียังมีเลย สมัยก่อนเราก็คิดว่านางเอกละครจักรวงศ์ต้องหน้าไทยๆ ตัวเล็กๆ เดี๋ยวนี้ตัวใหญ่ก็มี"

"อันนี้ก็แล้วแต่คุณพ่อเขาจะพิจารณา"

กับกระแสตอบรับที่มีคนยื่นใบสมัครเข้ามาเป็นนางเอกเยอะขนาดนี้ หลุยส์ก็ว่า ก็มองได้ว่าละครแนวจักรวงศ์ยังเป็นที่สนใจสำหรับคนดูอยู่

"เรตติ้งยังดีอยู่ มันก็จะมีคนกลุ่มใหญ่ทีเดียวทางต่างจังหวัดที่เขาดู ที่เขายังชอบวัฒนธรรมพีเรียดแบบนี้"

"แล้วก็ต้องยอมรับว่าละครจักรวงศ์เดี๋ยวนี้มาไกลมาก อย่างเพลงประกอบเนี่ยบางทีพ่อมาให้เราช่วยทำเพลงให้ ความที่เราสนิทกับวงดนตรีเยอะก็เลยเอาเพลงหนังจักรวงศ์ไปทำเป็นฮิพฮอพ เป็นร็อก เพลงว้ากก็มี แล้วพ่อก็เอามาเปิดเป็นไตเติลตอนท้าย"

ก่อนจะเล่าต่อว่า "ความที่คุณพ่อท่านเป็นศิลปินแห่งชาติก็เลยยังควบคุมตรงนี้อยู่"

"แล้วก็อย่างที่ทำกันอยู่ก็คือคุณพ่อจะแตกเรื่องออกมา เพราะหนังสือวัดเกาะเล่มบางนิดเดียวเอง แต่พอเราทำออกมาเป็นละครจำนวนมากขนาดนั้นก็ต้องเติมเรื่องเข้าไปเยอะ สังข์ทองของพ่อกับของลอร์ดก็จะต่างกัน"

"ซึ่งถ้าทำก็คงจะต่างออกไปอีก มันก็แล้วแต่จะตีความ แต่ว่ามันก็มีแนวทางอยู่ อย่างลอร์ดค่อนข้างจะได้รับการซึมซับจากคุณพ่อมาเยอะ ต่อไปถ้าพวกเราทำกันเองก็ต้องมีกลิ่นเดิมของมันอยู่"

"อย่างของลอร์ดก็จะออกแนวปล่อยแสงบู๊ตามถนัด แต่เราจะเป็นแนวน้ำเน่า แต่ว่าเรายังมองโครงสร้างหลักๆ เป็นเรื่องที่มาจากหนังสือวัดเกาะ ซึ่งก็มีอยู่หลายเรื่องอยู่ เราก็เอาตรงนั้นมา"

แม้ว่าตนเองจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำละครแนวนี้เยอะนัก แต่ก็มีออกความเห็นและเข้าร่วมประชุมอยู่ด้วยบ้าง

พร้อมออกตัวว่า "ตอนนี้ก็ต้องถือว่าเราเป็นเด็กใหม่ในวงการหนังจักรวงศ์"

ทั้งนี้ ในฐานะทายาท หากให้มองถึงอนาคตของละครจักรวงศ์นั้นก็ได้รับการยืนยันว่า

"ตราบใดที่พวกเราตระกูลสังวริบุตรยังอยู่ ก็ยังต้องมีอยู่"

"เราก็คงต้องทำต่อ เพราะมันเป็นมรดกตกทอดของคุณพ่อที่มอบให้พวกเรา ที่คุณพ่อได้ทิ้งไว้ให้ ไม่ใช่เฉพาะแค่พวกเราแต่เป็นคนไทยด้วย ก็ยังมีคนที่เขาอยากดู เขาชอบดู และเขาก็นั่งดูอย่างน้ำตาไหล มีความสุขกับการดู ยังไงผมก็ต้องทำต่อ"

"พูดตรงๆ เลยนะ มันก็ไม่มีใครทำแล้ว มันก็ต้องทำ ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดแม้ว่าวันหนึ่งจะมีคนดู หรือไม่มีคนดู เราก็ต้องลากไปให้มันถึงที่สุดให้ได้"

และยังมองว่าการที่คุณพ่อได้ศิลปินแห่งชาติส่วนหนึ่งก็เพราะการทำละครไทยที่มีวัฒนธรรมไทย ให้คนไทยรุ่นใหม่ได้เห็นว่าสมัยก่อนมันมีความแตกต่างกันนะ เด็กๆ ต้องยกมือไหว้ แสดงความเคารพผู้ใหญ่ เป็นวัฒนธรรมสไตล์ไทยๆ ที่นับวันจะหายไป

ถือเป็นการอนุรักษ์อีกหนึ่งวัฒนธรรมแบบไทยให้ลูกหลานได้รู้จักในอีกรูปแบบหนึ่ง