ทนายเจมส์ พูดบ้าง! ปมดราม่าละคร ‘ให้รักพิพากษา’
ล่าสุด ทนายเจมส์ หรือ นิติธร แก้วโต ผู้ปรึกษาบทละครให้รักพิพากษา ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ เผยถึงปมดราม่าดังกล่าว
อีกประเด็นคือเขาไม่ได้แจ้งวันถ่ายทำเพื่อให้พี่เจมส์ได้ไปนั่งดูด้วย คือเราไม่ได้เข้าไปดูถูกฉาก แต่เราก็เข้าใจเขาได้เรื่องประเด็นของความลับก็เลยไม่ได้ให้พี่เจมส์ดูภาพรวมทั้งหมด เขาจะส่งมาเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายเท่านั้น พี่เจมส์ก็แนะนำไปในสโคปกว้างๆ ซึ่งเขาต้องไปทำการบ้านกันเองกับผู้เขียนบท"
ในส่วนของทนายนิด้ามีหน้าที่เดียวกัน? "ผมเพิ่งรู้ว่าทนายนิด้าเข้ามาดูแลบทด้วย หลังจากที่นักข่าวโทรมาสัมภาษณ์ผมแล้วส่งลิ้งก์ให้ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีทนายนิด้า และทนายประมาณด้วย เลยไม่รู้ว่าปรึกษาทนายนิด้า ปรึกษาทางด้านไหน"
ในเรื่องของชุดครุย ก็มีดราม่าว่าผิด พ.ร.บ. ทนายเจมส์ได้รู้เห็นไหม? "ในเรื่องของ พ.ร.บ.ชุดครุย ต้องบอกก่อนว่าทางทีมงานเขาจะมีทีมที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ซึ่งเขาต้องไปศึกษากันตรงนั้น ไม่ใช่หน้าผม
ฉากดราม่าที่ถูกติงหลายจุด ยืนยันว่าไม่ได้ดูอยู่หน้ามอนิเตอร์? "ไม่ได้ดูบท แล้วก็ไม่ได้ดูหน้ามอนิเตอร์ด้วย"
จากที่ประธานคณะกรรมการอัยการพูดเนื้อเรื่องมันบิดเบือนไปเยอะ กับความเป็นจริง?
"ในส่วนตัวพี่เจมส์มองว่าในหลายอาชีพที่ถูกเอามาสร้างเป็นละคร และถูกสร้างให้เป็นบทร้าย ก็มีหลายอาชีพ ผมเชื่อว่าประชาชนเขาแยกแยะออกว่าอันไหนคือละคร อันไหนคือเรื่องจริง ต้องดูด้วยว่าบริบทของการโต้ตอบกันอารมณ์ความต่อเนื่องของเนื้อหาในแต่ละฉาก คำพูดเขาต้องการจะสื่อสารอะไร
เช่น ชวนมาเป็นอัยการกับพี่ ต้องการจะชวนจริงๆ หรือเพียงต้องการประชดประชัน มันไม่ได้เป็นการอธิบายว่าอยู่ดีๆจะเข้าไปเป็นอัยการได้นะ คนทั่วไปเขาก็รู้ได้อยู่แล้ว ว่ามันไม่ใช่ อยู่ดีๆจะดึงไปเป็นอัยการ หรือ ผู้พิพากษาได้ ท้ายที่สุดพี่เจมส์คิดว่าประชาชนน่าจะด่าทนายนราที่อยู่ในละคร ไม่มีใครเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อัยการที่อยู่ในชีวิตจริงหรอกครับ"
ได้ยินว่าเทรนเบลล่าด้วย ตอนนั้นแนะนำน้องยังไงบ้าง? "น้องเขาจำบทได้ แต่คำที่เขาใช้มันเป็นคำที่เรียกได้ว่าเขายังไม่คุ้นชิน อย่างปกติเราเรียกชื่อกันพี่ก็จะอธิบายให้ฟังว่าเวลาเขาเข้ามานั่งตรงนี้เป็นข้อพยาน เราต้องเรียกเขาว่าข้อพยาน จะไปไปเรียกชื่อเขาไม่ได้ ซึ่งเขาก็เข้าใจว่ามันเป็นศัพท์เทคนิคที่จะต้องจดจำ และเอาไปใช้ในการแสดง"
ในความเห็นทนายเจมส์คิดว่าผิดไหม? "พี่เจมส์มองว่ามันคือละครไม่ใช่เรื่องจริงครับ คือต้องดูที่การผลิตละครว่าเขามีจุดประสงค์บิดเบือนเนื้อหาจุดประสงค์เพื่ออะไร ถ้าบิดเบือนเพื่อใส่ร้ายองค์กรโดยเฉพาะ มีพฤติการณ์ที่ทำแบบนี้มาต่อเนื่อง ผมมองว่าเข้าข่าย แต่ถ้าการทำละครตรงนี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงอะไรเลย เจตนาทำเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น พี่เจมส์ก็เลยมองว่า ไม่น่าจะเกิดความเสียหาย"
https://www.facebook.com/teeneedotcom