บทสรุป คดีปริศนาใครฆ่าประเสริฐ พร้อมเฉลยความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?(คลิป)
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง เรื่องย่อ ละครฮิต บทสรุป คดีปริศนาใครฆ่าประเสริฐ พร้อมเฉลยความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?(คลิป)
เรื่องราวในละคร เลือดข้นคนจาง ดำเนินมาจนถึง 2 ตอนสุดท้ายแล้ว เราได้รู้ความจริงแล้วว่า คนที่ลงมือฆ่าประเสริฐก็คือ เมธ โดยมี เหม่เหม ผู้เป็นลูกสาวช่วยปกปิดหลักฐาน ส่วนสาเหตุก็เนื่องมาจากรู้ความจริงว่า คริส เมียของ ประเสริฐ วางยาจนทำให้เมียคนแรกของเมธแท้งและฆ่าตัวตาย กระทั่งบุกไปถึงบ้านจนทำให้เมธยิงประเสริฐแบบไม่ได้ตั้งใจนั่นเอง
โดยในตอนล่าสุดนี้ เมธ (แท่ง ศักดิ์สิทธิ์) ได้สารภาพความจริงทั้งหมดต่อศาล พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทาง เหม่เหม จะมาเล่าขั้นตอนการช่วยปกปิดหลักฐานอย่างมืออาชีพของตนเองต่อศาลเช่นกัน ซึ่งศาลชั้นต้น ได้พิพากษาคดีนี้
สรุปได้ดังนี้>>>>>
โดย เมธ มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่น จำคุก 1 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 25 ปี
โดยในตอนล่าสุดนี้ เมธ (แท่ง ศักดิ์สิทธิ์) ได้สารภาพความจริงทั้งหมดต่อศาล พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทาง เหม่เหม จะมาเล่าขั้นตอนการช่วยปกปิดหลักฐานอย่างมืออาชีพของตนเองต่อศาลเช่นกัน ซึ่งศาลชั้นต้น ได้พิพากษาคดีนี้
สรุปได้ดังนี้>>>>>
โดย เมธ มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่น จำคุก 1 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 25 ปี
เหม่เหม แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้เต้ยเสียหาย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๒ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีที่เหม่เหมช่วยเมธทำลายหลักฐาน โดยทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๘๔ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ทั้งนี้ มีเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา ๑๙๓ หากการกระทำตามมาตรา ๑๘๔ นั้น เป็นการกระทำ เพื่อช่วยบิดาของผู้กระทำความผิดศาลจะไม่ลงโทษก็ได้
ส่วนกรณีที่เหม่เหมช่วยเมธทำลายหลักฐาน โดยทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๘๔ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ทั้งนี้ มีเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา ๑๙๓ หากการกระทำตามมาตรา ๑๘๔ นั้น เป็นการกระทำ เพื่อช่วยบิดาของผู้กระทำความผิดศาลจะไม่ลงโทษก็ได้
ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๒, ๑๘๔ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน จำคุก ๑ ปี ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ฐานช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษโดยทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด จำคุก ๒ ปี ปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๓ ปี ปรับ ๑๒๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ปรับ ๖๐,๐๐๐ บาท แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี และให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้มีกำหนด ๑ ปี
โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติ ๔ ครั้ง ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่พนักงานคุมความประพฤติเห็นสมควร กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติ ๔ ครั้ง ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่พนักงานคุมความประพฤติเห็นสมควร กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
เต้ยแอบเข้าไปในบ้านของกู๋เมธ เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่กล้องแอบถ่าย ถือเป็นการเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น มีความผิดข้อหาบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี ปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การใช้กล้องแอบถ่ายเหม่เหม ถือเป็นการกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ มีความผิดในข้อหาอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๘ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๑ , ๓๖๖ เมื่อผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยแล้ว ขอถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมเป็นอันระงับไป
ส่วนกรณีที่เต้ยช่วยเหม่เหม เอาปืนไปทิ้ง เป็นการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๘๔ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เนื่องจาก เต้ยอายุสิบแปดปี แต่ไม่เกินยี่สิบปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ศาลอาจจะลดโทษลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๖
ส่วนกรณีที่เต้ยช่วยเหม่เหม เอาปืนไปทิ้ง เป็นการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๘๔ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เนื่องจาก เต้ยอายุสิบแปดปี แต่ไม่เกินยี่สิบปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ศาลอาจจะลดโทษลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๖
ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๔ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ขณะกระทำความผิดจำเลยอายุสิบแปดปีเศษ เห็นควรลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษโดยทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด จำคุก ๑ ปี ปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๒๕,๐๐๐ บาท
แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี และให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้มีกำหนด ๑ ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติ ๔ ครั้ง ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่พนักงานคุมความประพฤติเห็นสมควร กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี และให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้มีกำหนด ๑ ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติ ๔ ครั้ง ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่พนักงานคุมความประพฤติเห็นสมควร กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
คริสผสมยาพิษให้พิมดื่มเพื่อให้แท้งลูก มีความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้พิมได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกตั้งแต่ ๖ เดือนถึง ๑๐ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ ถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๗(๕) ประกอบกับการที่ทำให้พิมแท้งลูกโดยที่พิมไม่ยินยอม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๓ ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปี ปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๐
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากการดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเกินยี่สิบปี คดีจึงขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๓๙(๖)
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากการดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเกินยี่สิบปี คดีจึงขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๓๙(๖)
รับชมคลิป
VVVVVVV
VVVVV
VVVVVVVVV
>>>>>
Cr::: FB Nadao Series
Cr::: FB Nadao Series
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom