ปิดฉากทองเนื้อเก้า ละคร ที่ลงตัวทุกองค์ประกอบ
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง เรื่องย่อ ละครฮิต ปิดฉากทองเนื้อเก้า ละคร ที่ลงตัวทุกองค์ประกอบ
ปิดฉากไปแล้วเรียบร้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา(25 พ.ย. 2556) ท่ามกลางคราบน้ำตาและความประทับใจของแฟนๆละครทั่วประเทศ
สำหรับละครสะท้อนสังคม น้ำดีอย่าง 'ทองเนื้อเก้า' ที่สร้างกระแสมากมายในระหว่างที่ออกอากาศ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า นอกจากเหล่านักแสดงมากฝีมือที่ตีบทแตกกระจุยกระจายแล้วอีกคนที่ต้องซูฮกยกนิ้วให้ก็คือ 'ออฟ พงพัฒน์' ผู้กำกับของเรื่องที่ใส่ใจทุกรายละเอียดรังสรรค์ให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ
ความร้อนแรงของ "ทองเนื้อเก้า" ที่เขียน "บทละคร" โดย "ยุ่น" ยิ่งยศ ปัญญา ไม่ได้เทน้ำหนักไปที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่ง หากทว่ายังส่งเสริมให้นักแสดงรุ่นใหญ่ฝีมือชั้นครูหลายคนมีซีนโดดเด่นและน่าจดจำ เสมือนการ "ขโมยซีน" อย่างแนบเนียน จนเกิดเป็นกระแสยกย่อง ชื่นชม ในความ "เก๋า" ของนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีทั้งบทของ "ยายแล" หรือ "แอ๊ว" อำภา ภูษิต "ยายปั้น" หรือ "โย" ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ "ตาปอ" อย่าง "ตุ่ม" ชลิต เฟื่องอารมย์ สามตัวละครที่ "กรรม" ชักนำให้มามีส่วนเกี่ยวพันในวังวนชีวิตของ "ลูก-หลาน" หมุนวนเป็นกงล้อในฐานะของ "พ่อแม่"
เรื่อยไปจนถึงการ "แจ้งเกิด" ยกทีมในบท "วันเฉลิม" ทั้งสามรุ่นอย่าง "เมลิค" ด.ช.เมลิคเอเฟ่ ไอย์กูน "แม็ค" ด.ช.ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ และ "ยอร์ช" ด.ช.ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ นักแสดงเด็ก แต่ฝีมือไม่ธรรมดา โดยเฉพาะแม็ค และ ยอร์ช ที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้น่าสงสารและน่าเอ็นดู หลายคนเกิดคำถามว่า เด็กที่เกิดในสภาพแวดล้อมไม่ดีอย่างวันเฉลิม ทำไมถึงกลายเป็นเด็กที่ดีโดย "เนื้อแท้" เสมือนทองคำที่ไม่ว่าจะถูกนำไปปะปนกับอิฐ หิน ปูน ทราย หรือต่อให้โดนเผาไฟจนหลอมละลาย แต่สุดท้ายคุณค่าของแร่ธาตุชนิดนี้จะไม่มีวันลดน้อยลง
ถัดมาคือการสอดแทรกคติ แง่มุมการใช้ชีวิตผ่าน คำคม มากมายในละครเรื่องนี้ ที่แฝงมากับทุกเบรกก่อนจบโฆษณา
อาทิ รักลูกแต่ไม่รู้จักสอน ก็เหมือนไฟสุมขอนที่รอวันลุกโชน,สุรา ยาดอง ของเมา ใครลิ้มลองเข้า ไม่ช้าเสียคน, ให้กำเนิด ให้ความรัก ให้การศึกษา จึงจะนับว่าเป็นมารดาบังเกิดเกล้า, รสอร่อยของสุรา ไม่ต่างอะไรกับน้ำผึ้งที่ฉาบทาอยู่บนคมมีดโกน, ความเลวที่พ่อแม่กระทำอาจกลายเป็นมรดกกรรมของบุตรธิดา, (ว.วชิรเมธี)
รวมถึงอีกหลายบทพูดที่แฝงแง่คิดสุดแนบเนียนมากับตัวละคร อาทิ
"แม่ครับ แม่เลิกเหล้าเถอะครับ เวลาที่แม่อารมณ์ไม่ดี แม่ตีวันก็ได้ แต่แม่อย่ากินเหล้าเลยครับ" วันเฉลิมพูดกับลำยอง "ผมกับโยมแม่คงทำกรรมหนักหนาไว้ในชาติก่อน หนีเวรหนีกรรมคงไม่หมดแน่ๆ หรอกครับ" วันเฉลิมพูดกับพ่อสันต์ หรือแม้กระทั่งประโยคปะทะคารมภาษาชาวบ้าน "มึงเพิ่งด่าลูก เพราะมึงเพิ่งเป็นแม่มันหรออีแล" ที่ยายปั้นด่ายายแลจนน้ำตาท่วมจอ และเป็นฉากเด็ดซึ่งโดนใจใครหลายคน แม้กระทั่งประโยคที่ว่า "พ่อไม่มีทางตกนรกหรอกครับ ครอบครัวของพ่อมีแต่ความสุข บ้านที่เป็นบ้านคือสวรรค์นะครับ" บทพูดเรียบง่ายที่วันเฉลิมพูดกับพ่อสันต์ แต่แฝงความหมายเอาไว้มากมาย
อีกหนึ่งสิ่งที่เหนือความคาดหมาย คือแม้แต่ "แฟชั่นลำยอง" ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ยังถูกนำมาพูดถึงในโลกไซเบอร์ จนเกิดเป็นเทรนด์เสื้อผ้าย้อนยุคลายดอกที่กลับมาฮิตใหม่ เรียกได้ว่าความแรงและความสวยของ "นุ่น" วรนุช ภิรมย์ภักดี ทำให้ลำยองเวอร์ชั่น 2013 มีเทรนด์ฮิตระบาด ดังติดจรวดพร้อมโหลยาดอง จนพิธีกรชื่อดังอย่าง "โก๊ะตี๋" เจริญพร อ่อนละม้าย ยังต้องแต่งตัวเลียนแบบ หรือพิธีกรสุดแซบอย่าง "มาดามด" ก็ไม่น้อยหน้า มากไปกว่านั้นเน็ตไอดอลชาวสีม่วงอย่าง แฮปปี้ พอลล่า และเซ็กซี่ แพนเค้ก ก็ขออินเทรนด์ "ลายดอกลำยอง" ได้จี๊ดแสบทรวง
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะ "ทองเนื้อเก้า" ยังแซบสะท้านทรวง กลายเป็นแรงบันดาลในการสร้างสรรค์ประโยคฮิตๆ ใหม่ๆ ระบาดในโลกโซเชียล โดยเฉพาะเจ้าของเฟซบุ๊กสุดกวนอย่าง "กระต่าย" ที่มีการขึ้นโพสต์รูปกวนๆ และประโยคฮิตเด็ดดวงมาล้อเลียนทั้งคานเนื้อเก้า, คุณแม่ลำยอง หนูเอายาดองมาจองลูกชายค่ะ, ละม่อมเป็นญาติชั้นแน่ๆ, ยาดองกู ฯลฯ
กระแสเหล่านี้ไม่ต้องอาศัยกล่องเรตติ้งเป็นตัวชี้วัด แต่สามารถเห็นผลได้จากกระแสการโพสต์และแชร์ต่อกันไปเรื่อยๆ ในสื่อโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไทม์ไลน์ อินสตาแกรม และเว็บบอร์ดชื่อดังมากมายที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึง "ทองเนื้อเก้า" ดังระงมตลอดทั้งเรื่อง รวมไปถึงในตลาดนัด พ่อค้าแม่ค้า ตามบริษัทเอกชน หรือสำนักงาน หน่วยงานราชการ เพื่อนเม้าท์กับเพื่อน รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ของคนภายในครอบครัว ซึ่งทั้งนี้ย่อมมีทั้งชอบและไม่ชอบ ทว่าส่วนใหญ่เทน้ำหนักไปที่เสียงชื่นชม
องค์ประกอบทุกอย่างของละครทั้งฉาก เสื้อผ้า หน้า ผม เอฟเฟกต์การแต่งหน้า "ลำยอง" ในสภาพไร้ซึ่งความสวย แผลพุพองจากอาการป่วยเป็นโรค "ซิฟิลิส" ที่เสมือนจริงเหลือเกิน รวมถึงการเก็บรายละเอียดทุกตัวละคร บทและอารมณ์ต่อเนื่องไม่ติดขัด
ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาจากมันสมองและสองมือของทีมงานทุกคนในละครเรื่องนี้ สร้างปรากฏการณ์ "ลำยองฟีเวอร์" ได้อย่างท่วมท้น แต่สิ่งที่มากกว่า คือความอิ่มเอม ที่มาพร้อมๆ กับความเศร้าสลดหดหู่กับทุกแง่มุมชีวิตที่เปรียบเสมือนกงล้อแห่ง "กรรม" หลักธรรมที่เป็นธรรมชาติและธรรมดาที่สุด สามารถส่งสารธรรมเข้าไปถึงในหัวใจผู้ชมได้อย่างไร้ซึ่งคำปฏิเสธ
***************
ขอบคุณ :: คม ชัด ลึก
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom