เมื่อเรื่องนี้ได้ยินถึงหูของศิริผู้เป็นพ่อ จึงวางแผนให้ดนัยกับชลิตมาพบเพื่อเกลี้ยกล่อมไม่ให้ทั้งคู่รีบร้อนแต่งงาน แต่ศิริกลับถูกดนัยกับชลิตมอมเหล้าจนเมา และหลุดปากจะยกลูกสาวให้โดยไม่รู้ตัว พอศิริสร่างเมาและถูกลูกสาวต่อว่า พร้อมกับสารภาพว่าทั้งคู่พูดไปเพราะต้องการเอาชนะกันแค่นั้น ศิริจึงตัดสินใจพาลูกสาวทั้งสองคนหนีกลับไปที่เชียงใหม่ ส่วนดนัยกับชลิตก็ยกขันหมากมาสู่ขอเก้อ ทั้งสองหนุ่มโกรธมากเลยสืบจนรู้ว่าศิริพาลูกสาวหนีไปไหน ดนัยกับชลิต เลยตามไปที่หมู่บ้านน้ำปด เป็นที่ตั้งของ ศิริฟาร์ม ทั้งคู่ได้พบกับชาวบ้านน้ำปดที่พูดจาเชื่อถือไม่ได้ โดยเฉพาะ ทองอิน (วรพรต ชะเอม) เจ้าของโรงเตี้ยมริมทางเจ้าของฉายา จอมโกหกหน้าตาย หลังจากที่รู้ว่าทั้งคู่ มาทวงสัญญาเรื่องแต่งงานกับศิริ ทองอินจึงแนะนำให้ทั้งคู่พาหนี ดนัยกับชลิตจึงวางแผนปลอมตัวสมัครเป็นคนงานในฟาร์มของศิริ จนรู้ทางหนีเป็นอย่างดี
ธนวัติ (มิกค์ ทองระย้า) กับ พาณิชย์ (เขต-ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) ได้พบกับฉวีวรรณและดาหวัน จึงเกิดพอใจตามประสาหนุ่มเพล์บอยที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น แต่อำนาจเงินและอิทธิพลของทั้งคู่ก็ไม่สามารถทำให้ฉวีวรรณ และดาหวันตาโตเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ตรงกันข้ามทั้งฉวีวรรณและดาหวันกับรู้สึกหมั่นไส้ ไม่ชอบขี้หน้าของทั้งสองคนอย่างมาก แต่ก็ต้องยอมทำดีด้วยเพราะพ่อของเธอขอร้องเอาไว้
เมื่อดนัยกับชลิตเห็นธนวัติกับพาณิชย์เริ่มสนิทกับทั้งสองสาวมากขึ้น จึงเกิดอาการหึงหวงและคิดว่าต้องเผด็จศึกให้เร็ว ก่อนที่จะถูกแย่งคนรักไป ทั้งคู่วางแผนฉุดสองสาวโดยมีนายทองอินเป็นที่ปรึกษา ทั้งคู่ย่องไปเข้าไปในห้องนอนของสองสาว แล้วใช้กระสอบคุลมหัวของทั้งสองคนก่อนที่จะลากตัวพาไปที่รถ แต่เสียงร้องของฉวีวรรณกับดาหวันได้ปลุกให้ศิริและคนงานตื่น ทั้งหมดพากันไล่ตามดนัยกับชลิต ซึ่งต้องแยกกันพาสองสาวหนีทั้ง ๆ ยังมีผ้าคลุมหัวอยู่
และเมื่อพ้นจากเขตฟาร์มของศิริไปแล้ว ดนัยจึงรู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองฉุดมานั้นไม่ใช่ดาหวันแต่กลายเป็นฉวีวรรณ ส่วนชลิตลมแทบใส่มื่อรู้ว่าตนฉุดดาหวันมาแทน ดนัยและชลิต จึงต้องพาหนีไปก่อนแล้วค่อยไปแลกตัวคนรักที่จุดนัดพบ ก็คือโรงเตี้ยมของทองอิน
ดนัยพาฉวีวรรณหนีเข้าป่าอย่างไม่รู้ทิศทาง ส่วนดาหวันกับชลิตก็พลัดหลงกันในป่าลึกอีกด้านหนึ่ง พอธนวัติกับพาณิชย์รู้เรื่องถึงกับลั่นวาจาว่าจะเอาทั้งสองคนมาลงโทษให้ได้ ทั้งสามได้วางแผนกันออกตามหาโดยมี อาหลู่ (ม.ล.ปิยะจันทร์ ประวิตร) พรานแกะรอยชาวเขาเป็นผู้นำทางมักจะพาไปหลงทางอยู่เสมอ ทั้งหมดแยกย้ายกันออกไปเป็นสองกลุ่ม อาหลู่แกะรอยตามไปจนพบเศษผ้าที่ฉวีวรรณฉีกไว้เป็นสัญลักษณ์
ฉวีวรรณก็กำลังแอบฉวยโอกาสขณะที่ดนัยหลับอยู่หนีแต่ดนัยตื่นขึ้นมาทันเลยจับ ตัวฉวีวรรณเอาไว้ได้ เป็นจังหวะเดียวกันที่อาหลู่นำทางมาเจอทั้งคู่พอดี ธนวัติรีบตวัดปืนยิงเข้าใส่ดนัยอย่างบ้าเลือด จนศิริต้องรีบห้ามเพราะกลัวโดนลูกสาว ดนัยรีบฉุดฉวีวรรณ วิ่งหนีไปแต่ไม่ทันการณ์ ธนวัติลั่นกระสุนเข้าไปที่ไหล่ของฉวีวรรณถึงกับตะลึง เมื่อเห็นเลือดของดนัย ฉวีวรรณขวางไม่ให้ธนวัติยิงอีก ดนัยเห็นว่าฉวีวรรณกล้าขวางปืนเพื่อช่วยเหลือตนก็รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป จึงตัดสินใจวิ่งหนีเพียงคนเดียว ฉวีวรรณรู้ว่าดนัยปล่อยเธอแล้วแต่ไม่อาจปล่อยดนัยไปเพียงลำพังในสถาพที่บาด เจ็บ เธอจึงตัดสินใจวิ่งตามไป ดนัยวิ่งมาถึงไหล่เขาและบอกให้ฉวีวรรณกลับไป ฉวีวรรณคว้ามือดนัยกระโดดไถลตัวหนีลงเนินไปยังสายน้ำด้านล่าง
อีกด้านชลิตพาดาหวันเข้าไปในป่ายิ่งเข้าไปลึกเท่าไรก็หาทางออกไม่เจอ ดาหวันเริ่มโวยวายตามประสาลูกคนเล็กที่ถูกเอาใจมาตลอด แต่ชลิตรู้จุดอ่อนของดาหวันว่ากลัวผีเลยขู่ว่าจะทิ้งให้โดนผีหลอกอยู่กลาง ป่าทำให้ดาหวันไม่กล้าออกฤทธิ์กับชลิตมากนัก
ดนัยกับฉวีวรรณถูกสายน้ำพามาติดอยู่ที่ริมลำธาร ดนัยรู้สึกซาบซึ้งที่ฉวีวรรณยอมตามมาเพราะความเป็นห่วงที่เขาบาดเจ็บ ดนัยรู้สึกผิดที่พาฉวีวรรณมาลำบากจึงตัดสินใจจะพาเธอกลับบ้านและขอรับผิดกับ การกระทำของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ชลิตตั้งใจจะรีบพาดาหวันกลับบ้านให้เร็วที่สุดก่อนที่สติจะแตก
แต่เรื่องไม่จบง่าย ๆ อย่างที่คิดเพราะเมื่อชลิตกับดนัยพา ดาหวัน กับ ฉวีวรรณเดินทางย้อนกลับมาจนพบกับทีมค้นหาของศิริ ธนวัติกับพาณิชย์สั่งให้คนจับตัวดนัยกับชลิตมัดเอาไว้ก่อนเพื่อลงโทษ แต่ดันเกิดเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวขึ้นกลางหุบเขา เมื่อจู่ ๆ ก็ปรากฏร่างอสูรกายครึ่งคนครึ่งสัตว์บุกเข้ามาในแคมป์ ทุกคนพากันหนีเอาตัวรอดไปคนละทาง ฉวีวรรณกับดาหวันก็ได้แอบไปแก้มัดดนัยและชลิตแล้วพากันหนีไปจนไปถึงแม่น้ำ ทุกคนต้องลอยคอปล่อยให้กระแสน้ำพัดไปจนขึ้นฝั่งได้ก็หลับ แต่ฉวีวรรณกับดาหวันต้องตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงปลุกจากเด็กชายชาวเขา ชื่อ ดาเนา (น้องเดียว-พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์) แต่ดนัยกับชลิตหายไป ดาเนาสงสัยว่าจะถูกผู้หญิงในเมืองลับแลพาตัวไป ฉวีวรรณและดาหวันได้ปลอมตัวเป็นชายเข้าไป ช่วยเหลือทั้งคู่ได้
https://www.facebook.com/teeneedotcom