"จริง ๆ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่มาตัดสินใจมาแคส ตั้งแต่ตัวพี่วิศิษฏ์ ผู้กำกับฯเอง ตัวสคริปต์ที่เราเห็นจากนั้นได้มีโอกาสมาเปิดกล้อง เจอทีมงานทุกคนเก่งมาก ๆ ได้มาร่วมงานอยู่กับนักแสดงที่เก่ง ๆ นารู้สึกว่า ทุกอย่าง มันสมบูรณ์แบบมาก ๆ จนถึงทุกวันนี้เกือบ 3 ปีแล้วพองานที่เรามีส่วนร่วม มันใกล้เข้าฉาย มันก็ตื่นเต้นมาก ๆ ว่างานจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะหนังเป็นแอ็กชั่น ต้องมีซีจีใส่เข้าไปด้วย เมื่อครบทุกอย่างแล้ว หน้าตามันจะออกมาเป็นอย่างไร"
ความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของ "อินทรีแดง" ?
ญารินดา: ภูมิใจค่ะ เพราะนาเองก็รู้จักหนังเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน รู้จักมาตั้งแต่เด็ก ๆ คุณพ่อ, คุณแม่, คุณตา, คุณยาย ก็เคยพูดถึง แต่นาก็ไม่ได้มีโอกาสดูจริง ๆ จัง ๆ อะไร จนกระทั่งทราบว่าจะได้มาเล่นก็ไปทำรีเสิร์ช คุณพ่อก็หาซื้อหนังเรื่องเก่า ๆ เรื่องของคุณ มิตร ชัยบัญชา มาให้ดูนารู้สึกว่า สมแล้วกับการเป็นหนังแอ็กชั่นในประวัติศาสตร์จริง ๆ
ได้รับบทบาทเป็นใคร คาแรกเตอร์ เป็นอย่างไร และได้บู๊แอ๊กชั่นเหมือนคนอื่น ๆ ของเรื่องหรือเปล่า ?
ญารินดา: นารับบทเป็น ดร.วาสนา เทียนประดับ ค่ะ เป็นสาวหัวสมัยใหม่ เรียนจบจากต่างประเทศ เป็นนักเอ็นจีโอ ที่ร่วมต่อสู้ เพื่อสิ่งแวดล้อม ภายนอกจะดูเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง มั่นใจเหมือนกัน แต่ข้างในจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอมาก ๆ เหมือนกันในเรื่องของฉากอารมณ์จะเยอะ แต่เรื่องของบทแอ็กชั่นไม่ค่อยมี ในเรื่องนาจะเป็นผู้ถูกกระทำมากกว่าค่ะ (หัวเราะ) โดนทำร้ายสารพัดโดนเป็นจ่อหัวบ้าง มีดจ่อคอบ้าง (หัวเราะ) แต่ไม่ต้องมีไปต่อยไปเตะกับใคร
แต่ก็เจอฉากโหด ๆ เหมือนกัน เลิฟซีนในฉากห้องน้ำแข็ง ?
ญารินดา: ค่ะ แต่ต้องออกตัวก่อนว่า ตั้งแต่แรกแล้วที่คุยกับพี่วิศิษฏ์ เรื่องของบทเลิฟซีนก็เข้าใจว่าจำเป็นต้องมีเพื่อให้มันสมบูรณ์ขึ้น แต่ยังไงนาไม่เล่นโป๊เด็ดขาด ถ้าเปลือยก็ต้องให้สแตนด์อินเข้าแทน นาก็เลยไม่มีความหนักใจกับฉาก ๆ นี้แต่มันโหดสำหรับนามาก เพราะมันเป็นห้องน้ำแข็ง ทรมานมาก ถ่ายตลอดติดต่อกัน 40 กว่าชั่วโมง มันไม่ได้มีความโรแมนติกเลย (หัวเราะ) คิดดูว่า ทีมงานทุกคนเขาใส่ถุงมือ ใส่เสื้อแจ็กเกต ฟูลออฟชั่นกันหมด แต่เราได้ใส่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว มันทรมานมาก ๆ ค่ะ
ย้อนถามถึงเรื่องส่วนตัวบ้าง กำลังจะบินไปเรียนต่อที่อเมริกาสัปดาห์นี้ ?
ญารินดา: คือต้องเล่าก่อนว่า นาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคอินเตอร์ มาประมาณปีกว่าแล้วค่ะ ตอนนั้นที่ตัดสินใจมาสอน เพราะนาไม่มีเวลาทำงานในวงการเลย ทั้งออกอัลบั้ม ทำอะไร แต่การสอนทำให้เราทำงานได้ลงตัวทุกอย่าง เพราะทำอยู่แค่อาทิตย์ 2 วัน ซึ่งก็รู้สึกว่าชอบมาก ๆ กับการสอน ทำให้รู้สึกว่าถ้าอยากทำงานสอนตรงนี้ต่อไปนาน ๆ เราควรที่จะมีความรู้มากกว่านี้หน่อย เพราะจบแค่ปริญญาตรีคงไม่มีความรู้มากพอ ซึ่งศุกร์นี้นาก็จะไปแล้วค่ะไปเรียนด้านสถาปัตย์ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด คงใช้เวลาสักปีครึ่ง แต่นาก็จะกลับมาเมืองไทยเรื่อย ๆ ค่ะกลับมาทำงานบ้างไม่ได้หายไปเลย
แฟนหนุ่มชาวอเมริกัน วิล พเธรา ที่คบกันมา 6-7 ปีแล้ว จะตามไปด้วยหรือเปล่า ?
ญารินดา: เขาก็ตามไปเรียนปริญญาโทด้วยเหมือนกันค่ะ เราเองก็คบกันมานาน 6-7 ปีแล้ว และเราก็สนิทกับคุณพ่อคุณแม่ จะไปเรียนต่อด้วยกันทั้งคู่อยากไปอยู่ด้วยกัน มันสมควรกับเวลาแล้วล่ะ ที่จะหมั้นหมายกันให้เรียบร้อยก่อนไปเรียน ซึ่งนากับแฟนก็เพิ่งหมั้นไปค่ะไม่กี่วันนี้เอง จัดงานหมั้นง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตองชวนญาติ ชวนเพื่อน ๆ มากินข้าว กินน้ำชา กินขนมด้วยกันแค่นั้น ส่วนสินสอดไม่มีอะไร ส่วนเรื่องแต่งงานเมื่อไร ? หลังจากเรียนจบกลับมาก็คงต้องเป็นอย่างนั้น (หัวเราะ)
อีกปีครึ่งวางแผนหลังแต่งงานแล้ว จะอำลาวงการเลยไหม ?
ญารินดา: อิสระเหมือนเดิมเลยล่ะค่ะ เพราะนากับเขาคบกันาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ตอนเรียนปริญญาตรีแล้วและที่ผ่านมาตลอด ทั้งตอนทำงานออกอัลบั้ม งานต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งงานอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเอง นาก็มีเขาอยู่มาตลอด มันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไป ดังนั้นยังไงแต่งงานแล้ว นาก็คงยังทำงานอยู่ในวงการเหมือนเดิมแน่นอนค่ะ ไม่มีอะไรที่มันต้องแปลกไปจากตัวเองแน่ ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/teeneedotcom