ตามหา...แสงจันทร์
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านขับรถมุ่งหน้าตามถนนสาย 3 สุขุมวิทมุ่งหน้าสู่"เมืองจันทน์"
นั่งมาเกือบ5ชม.ด้วยความเอ้อระเหยลอยชาย...แวะทุกที ฉี่ทุกทาง...
กว่าจะเข้าเมืองจันทน์ฟ้าใสๆเมื่อเช้าก็มีแต่ฝน ฝน และฝน..
พิกัดทางรู้แค่ว่าเราจะไปซอยกระจ่างศรี..เป็นตลาดค้าพลอยในอำเภอเมือง
ฝนตกกระหน่ำหนักขึ้นเรื่อยๆ...มองทางธรรมดายังยาก นี่ต้องมองผ่านฝนอีก...วันนี้จะเจอไหมหนอ...เฮ้อ..
คนในรถก็เครียดหาทางกันไป..กลับรถวนไปวนมาหลายรอบ แต่เราเริ่มหันไปสังเกตเห็นบ้านเรือน ตึกรามข้างทาง...
ใช่เลย...อย่างนี้ใช่เลย..อยากโดดลงจากรถเป็นที่สุด
|
|
หากันจนเจอ...คนขับรถตู้ปล่อยพวกเราลงข้างทาง...
วิ่งผ่านฝนเลาะริมถนนไปเรื่อยๆ...จนเห็นพี่ติ่งกวักมือเรียกอยู่ในตึกแถวตรงข้าม...
รีบวิ่งเข้าไปเบียดกันในนั้นกันอีก11ชีวิตใหญ่ๆ
เจ้าของบ้านใจดี รีบชวนพวกเราเข้าไปนั่งข้างใน....
ขอบคุณเจ้าของบ้านใจดี..ท่านนี้ด้วยค่ะ...
ถามว่าทำไมต้องมารอพักกันบ้านนี้ ก็บ้านพี่เค้าอยู่ติดกับโลเคชั่นที่ถ่ายทำ แบบว่าใกล้กันแค่มีซอยเล็กๆขวางระหว่างตึกแค่นั้นเอง
กล้วยแขกหน้าบ้านนี้อร่อยมากค่ะ...ฝนตกกับกล้วยแขก...แค่นี้ก็สวรรค์แล้ว..
...............................
> p i c หน้าบ้านจะมีของกินเล่นผ่านมาเรื่อยๆ เคยเห็นแต่รถขายปลาหมึกแบบตากแห้ง..ที่นี่เป็นแบบกึ่งสดค่ะ...น่ากินมาก
รออยู่สักพัก..ก็เจออาลิ้ม...
แล้วสายตาเราก็เพิ่งสังเกตุ..
นั่นไง..แสงจันทร์...เจอแล้ว..
อาลิ้มเดินออกมาจากร้านชื่อแสงจันทร์..
แสงจันทร์คือชื่อของผู้หญิงที่อาลิ้มรักมากเท่าชีวิต..
ตอนนั้นลืมไปขณะหนึ่งว่าผู้ชายคนนั้นคือ บอยพิษณุ..
เพราะเสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่างทำให้เราคิดแต่ว่า "นั่นไงอาลิ้ม เดินออกมาจากร้านแสงจันทร์"
|
|
อาลิ้มวันนี้ใส่กางเกงแสล๊คแบบโบราณผ้าหนาๆสีกรมท่า เสื้อขาวแขนสั้น ข้างในใส่เสื้อกล้ามตาห่านคู่
หวีผมเรียบร้อย
เห็นอาลิ้มครั้งแรกก็สะดุด..
เพราะแต่งตัวเหมือนพ่อเราสมัยหนุ่มๆ เหมือนมากๆ..
สมัยราวๆสามสิบสี่สิบปีที่แล้ว ผู้ชายคงจะแต่งตัวเหมือนกันหมดเป็นแน่
อาลิ้มเดินมาเข้าฉากหน้านิ่งเหมือนกำลังตั้งสมาธิและทำอารมณ์อยู่
พลันสายตาเหลือบมาเห็นแฟนคลับที่เพิ่งมาเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยหันมาทักทาย...เป็นกันเองแบบอบอุ่น(ประโยคนี้เขียนประชดล้วนๆอย่าเข้าใจผิด)
"เพิ่งมาเหรอ...ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ"แถมค้อนขวับเข้าให้1ที..
.......................
ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยค่ะ
ยืนมุงกันไปแบบสงบๆเพราะทีมงานคอยประกาศขอให้เงียบเสียง...
หนังใหญ่ต้องใช้การเก็บเสียงด้วยไมค์....ซึ่งไวต่อเสียงรอบข้างมากๆ
ความที่หนังจะต้องถ่ายด้วยกล้องเดียวเลยต้องถ่ายเก็บทีละมุมๆ
เวลาเลยผ่านไปช้ากว่าละครมาก
สลับกับกองถ่ายต้องหยุดเวลาฝนเทลงมา...เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับฝนอยู่ตลอดวันเลยค่ะ...
เราเบื่อๆ เลยนั่งรถไปหากาแฟอร่อยๆทาน ได้ข่าวว่ามีกาแฟอร่อยอยู่แถวๆถนนถัดไป
ระหว่างทางขากลับเลยใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพตึกข้างทางมาด้วย...
เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมาถ่ายหนังกันที่นี่...ที่นี่ไม่มีตึกสูงๆสลับระหว่างตึกด้วยกัน..
บรรยากาศยังคงเป็นแบบเรื่อยๆสบายๆ มีบรรยากาศเก่าๆปนอยู่เยอะมาก...เดินเล่นแล้วเพลินดีค่ะ
.......................
> p i c ร้านขายกรอบรูปที่ดูน่าทานมากๆ...
|
|
เสียงคนทะเลาะกันดังลอดออกมาจากตึกแถวด้านบน...
เงยหน้าขึ้นไป...ก็ถึงบางอ้อ...อาลิ้มกับแสงจันทร์กำลังมีง...
เฮ้อออ...ชาวบ้านร้านตลาดเค้ารู้กันทั่วล่ะทีนี้...ว่าสองคนนี้ทะเลาะกัน..
.........................
> P i c ระหว่างถ่าย อาลิ้มหันมาชี้ชวนให้แสงจันทร์ดูแฟนคลับที่มุงอยู่ข้างล่าง..น่ารักจังค่ะ
|
|
ชวนคุยกันระหว่างรอ...
น่ารักอีกแล้ว...
|
|
จบฉากนี้..อาลิ้ม...ก็ไปใช้เวลาว่าง
ซื้อรถจักรยานโบราณ โดยมีแฟนคลับให้กำลังใจพร้อมกับเป็นสักขีพยานไปด้วย...
อาลิ้มใช้วิธีการต่อที่สุดยอดมาก..ก้มลงไปไหว้แล้วไหว้อีก
แต่ก็ไม่สามารถปิดการขายในราคาที่ต้องการได้...แม่ค้าใจแข็งกับอาลิ้มเหลือเกิน..
รถจักรยานที่อาลิ้มซื้อเป็นรถนำเข้าจากญี่ปุ่น..เป็นรถมือสองสภาพดี
เป็นแบบรถคลาสสิคผสมกับฟังค์ชั่นสมัยใหม่เพราะมีเกียร์ให้ทดด้วย
รถแบบนี้หาซื้อยากเหมือนกันค่ะ..เพื่อนเราเป็นนักสะสม หาซื้อได้ไม่กี่ที่เท่านั้นในเมืองไทย
อาลิ้มเลือกอยู่นาน เพราะสวยทุกสี สุดท้ายก็เลือกคันที่ลองขับ คือสีน้ำตาลอ่อน..สวยดีค่ะ
|
|
ซื้อจักรยานเสร็จ อาลิ้มก็ขับจักรยานตัวปลิวออกไปที่โลเคชั่นถัดไปที่กำลังจะไปถ่าย..
จากร้านแสงจันทร์ต้องเดินต่อไปอีกนิดหน่อย..ระหว่างทางเป็นตรอกซอยแคบๆพอรถผ่านได้พอดีคัน..
บ้านเรือนเป็นตึกแถวเก่าๆมีโคมกระดาษตรุษจีนห้อยอยู่ตลอดทาง...
แสงเริ่มโพล้เพล้...บรรยากาศสุดยอด..
ถนนเส้นนี้จะขนานไปกับแม่น้ำจันทบุรีด้วยค่ะ
โลเคชั่นต่อไป..เป็นศาลเจ้าคนจีน..
ตอนกลางวันเราผ่านมา..
จะเป็นที่สำหรับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จำนวนมากมาโขกหมากรุกกันเป็นกลุ่มๆประมาณห้าหกกลุ่มเห็นจะได้..
คึกคักมาก..
............................
> p i c รูปแรกเป็นที่ถ่ายทำหนังโฆษณาสก๊อตรังนก...ดู่ดู๊ดู เมื่อปี2550ค่ะ
ตรอกนี้อาลิ้มขี่รถเล่นไปมาตลอดเวลาที่ยังไม่เริ่มถ่าย...
ฝนก็ยังตกๆหยุดๆอยู่ตลอดเวลา
หยุดถ่ายรูปเวลามีชาวบ้านเข้ามาขอถ่าย..
...โป๊ป...
ไม่ค่อยกล้าถ่ายค่ะเห็นน้องเค้าจะนิ่งๆแต่เห็นหลายๆคนบอกว่าน้องเค้าน่ารัก อัธยาศัยดีมาก
|
|
บรรยากาศตอนถ่ายฉากสุดท้ายของวันนี้...
ความที่ฝนตกพรำๆตลอดตั้งแต่เที่ยงวันจนเกือบจะห้าทุ่ม..
พักกองกันเป็นระยะๆเพราะตกหนักมาก
ตอนที่พักกอง แฟนคลับก็ติดฝนไปด้วย..
อาลิ้มนั่งอยู่บนจักรยานซะส่วนใหญ่ ขี่ไปขี่มา รอบๆกอง คุยกับคนนั้นทีคนนี้ที..
สักพักก็จะเลี้ยวเข้ามาคุยเล่นกับพวกเรา ชวนทานขนม ชวนถ่ายรูป ร้องเพลงละครปราสาทมืดให้ฟัง..จับมือฉันไว้อะไรประมาณนี้..
เพลงสดๆที่ฟังจากปากอาลิ้มเพราะมาก เสียดายที่จำเนื้อเพลงไม่ได้..
เพราะกำลังเบลอๆไปกับเสียงเพราะๆ
อาลิ้มเอารูปมาอวด เป็นรูปคู่กับแสงจันทร์ เล่าว่าไปถ่ายถึงฉายาจิตรกร ร้านถ่ายรูปเก่าแก่ชื่อดังแถวๆวังบูรพา
อาลิ้มเล่าถึงหนัง ถ่ายแต่ละซีนนานมาก อย่างเช่นวันนี้ซีนเดียวถ่ายตั้งแต่เช้าถึงห้าโมงเย็น..
ความน่ารักของอาลิ้มวันนี้จำได้ไม่หมด เล่าไม่หมดแน่ๆเพราะเยอะมากจริงๆ
อย่างเช่น เราลุกจะไปห้องน้ำ อาลิ้มก็ถามว่าจะไปไหน เราก็บอกว่าจะเดินไปห้องน้ำ..
อาลิ้มขี่จักรยานตามมาบอกว่า มาๆ จะไปช่วย(ช่วยอะไรก็งงเหมือนกัน คงประมาณว่าจะไปส่งอะไรทำนองนั้น..)
ไปยืนคุยกันริมแม่น้ำ อาลิ้มก็ยังขี่จักรยานมาถามว่ายืนทำอะไรกัน..
อาลิ้มแซวแฟนคลับที่แอบไปเป็นเอ็กตร้าที่เข้าฉากหนังด้วยหลายครั้งจนเจ้าตัวเค้าอายไม่รู้จะหลบไปทางไหนแล้ว..
ใครถ่ายรูปก็ยังไปล้อท่าโพสเค้าอีก..
วันนี้อาลิ้มอารมณ์ดีจริงๆคุยเสียงเจื้อยแจ้ว...ถ่านไม่หมดสักที...
ถ่ายกันจนถึงดึก..อาลิ้มก็ยังร่าเริง
เปลี่ยนชุดกลับมาเป็นพี่บอย เสื้อสีแสบตาปรี๊ดดด...
ตอนไปส่งขึ้นรถ..พี่บอยร่ำลาขอบคุณที่มาให้กำลังใจกันถึงที่นี่..ว่างๆจะนิมนต์มาใหม่ครับ..
|
|
มีโอกาสเดินไปทักทายผู้กำกับ..คุณสมเกียรติ์
รู้มาจากหลายๆคนรวมทั้งเคยคุยกันหลายครั้ง เลยทำให้รู้เองได้ว่าพี่เค้าใจดีมากๆ
คุณสมเกียร์ติเล่าว่าถ่ายทำกันไปได้แบบนี้ถือว่าไม่ช้า เพราะบอยเล่นเก่งมาก..เล่นดีจริงๆเลยช่วยได้มาก
หยอกเล่นไปว่า พี่พูดเอาใจแฟนคลับรึปล่าว?
ไม่ๆผมพูดจริงๆนะบอยเล่นเก่งจริงๆ
รอดูแล้วกัน เค้าเล่นได้น่าสงสารมาก..
เดี๋ยวนะจะต้องร้องไห้ให้บอยกัน...
ผู้กำกับบอกว่าฝนตกไม่เป็นไรหรอกเพราะในเนื้อเรื่องบางฉากก็ต้องการฝนตกแบบนี้พอดี...
คุยกันไปสักพักก็เล่าขึ้นมาเหมือนนึกได้ว่า บอยนี่เค้ามีเช้นต์บางอย่าง เด็กชอบเค้านะ เด็กตัวเล็กๆที่เค้าอุ้มถ้าเป็นนักแสดงผู้หญิงหรือ
คนอื่นอุ้ม เด็กจะร้อง แต่ถ้าบอยอุ้มเมื่อไหร่จะเงียบ ไม่งอแง เด็กเหมือนชอบบอยมากๆ
แถมท้ายยังบอกว่าทึ่ง ที่พวกเราอุตสาห์เดินทางมากันไกลมากและยินดีที่เรามา
พวกเราก็ขอขอบคุณผู้กำกับและฝากขอบคุณถึงทีมงานทุกคนที่อำนวยความสะดวกและอนุญาติให้เรามาดูการถ่ายทำวันนี้กันด้วยค่ะ..
> p i c บรรยากาศการทำงาน...
*Mo แก้ไขเพิ่มเพราะเล่าไม่หมด..
ขอบคุณที่อ่านเรื่องเล่าฉบับละเมอๆ ...ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ทั้งหมดที่เจ้าของทู้นี่ http://www.theboystergang.com/cgi-bin/forum/Blah.pl?m-1243830049/ ไปดั้นด้นตามเก็บมาให้นะ เจ้าคะ
เป็นภาพเบื้องหลังตอนที่ไปถ่ายทำหนัง October Sanota ที่จังหวัดจันทบุรี นะคะ ส่วนหนังคงต้องรอดู 23 ธันวา ปลายปีอ่ะ ส่วนตอนนี้ดูภาพเบื้องหลังการถ่ายทำขำขำไปก่อนพลางๆ แบบไม่ต้องรอนะคะ >< +*+
https://www.facebook.com/teeneedotcom