โกโบริ กับ ความแปลกใจ ของณเดชน์ คูกิมิยะ

ก่อนหน้าจะเล่น" "คู่กรรม" ณเดชน์ คูกิมิยะ" บอกว่า เขาได้ยินเรื่อง "โกโบริ" กับ "อังศุมาลิน" 

มาแล้วจากแม่ เพื่อนแม่ และอีกหลายๆ คนซึ่งเป็นแฟนตัวยงของนิยายที่กลายมาเป็นหนังและละครหลายครั้ง ค่าที่" "ทมยันตี" "เขียนเรื่องไว้จับใจนัก

แรกสุดที่ถูกทาบทามจึงอดคิดไม่ได้ว่า "นี่จะเป็นงานยากเกินไปหรือเปล่า" สำหรับเขาซึ่งรับงานแสดงมาไม่มาก อีกทั้งยังไม่เคยแสดงภาพยนตร์สักครั้ง

หากเมื่อได้คุยกับ "เรียว-กิตติกร เลียวศิริกุล" ผู้กำกับ และได้อ่านบท ก็เริ่มสนใจ รู้สึกว่า "เป็นเรื่องท้าทายดี" 

"ซึ่งนับจากวันที่ตอบรับ ถึงวันนี้ที่หนังเสร็จ และพร้อมเข้าฉายวันที่ 4 เมษายน ณเดชน์ก็ว่าคิดไม่ผิดจริงๆ ที่มาเป็น "โกโบริ" แห่งปี 2556"...

ในวันที่นัดพบกัน ณเดชน์มาในชุดทหารญี่ปุ่น หล่อเหมือนในจอ อีกทั้งยังคงความสดใส แม้เวลาที่เจอกันจะเป็นช่วง 3 ทุ่มกว่า แต่ว่าคนซึ่งทำงานมาทั้งวันอย่างเขา ก็ยังส่งยิ้่มกว้างมาต้อนรับ

"ยังมีแรงเต็มที่ครับ" เขาบอก

ก่อนจะคุยถึง "โกโบริ" ที่ได้รับมอบหมายว่า โดยเนื้่อแท้ก็คือ "วัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งมีความรับผิดชอบ เป็นทหาร เป็นล่าม เป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศให้เข้ากัน เป็นคนที่จริงๆ แล้วไม่ได้รู้เหตุผลว่าต้องมาเมืองไทยทำไม อาจจะไม่อยากมาด้วยซ้ำ แต่ต้องมา เพราะเป็นหน้าที่ของความรักชาติ"

"เป็นคนน่ารัก แต่ขี้้น้อยใจ เฮฮาแฮปปี้ แต่ยังมีความจริงจังในชีวิตอยู่มากเหมือนกัน"
ซึ่งหากนำมาเทียบกับ "เขา" ณเดชน์บอกทันที "ใกล้เคียงกันตรงเรื่องของวัย วัยรุ่น วัยที่อยู่ในความรัก"

นอกเหนือจากนั้นแตกต่าง เพราะ "โกโบริ" เป็นญี่ปุ่นทั้งแท่ง ขณะที่เขาไม่ใช่

ก่อนเล่นจึงต้องทำการบ้านกันยกใหญ่ เริ่มตั้งแต่พูดคุยว่า "โกโบริ" ในสายตาแต่ละคนเป็นอย่างไร ฟังทั้งเสียงผู้กำกับ นักแสดง และทีมงาน กระทั่งได้ข้อสรุป จากนั้นแอ๊กติ้งโค้ชชาวญี่ปุ่นก็มาสอน "เพราะคนญี่ปุ่นเขาจะมีรูปแบบอะไรสักอย่างที่บ่งบอกว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่น"

เสียดายที่เวลารัดตัวจึงเรียนได้ไม่มากเท่าใจอยาก 

และแม้ "พี่เรียวบอกว่าดีแล้ว" หากสำหรับเขาเอง "ถ้าผมมีเวลาก่อนหน้าสัก 3-4 เดือน มาเวิร์กช็อปแบบที่ฮอลลีวู้ดเขาทำกัน ก็อาจทำให้ผมเป็นโกโบริที่ดีกว่านี้"

"น่าเสียดาย" เขาบ่นเบาๆ

ก่อนจะยิ้ม พยักหน้า ท่าทางเอาจริง แล้วว่า "แต่ไม่เป็นไร เรื่องหน้าแล้วกัน"

ถามณเดชน์ว่า อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดของการแสดงเรื่อง "คู่กรรม"?

คำตอบของเจ้าตัวคือ "การแสดงฮะ" 

ฟังแล้วเกือบส่งค้อนเข้าให้ ก็อะไรจะกำปั้นทุบดินขนาดนั้น

ยังดี๊ ที่เขาขยายความตามหลังว่า "การแสดงยากจริงๆ ยากตรงความเป็นญี่ปุ่นว่าจะออกมายังไง คิวแรกๆ ไปไม่ถูกเลย อะไรคือโกโบริ อะไรคือคู่กรรม ต้องคอยถามตลอดว่า แบบนี้ใช้ได้ไหม กอดเข่าพี่เรียวว่ายังไงดีพี่"


โกโบริ กับ ความแปลกใจ ของณเดชน์ คูกิมิยะ


"6 แล้วฉากจบนี่ยากมาก"

"ฉากระเบิดที่สะพานพุทธก็เหมือนกัน เริ่มถ่ายตั้งแต่ตี 2 ถึง 10 โมงเช้า ตัวเปื้อนฝุ่นไปหมด"

ฝุ่นฟุ้งๆที่หลายคนเห็นในหนังตัวอย่างแล้วจินตนาการว่าเหมือนหิมะตกนั่นแหละ

ครั้นพอบอกไปว่าฉากนั้นสวยมาก เขาก็ตอบกลับทันที "แต่คนเล่นเกือบตาย" 

ก็วัสดุที่นำมาใช้ในฉาก มีกาบมะพร้าวกับอะไรอีกหลายๆ อย่าง ที่รวมกันแล้วมีกลิ่นเหม็นเหลือทน 

นี่ถ้าคุณๆ ได้มาเห็นสีหน้าท่าทางขยาดๆ ของเขา รับรองว่าต้องขำเหมือนเราชัวร์

ถามณเดชน์ว่า ถ้าคะแนนการแสดงเรื่องนี้มีเต็ม 10 เขาน่าจะได้เท่าไหร่

พระเอกขวัญใจแฟนๆบอก "แค่ 5"

"เป็นคนให้คะแนนตัวเองน้อยมากน่ะฮะ"

"กดๆ ไว้ก่อน รอตอนหนังออกดีกว่า ว่าคนรู้สึกยังไง ไม่อยากจะหวังสูงเกินไป แล้วพอออกมาดีจะได้แบบว่า โอ๊ยยยย...โอเค"

บอกอีกว่าในการทำงานแต่ละครั้ง เขาไม่ค่อยคาดหวังอะไรล่วงหน้า

"ค่อนข้างจะกดดันตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ด้วยซ้ำ"

"ไม่ใช่ว่าเก็บมาเครียด หรือนอนไม่หลับนะฮะ" เขาออกตัว


โกโบริ กับ ความแปลกใจ ของณเดชน์ คูกิมิยะ


เพียงแต่..."เวลาคนบอกว่าน่าดูจังเลย โหย...ไม่หรอกพี่ เล่นไม่ค่อยดีหรอก ยากเหลือเกิน ผมจะพูดอย่างนี้"

"พยายามที่จะกดตัวเองไว้เรื่อยๆ เพราะพอกดตัวเองได้ ไม่หวังสูง ไม่คิดว่าตัวเองเก่ง มันก็จะมีอะไรที่ทำให้เราต้องก้าวต่อไปเรื่อยๆ ความรู้สึกว่าเราเล่นดีแล้ว จะเหมือนกับการหลงระเริงหรือเปล่า หรือทำให้เราอยู่กับที่ ไม่รู้สึกว่าจะมีความต้องการ หรือมีอะไรบางอย่างมาขับดัน ให้เราต้องหาอะไรใหม่ๆ เข้าตัวหรือเปล่า"

ทุกวันนี้เวลามีใครติดต่องานมา ณเดชน์บอกว่าจะมีทั้้งช่อง 3 และ" "พี่เอ" ศุภชัย ศรีวิจิตร" ช่วยกรอง โดยมีความเห็นของเขาอยู่ในขั้นตอนพิจารณา

"ผมจะดูว่าอันไหนทำได้ ก็ทำ แต่อันไหนไม่ใช่ตัวเราเลย ก็ไม่รับ"

งานอีเวนต์บางงานที่ออกแนวไปแล้วโชว์ตัวอย่างเดียว หรืองานวันเกิด ซึ่งโดยลักษณะแล้วคือการไปยิ้มๆ ถ่ายรูป เป็นสิ่งที่เขามักปฏิเสธ 

แม้ทางหนึ่งจะเป็นการได้เงินมาอย่างง่ายๆ แต่ "มันก็ดูไม่ดีสิครับ" คนอยากโชว์ความสามารถมากกว่าบอก

"ในความคิดของผม ละคร โฆษณา อีเวนต์เดือนละ 3-4 ครั้งนี่โอเค.แล้ว แต่งานวันเกิดล้านหนึ่งก็ไม่ไปครับ"

"ผมจะพูดยังไงดี...คือเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดในชีวิตน่ะ"

เขาจึงจะรับเฉพาะงานที่เหมาะกับตัว จากนั้นแบ่งเวลาว่างไว้ "แฮปปี้"

"วันที่ว่างผมจะดี๊ด๊าอยู่ตัวคนเดียว ไปดี๊ด๊ากับเพื่อน ไปเล่นดนตรี ไปเล่นเกม เพราะผมก็ยังเป็นเด็กวัย 21 อยู่เลย"

เด็กที่ "ไม่คิดว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้"

เด็กที่เจอ "โอ้วว...สารพัดฮะ สิ่งที่อยากเจอ ที่ไม่อยากเจอ แต่ก็เจอจนได้" เขาบอกพลางหัวเราะเสียงดัง

ในบรรดานั้นเรื่องที่ดีที่สุดคือ แฟนๆ

"แปลกใจว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกรักเรา ชื่นชอบเรา กับแค่การดูละครเรื่องหนึ่ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวจริงเราเป็นยังไง แปลกที่เออ...เขารู้จักเราดีแล้วเหรอ หรือเขารู้จักตัวละครที่เราเล่น ซึ่งส่วนมากจะชื่นชอบตัวละคร แล้วก็อยากรู้จักตัวจริง"

"แปลกใจนะครับ"

"แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเป็นโชคดีที่เขารู้สึกอย่างนี้กับเรา"

ณเดชน์บอกด้วยว่า ทุกวันนี้แม้จะเหนื่อยกับงาน อีกทั้งวันๆ ยังต้องพบเจอผู้คนมากมาย หากเขายัง "สบายมาก"

"กับแฟนๆ มันคือ การเอ็นเตอร์เทนต์ เหมือนกับสิ่งที่เราได้รับจากเขาคือความชื่นชม ความรัก ความชอบ การตอบแทนของเราก็คือ การทำให้เขามีความสุข ให้เขาได้เข้าถึง ได้ถ่ายรูป แจกลายเซ็น"

"และแน่นอนว่าผ่านผลงานการแสดง"

"คู่กรรม" เองก็เป็นหนึ่งในนั้น"

โกโบริ กับ ความแปลกใจ ของณเดชน์ คูกิมิยะ


ณเดชน์ คุกิมิยะ - ริชชี่ อรเณชณเดชน์ คุกิมิยะ - ริชชี่ อรเณช


ณเดชน์ คุกิมิยะ - ริชชี่ อรเณชณเดชน์ คุกิมิยะ - ริชชี่ อรเณช


ณเดชน์ คุกิมิยะ - ริชชี่ อรเณชณเดชน์ คุกิมิยะ - ริชชี่ อรเณช

ขอบคุณข่าว จาก :: prachachat.net


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์