พัค ยูชอนเจ้าชายคนใหม่แห่งวงการแสดง

  เพราะละครแค่ 3 เรื่อง นับตั้งแต่ที่เจ้าตัวเริ่มเบียงเบนมาจับงานแสดง ก็สามารถสร้างฐานแฟนคลับของตนพร้อมๆ กับคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่มาได้อย่างมากมาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับละครเรื่องล่าสุดของเขาที่มีชื่อว่า “Rooftop Prince” ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เรียกเรตติ้งได้สูง และสร้างชื่อให้กับ ยูชอน จนมีงานพรีเซ็นเตอร์ตามมาไม่ขาดสาย

          ยูชอน : แรกๆ ก็รู้สึกกังวลมากครับ ที่ละครต้องถ่ายทำไปฉายไป และรู้สึกดีใจมากที่สุดท้ายละครทั้ง 20 ตอนก็จบลงด้วยดี โดยไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายทำ ผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้แสดงในบทบาทที่ตัวเองเข้าถึงได้มากกว่าครั้งไหนๆ ทั้งยังได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีความสามารถและทีมงานที่สุดยอด จึงทำให้สนุกและรู้สึกดีมากๆ ครับที่ทุกอย่างจบลงอย่างสวยงาม

          ยูชอน : เพราะในผลงานก่อนๆ  ผมมักจะคิดแต่ว่าต้องทำให้ดีที่สุด มันจึงสะสมกลายเป็นความเครียด  เป็นภาระที่ผมต้องแบกไว้จนผมคิดถอดใจ  แต่กับผลงานเรื่องนี้ ผมรู้สึกสนุกกับการแสดงมาก เพราะได้ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป เหมือนผมได้สร้างคาแรกเตอร์ใหม่ขึ้นมาเอง  แม้จะต้องเหนื่อยกับตารางการถ่ายทำที่เร่งวันเร่งคืนเนื่องจากต้องถ่ายไปด้วยฉายไปด้วย  แต่ผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแต่ละตอนได้ถ่ายเสร็จสิ้น

          ยูชอน : หลังจากที่เสร็จสิ้น เรื่องพิธีศพและกลับมายังสถานที่ถ่ายทำ มีทีมงานคนหนึ่งเข้ามาถามผมอย่างห่วงใยว่า ผมได้กินข้าวมาหรือยัง  ผมรู้สึกได้ถึงความเอื้ออาทรที่ทีมงานมีให้  และเพราะประโยคนั้น ทำให้ผมคิดได้ว่า นี่แหละคือชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว  แต่ยังมีคนอื่นๆ อีกด้วยที่ต้องร่วมและใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กันกับผม จากนั้นผมก็ทำใจให้ว่างแล้วก็พุ่งความสนใจไปที่การแสดงอย่างเดียวครับ

          ยูชอน : จริงครับ ผมมีปัญหาอย่างหนักเมื่อตอนแสดงในละครเรื่อง “Miss Ripley” ซึ่งเป็นผลงานเรื่องที่สองของผม  รู้สึกกดดันมากๆ กับฝีมือการแสดงของตัวเองจนอยากยอมแพ้  แต่ขอบคุณทุกคนรอบข้างมากครับ ที่ช่วยให้ผมผ่านพ้นในจุดนั้นมาได้ ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรมากแล้วครับ  แค่พยายามให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองทำได้ก็พอแล้ว

          ยูชอน : ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากลองสวมบทบาทที่หลากหลายมากกว่านี้ครับ  อย่างเช่น คนไข้โรคจิต หรือฆาตกรต่อเนื่อง อะไรเทือกนั้น  ที่จริงในเรื่อง “Rooftop Prince” มีอยู่ฉากหนึ่งที่ต้องถ่ายทำในโรงพยาบาล  แค่ฉากเดียวใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 6 ชั่วโมง  ผมเลยรู้สึกว่าถ้าได้รับบทคนไข้โรคจิต จะต้องเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ แน่ ถ้ามีโอกาสก็อยากลองดูครับ (หัวเราะ)”

 

ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นบทบาทใหม่ๆ จากนักแสดงมือใหม่แต่หน้าไม่ใหม่อย่าง ปาร์ค ยูชอน เร็วๆ นี้ก็เป็นได้  ทั้งนี้ทั้งนั้น เหล่าพลพรรคคงต้องติดตามและให้กำลังใจกันต่อไปเรื่อยๆ จ้า