คิมซูฮยอน ยอมเผยไดอารี่รักที่เขียนให้แฟนตัวจริง ที่ไม่ใช่คิมแซรน

เป็นประเด็นที่ร้อนแรงไม่หยุดสำหรับคดีความของพระเอกดัง คิมซูฮยอน กับอดีตนักแสดงสาว คิมแซรน ล่าสุด สำนักงานกฎหมายของคิมซูฮยอนได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่สร้างความประหลาดใจอย่างมาก โดยระบุว่า เพื่อต้องการพิสูจน์ความจริงว่า คิมซูฮยอนไม่ได้คบกับคิมแซรนในช่วงที่เข้ากรม ได้มีการนำหลักฐานสำคัญออกมาใช้ นั่นก็คือ ไดอารี่ความรักกว่า 150 ฉบับ ที่เขาเขียนถึง "คนรักตัวจริง"

ตามคำแถลงของทีมกฎหมาย การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของนักแสดงที่ถูกกล่าวหาและแก้ไขข้อเท็จจริงที่บิดเบือน โดยได้เปรียบเทียบเนื้อหาในจดหมายที่เขียนถึง "คนรักตัวจริง" กับจดหมายที่เขียนถึงคิมแซรน เพื่อเป็นหลักฐานชี้แจง

ไดอารี่รัก 150 ฉบับ ถึง "คนรักตัวจริง"

ทางทนายความเผยว่า ไดอารี่เหล่านี้ถูกเขียนขึ้นในช่วงที่คิมซูฮยอนเข้ากรม (ตุลาคม 2017 - กรกฎาคม 2019) เป็นเวลา 3 ปีที่เขาคบกับคนรักตัวจริง เนื้อหาในจดหมายเต็มไปด้วยความรัก ความคิดถึง และความทรงจำมากมาย โดยจดหมายฉบับหนึ่งลงวันที่ 6 เมษายน 2018 ยังได้บรรยายถึงความเจ็บปวดที่ไม่สามารถเขียนชื่อจริงของคนรักได้

เปรียบเทียบจดหมาย: คนรักตัวจริง vs คิมแซรน
เพื่อชี้แจงให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ทางทีมกฎหมายได้เปรียบเทียบเนื้อหาของจดหมายทั้งสองฉบับ โดยระบุว่า:

จดหมายถึงคนรักตัวจริง: ใช้คำพูดที่แสดงถึงความรักลึกซึ้ง เช่น "ฉันรักคุณเหมือนเดิม" หรือ "อยากจะกอดคุณ"

จดหมายถึงคิมแซรน: ใช้คำพูดทั่วไป เช่น การบรรยายสภาพอากาศ หรือคำว่า "คิดถึงเธอ" ที่ใช้กับคนรู้จักทั่วไป นอกจากนี้ ชื่อเล่น "แซโรเนโร" ก็เป็นเพียงชื่อที่เรียกกันตามปกติ ไม่ได้มีความหมายพิเศษแต่อย่างใด

ทางทีมกฎหมายยังยืนยันว่า การที่คิมซูฮยอนนำไดอารี่นี้ออกมาเปิดเผย เป็นการยอมรับว่าเคยคบกับคิมแซรนจริง แต่เป็นการคบในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 1 ปี และเป็นช่วงที่คิมแซรนบรรลุนิติภาวะแล้ว เพื่อลบล้างข้อกล่าวหาที่ว่าคบกันตั้งแต่ยังเป็นผู้เยาว์

อย่างไรก็ตาม การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ของทีมกฎหมายคิมซูฮยอนก็ยังคงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะอยู่ไม่น้อย เนื่องจากมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป และการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับ "คนรักตัวจริง" ก็อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของนักแสดงในแง่ของความสัมพันธ์ได้ แต่ทางทีมทนายก็ยังคงยืนยันว่าหลักฐานนี้มีน้ำหนักทางกฎหมายมาก และสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ในชั้นศาล