แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค



แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค


รายการ WOODY FM พูดคุยกับไอดอลสาวสัญชาติไทย มินนี่ (G)I-DLE ที่จะมาเผยเรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน เคยใจร้ายกับตัวเองจนเป็นสาเหตุที่ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า แพนิค และการก้าวข้ามช่วงเวลาที่แสนยากลำบาก


เรื่องที่คุยในวันนี้เป็นเรื่องที่พี่เพิ่งทราบมาเมื่อไม่นาน เป็นเรื่องที่ทุกคนจะสามารถ Relate ได้และจะเป็นประโยชน์ต่อหลายคนมาก ต้องขอบคุณที่พร้อมจะเปิดใจแชร์เรื่องนี้ ?

มินนี่ : ค่ะ หนูไม่เคยพูดให้คนอื่นฟัง มีคนรู้บ้างค่ะเป็นเพื่อนคนที่สนิท หนูไม่แน่ใจว่ามันเริ่มจริงๆตอนไหน แต่ว่าตั้งแต่ตอนเป็นเด็กฝึก คือเราจะมีรูทีนต้องซ้อม แล้วเราก็ไม่ได้ไปไหนก็จะซ้อมทุกวัน แล้วเขาจะมีจิตแพทย์มาเช็คทุกๆ 6 เดือนหรืออะไรหนูไม่แน่ใจ เขาจะคอยมาเช็คว่าเราโอเคหรือเปล่าเป็นยังไง แล้วเขาจะอัปเดตทางค่าย แต่ว่าหลังจากเดบิวต์แล้วก็คือไม่ได้มี จะไม่ได้มาเช็ค คือถ้าเรารู้สึกว่าอยากปรึกษาต้องไปหาเอง ซึ่งหนูก็รู้สึกว่าเราโอเคก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็รู้สึกว่ามันก็มีหลายๆ ครั้งที่เริ่มรู้สึกว่าเรามีความ Negative มันดาวน์มากๆ แต่คิดว่าไม่เป็นไรเราอาจจะ Sensitive ไม่เป็นไร แต่ว่ามันมีครั้งหนึ่งที่รู้สึกว่าไม่ปกติจริงๆ คือตอนที่หลังจากโควิดค่ะ เหมือนช่วงโควิดเป็นปีเลยที่เวลาเราไปแสดงที่ไหนก็คือส่วนใหญ่แฟนคลับจะมาดูไม่ได้ ก็คือเราอยู่บนเวทีแล้วก็ถ่ายกับกล้อง เพราะฉะนั้นจะไม่ได้เจอคนเลยมาเป็นปี แล้วหลังจากโควิดคือหนูมีทัวร์ครั้งแรก แล้วอยู่ดีๆ เราก็ได้เจอคนเยอะมากๆ หนูไม่แน่ใจว่าอาจจะปรับตัวไม่ได้หรือเปล่า แต่ว่าเราเริ่มเป็นแพนิคตอนทัวร์ครั้งแรก

จำได้ไหมว่าครั้งแรกอาการเป็นยังไง แล้วมันมายังไง ?

มินนี่ : หนูตกใจมาก ตอนนั้นอยู่บนเวที อยู่ดีๆ ก็รู้สึกไปเองว่าสายตาที่มองมา เรารู้สึกว่ามองทำไม เค้ามองอะไร ทั้งๆที่เค้าคือแฟนๆ ที่เขาชื่นชอบมาดูเรา แล้วมันเป็นฝันของเราที่อยากมี World Tour ทำไมรู้สึกแบบนี้ สมมุติว่ามีคนยกกล้องขึ้นมาถ่ายหนู รู้สึกว่าเค้าถ่ายอะไร เราทำอะไรผิดเหรอ ทำไมเขาต้องถ่ายเราด้วย หนูตีกับตัวเองว่าทำไมถึงมีความคิดนี้ขึ้นมาในหัวแล้วก็จะมีเสียงพูดขึ้นมาว่า Get out of here you shouldn't be here ที่นี่ไม่ใช่ที่ของคุณนะ หนูแบบเหมือนตีกับตัวเองค่ะ คือถ้าคนดูคือดูไม่ออกอยู่แล้ว หนูก็ยืนแล้วแบบเกิดอะไรขึ้น เหมือนเป็นความรู้สึกแบบเหมือนมี Devil กับ Angel อยู่ในหัว มี Devil พูดว่าคุณไม่ควรอยู่ตรงนี้ที่นี้เค้าไม่ต้อนรับคุณหรอก แล้วก็มี Angel พูดว่าไม่ คือเค้ามาดูเรา ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ แต่เหมือนช่วงนั้นหนูว่า Devil มันตัวใหญ่มาก เราจะได้ยินเสียงแต่ Devil เราจะได้ยินแต่เสียง Devil ว่าไม่คุณต้องออกไปจากนี้ คือรู้แค่ว่าต้องออกไปจากตรงนี้ แล้วหนูรู้สึกแบบ Oh my God ต้องออก ต้องออกจากตรงนี้แล้ว แล้วเสร็จหนูก็ตีกับตัวเองแล้วพอจบโชว์ก็คือร้องไห้ ร้องไห้หนักมาก คือมันเป็นอย่างนี้อยู่ประมาณหลายๆวันติด หนูว่าเพราะว่าคือด้วยความที่เราโชว์วันเว้นวันเลย หนูโชว์เสร็จปุ๊บวันรุ่งขึ้นบิน คือทุกครั้งที่หนูลืมตามาคือบางทีงงว่าอยู่ที่ไหน มันขนาดที่ว่าเราอยู่ที่ไหนอะไรงี้








แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค


ไม่ได้บอกใคร ?


มินนี่ : ตอนแรกไม่ได้บอกใคร หนูพยายามฮึบไว้ ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง เพราะรู้ว่าตอนนั้นทุกคนก็เหนื่อยแล้วไม่อยากจะไปเพิ่มความเครียดหรืออะไรให้เขา พอถึงห้องปุ๊บหนูปิดประตูร้องไห้หนักมากทำไมรู้สึกอย่างงี้ (ร้องไห้) มันเกิดอะไรขึ้น พอเข้ามาในห้องจำได้เลยว่าโรงแรมตอนนั้นเราสามารถเห็นห้องฝั่งตรงข้ามได้ เรานั่งอยู่บนเตียงแล้วตรงนี้เป็นหน้าต่างคือหนูปิดม่านแล้วแต่รู้สึกเหมือนมีคนมองเราตลอดเวลา แล้วหนูไม่สามารถนอนได้ เหมือนรู้สึกไปเองว่ามีคนจ้องเราตลอดเลย หนูก็บอกโอเค แบบนี้ไม่ปกติ ตอนแรกหนูบอกแค่พี่ผู้จัดการว่านอนไม่ได้จริงๆ รู้สึกไม่ปลอดภัยมากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นไรอะไร พี่เขาก็แบบโอเคกลับไปเกาหลีเดี๋ยวไปหาหมอ มันเป็นๆหายๆ ช่วงนั้นสมมุติว่าออกไปข้างนอกแล้วมันเป็นที่ๆคนเยอะๆ หนูจะไม่โอเค ทั้งๆที่เราชอบเจอคนมาก แต่ช่วงนั้นเจอคนแล้วเหมือนชอบมาคิดว่าถ้าเค้ามองเราคือมองทำไม ทำไมต้องมอง แล้วหนูจะมองพื้นตลอดเลย แบบไม่โอเค ก็เลยไปปรึกษา

สภาพจิตใจตอนก่อนไปปรึกษา มันดาวน์ขนาดไหน ที่สุดของชีวิตไหมในแง่ของจิตเวช ?

มินนี่ : คือไม่อยากให้ใครเห็นเราในสภาพนี้ด้วย แล้วก็เหมือนเราตกใจมั้งค่ะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่หนูไม่อยากให้แฟนคลับรู้อยู่แล้ว เพราะรู้สึกเดี๋ยวเค้าเป็นห่วง หนูไม่กล้าบอกคุณพ่อแม่ด้วยตอนแรกเพราะว่ากลัวเป็นห่วง เพราะว่าเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จำได้ว่าโทรหาเพื่อนสนิทที่ไทยก็เล่าให้ฟัง หนูแค่พูดว่าฉันไมโอเคแล้วก็ร้องไห้ แล้วเพื่อนก็ปล่อยให้หนูร้องไห้เป็นอะไรค่อยๆพูดมา หนูก็เล่าให้เขาฟังว่ารู้สึกแปลกมากเลย ทำไมถึงรู้สึกอย่างงี้ไม่รู้ รู้สึกแย่มาก มันไม่ควรจะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้เลย ก็เลยไปหาคุณหมอ หนูงงมากคุณหมอพูดว่าทำไมเพิ่งมาตอนนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสัญญาณอะไรเลยเหรอ แต่หนูคิดว่าคือมันก็มีสัญญาณมาตลอดแต่แค่เรามองข้าม ไม่เป็นไรหรอกใครๆ ก็รู้สึกแบบนี้ มันรู้สึกกันได้ บางทีกลับมาบ้านแล้วก็ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่อยากเจอใคร ทั้งที่เราปกติจะเป็นคนชอบเจอเพื่อนมากๆ มันมีช่วงหนึ่งที่แบบไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากทำอะไร รู้สึกแบบหมดไฟนิดหนึ่ง ทำไมก็ไม่รู้ เหมือนมันมาไกลเหมือนกันนะกว่าจะมาถึงจุดนี้

แล้วเขาบอกว่ามันคืออะไร ?

มินนี่ : เค้าบอกว่าเป็นภาวะซึมเศร้า กับ แพนิค



แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค


แล้วขั้นตอนต่อไปสำหรับคุณ หลังจากที่ทราบ ?


มินนี่ : เขาบอกว่าควรจะมาหาคุณหมอบ่อยๆ อย่างน้อยมาเล่าหรือมาคุยกับเขา ซึ่งเราก็ไม่มีเวลา คือหนูรู้สึกว่าสิ่งที่อยากพูดคือบางทีเราไม่มีเวลา เราชอบมองข้ามสิ่งนี้ ทั้งๆ ที่ความจริงมันสำคัญมากๆ เหมือนเวลาเราไม่สบายเราก็ต้องไปหาหมอ สมมุติเราไอไม่ไหวเราก็ต้องไปหาหมอกินยา สภาพจิตใจเหมือนกันสำคัญมากๆ คุณต้องหาเวลาให้ตรงไม่งั้นมันมีผลกระทบทุกอย่างทำอะไรไม่ได้เลย

สุดท้ายดูแลจัดการกับมันยังไง ?

มินนี่ : ตอนแรกคุณหมออยากให้ยาค่ะ แต่ว่าพอพูดว่าจะให้ยาหนูร้องไห้ ไม่เอา ยังไม่อยากกินยาได้ไหม เขาก็บอกโอเคถ้างั้นก็ต้องไปหาคุณหมอ แล้วก็ไปคุยกับเขาบ่อยๆ จนเรารู้สึกดีขึ้นหรือถ้าไม่ไหวจริงๆก็ต้องกินยานะ เลยไปหาหมอปรึกษาโน่นนี่นั่นก็ดีขึ้น แต่หนูรู้สึกว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเรา

ตัวกระตุ้นแพนิคคือเรื่องอะไร ?

มินนี่ : หนึ่งคือตอนนั้นเราปรับตัวไม่ทัน คุณหมอพูดว่าอาจจะเป็นเพราะเราเดินทางตลอด เราไม่ได้อยู่เป็นที่ เป็นหลักเป็นแหล่งค่ะ เราไม่ได้อยู่บ้านหรือที่ๆ เรารู้สึกว่ามันปลอดภัยพอที่จะเป็นบ้านเรา มันเลยรู้สึกไม่ปลอดภัย อันนี้มีสิทธิ์ว่าเป็นสิ่งที่กระตุ้น สองคือก็น่าจะคนเยอะ เหมือนโชว์ปีแรกเรายังโชว์ที่เวทีเล็กๆ ซึ่งมันแออัดมากไม่มีพื้นที่ระหว่างเรากับคนดู คือค่อนข้างอยู่ไกลมากๆ ค่ะ แล้วเราอาจจะแบบรู้สึกว่ามันใกล้เกินไป

ความเป็น Perfectionist เกี่ยวไหม ?

มินนี่ : เกี่ยวมากค่ะ คุณหมอพูดว่าคุณต้องใจดีกับตัวเอง เพราะว่าเหมือนคุณกดดันตัวเองมากเกินไป ก็น่าจะเป็นตัวกระตุ้นที่เยอะค่ะ มันไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเอง (ร้องไห้) คือหนูโชคดีที่ว่าคนรอบข้าง มีเพื่อนที่ดี มีทีมงานที่ดีที่เขาพร้อมจะสนับสนุนเรา มีเมมเบอร์ที่ดีพร้อมจะสนับสนุนเรา แต่ว่าท้ายที่สุดเวลาเรากลับบ้านนอน เราก็อยู่กับตัวเองไง มันคือตัวเราเองที่ต้องดึงตัวเองขึ้นมา ดังนั้นหนูรู้สึกว่าต้องใจดีกับตัวเองเยอะๆ อันนี้สำคัญมากๆ

มีอะไรที่เราดูแลจัดการกับตัวเอง คุณได้เรียนรู้อะไร ?

มินนี่ : หนูว่าความคิดสำคัญมาก ๆ ค่ะ คือถ้าเราเปลี่ยนความคิดของตัวเองได้ หรือยอมรับความเป็นตัวเองได้ มันดีขึ้นจริงๆ รู้สึกเลยว่าบางทีเราต้องยอมรับ สมมุติวันนี้คุณทำผิดไม่โอเคก็ยอมรับว่าใช่ ก็มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่เป็นไร ครั้งหน้า พรุ่งนี้เอาใหม่ ยอมรับแล้วก็พร้อมที่จะ Move On ให้ได้ ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไปเรากลับไปแก้ไขไม่ได้ แล้วก็สนุกกับโมเมนต์ต่างๆ ได้มากขึ้น ดีใจที่ก้าวผ่านมันมาได้รู้สึกเลยว่าข้างในเราโตขึ้นเยอะมาก รู้สึกว่าเราเห็นคุณค่าสิ่งต่างๆ หรือสิ่งที่มีอยู่ได้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมามัวแต่กังวลโน้นนี่จนลืมไปว่าสิ่งที่มีอยู่ ณ ตอนนี้เรามาไกลมากแล้วนะ คุณทำมันได้ดีแล้วนะตอนนี้คุณมีแฟนๆที่สนับสนุนขนาดนี้ ทั้งๆที่วันแรกเริ่มจากศูนย์ ยังมีเพื่อนๆ ยังมีเมมเบอร์ที่ดี มีครอบครัวที่คอยสนับสนุนแค่นี้คุณควรจะเห็นคุณค่าและรู้สึกดีกับมันได้แล้ว หนูรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมาที่จิตไม่อยู่กับตัว กลับมาอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น



แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค




แฟนๆตกใจหลังรู้! มินนี่ (G)I-DLE ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า-แพนิค


vvvvv
vvv
v





เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์