เเม่คูฮารา มาเเล้ว!! พูดถึงมรดกลูกสาว 300 ล้านบาท

คุณแม่ของคูฮารา (Goo Hara) ได้ออกมาพูดถึง กรณีที่ คูโฮอิน พี่ชายของไอดอลสาวและลูกชายของเธอฟ้องร้องคดีแบ่งมรดกครึ่งหนึ่งของคูฮารา

รายการ Spotlight ตอนที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ได้สัมภาษณ์คุณแม่ของคูฮารา ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องกับลูกชายของเธอเกี่ยวกับการแบ่งมรดกของคูฮารา

หลังจากคูฮาราเสียชีวิตไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พ่อแม่ของเธอได้รับส่วนแบ่งมรดกคนละครึ่ง ซึ่งด้านคุณพ่อได้ยกมรดกส่งตัวเองให้แก่คูโฮอินแล้ว แต่ฝั่งแม่ยังไม่มีทีท่าจะยกมรดกให้ทำให้คูอินโฮอ้างถึงสิทธิชอบธรรมในการรับมรดกตามข้อกฎหมายคดีแพ่งมาตรา 1008-2 (สัดส่วนของผู้เลี้ยงดู) เพื่อความยุติธรรมในการแบ่งมรดกให้กับผู้สืบสันดารร่วม กฎหมายระบุไว้ว่านอกจากผู้สืบสันดารสายตรงแล้ว มรดกต้องถูกจัดสรรให้กับผู้ดูแลและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินเหล่านั้น ซึ่งพี่ชายของคูฮาราบอกว่าคุณพ่อของพวกเขาได้ดูแลและจ่ายค่าใช้จ่ายในวัยเด็กให้กับทั้ง 2 คน และยังเป็นผู้ปกครองของคูฮาราหลังจากที่เธอเดบิวต์

คูฮารายังเคยบอกเอาไว้ในสัมภาษณ์ว่า คุณแม่ทิ้งเธอและคูโฮอินไปตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นคูฮาราอยู่ ป.2 ส่วน พี่ชายอยู่ ป.4 และไม่ได้ติดต่อกันเลยตลอด 20 ปีหลังจากนั้น ถึงแม้จะไม่มีสิทธิในการเป็นผู้ดูแลของคูฮารามาตั้งแต่ปี 2006 คูโฮอินเล่าว่าแม่ของเขามาที่งานศพของคูฮารา และยืนยันว่าจะเป็นเจ้าภาพงานศพของครอบครัว เขาเล่าว่าแม่ถ่ายวิดีโอในงานด้วยโทรศัพท์มือถือของเธอเพื่อเก็บหลักฐาน

แม่ของคูฮาราได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า "ฉันไม่ได้พยายามจะบันทึกภาพ ฉันแค่ไปถามโฮอิน และถามถึงจุดเจ้าภาพงานศพของครอบครัว พอฉันไปถามและพวกเขาไม่ให้ โฮอินและสามีเก่าของฉันเริ่มสร้างความวุ่นวาย ฉันไม่ได้พยายามจะถ่ายวิดีโอ ฉันแค่กดปุ่มในตอนนั้นแค่นั้น"

ส่วนเรื่องที่เธอนัดกับทนายความตั้งแต่งานศพยังไม่เสร็จสิ้น เธอบอกว่าเรื่องนี้เป็นคำแนะนำของป้าของคูฮารา คุณแม่บอกว่า "ฉันบอกให้ทนายทำหน้าที่ของพวกเขา ลูกฉันตายทั้งคนนะ จะมีมรดกหรือเงินอะไรที่มีค่ามากกว่านี้อีก? ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว ฉันไม่รู้จำนวนเงินด้วยซ้ำ อย่าเอาแต่ถามคำถามพวกนี้ซ้ำๆเลย มันเหนื่อยใจนะ"

เธอพูดต่อ "พ่อแม่แบบไหนที่ไม่อยากเลี้ยงลูกให้เติบโต? แต่ว่า ฉันมีปัญหาของตัวเองเหมือนกัน ตอนนั้นฉันไม่มีงาน ฉันจากมาพร้อมกระเป๋าเพียงใบเดียว ถึงแม้จะอยากเลี้ยงพวกเขามากแค่ไหน แต่ฉันพบว่าฉันในตอนนั้นไม่สามารถทำได้"

แม่ของคูฮาราพูดต่อ "มีคนบอกว่าฉันหนีเพราะว่าฉันนอกใจ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริง ฉันแค่ทำงานจนดึก ตอนที่กลับมาแล้วพบว่าอดีตสามีของฉันโกนหัวแล้วถือมีดมาพร้อมบอกว่าเขาจะฆ่าฉัน"

แต่เมื่อถามถึงเรื่องที่คุณแม่แอบมีชู้ซึ่งเขียนอยู่ในไดอารี่ของคูฮารา คนรู้จักของคูฮาราบอกว่า "คูฮารารู้ว่าแม่นอกใจ และแม่อยากไปเจอกับผู้ชายคนอื่น"

แม่ของคูฮาราชี้แจงข้อนี้ว่า "ฉันไม่ได้อยู่ๆก็โผล่มาพร้อมบอกต้องการเงินของลูกสาว ฮารามาหาฉัน เธออยากเจอแม่ของเธอ" จากนั้นคุณแม่ได้โชว์ภาพถ่ายที่เธอถ่ายคู่กับคูฮาราไว้เมื่อ 3 ปีก่อน

คุณแม่พูดถึงการพบกันในครั้งนั้นว่า "เราพูดถึงการได้กินอาหารดีๆด้วยกัน, ไปเที่ยวด้วยกัน และใช้เวลาด้วยกัน"

ด้านคูโฮอินได้ออกมาเปิดเผยว่า แพทย์ที่คูฮาราไปพบเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าแนะนำว่าให้คูฮาราพยายามเจอแม่ของเธอ คูโฮอินเล่าว่า "เมื่อปี 2017 น้องสาวของผมกินยาและได้รับการรักษาเรื่องโรคซึมเศร้า แต่ว่าอาการของเธอไม่ดีขึ้น พอลองค้นลงไปเรื่อยๆว่าสาเหตุของอาการของเธอมาจากไหนอันดับแรกที่เจอเลยคือเรื่องแม่ ทีมแพทย์เลยแนะนำ [ให้น้องสาวของผมไปเจอแม่] แต่พอไปเจอแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ผมคิดว่าเพราะน้องสาวไปเจอ [แม่] แล้วพบว่า [แม่] พยายามหาประโยชน์จากตัวเธอเท่าที่จะทำได้"

คนรู้จักอีกคนบอกว่า แม่ของคูฮาราอาศัยอยู่ใกล้พอที่จะสามารถเดินทางมาหา 2 พี่น้องได้ แต่เธอไม่เคยทำ "เธออาศัยอยู่ไม่ไกลจากลูกๆ การมาหาคงไม่ได้ยากลำบาก แค่เธอเปิดประตูหัวใจ แต่เธอเอาแต่พูดว่า ‘พวกเขาไม่คิดถึงฉันเลย' เธอรู้เรื่องฮาราทุกอย่างว่าโตมาอย่างไร และบอกคนอื่นไปทั่วว่าเธอคือแม่ของฮารา ลูกๆของเธอไม่อยากเชื่อในเรื่องที่เธอทำ"

คูโฮอินได้พูดถึงมรดกของเขาว่าเขาจะบริจาคให้กับครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวและเด็กฝึกหัดที่ยากลำบาก ซึ่งแม่ของฮาราบอกว่าถ้าลูกชายทำแบบนั้นเธอก็มีแผนจะทำด้วย

คูโฮอินบอกว่า "ด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ ผมอยากจะก่อตั้งมูลนิธิและช่วยเหลือหลายๆเรื่อง ถ้าเธอ [แม่] ยืนยันว่าจะทำด้วย ผมก็จะคอยดูว่าเธอจะก่อตั้งมูลนิธิและบริจาคเงินไหม"

คูโฮอินยังเรียกร้องให้มีกฎหมายคูฮารา เพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายการรับมรดก หวังให้ในอนาคตจะไม่มีครอบครัวใดมีปัญหาเช่นเดียวกับพวกเขาอีก ถึงแม้คำร้องจะมีผู้ร่วมลงชื่อเห็นด้วยถึง 1 แสนรายชื่อแล้ว และถูกเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรแต่ทว่ายังไม่ผ่านมติในการประชุมสภาครั้งที่ 20 ล่าสุดที่ผ่านมา

สภาเห็นด้วยว่าจะมีการแก้ไขกฎหมาย และเปลี่ยนแปลงระบบทั้งหมดของกฎหมายมรดก แต่ตอนนี้ร่างกฎหมายยังไม่ผ่านการเห็นชอบ โจจงอน ทนายความของคูโฮอินบอกว่าพวกเขายังมีความหวังว่าร่างกฎหมายนี้จะผ่านในการประชุมสภาครั้งที่ 21