เปิดประวัติ จู จีฮุน:จากเจ้าชายเย็นชา สู่ว่าที่ราชาที่ไม่ทิ้งประชาชน
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราเกาหลี เปิดประวัติ จู จีฮุน:จากเจ้าชายเย็นชา สู่ว่าที่ราชาที่ไม่ทิ้งประชาชน
หลังจากจบซีรีส์ซีซันแรกไปอย่างค้างคา ในที่สุด Kingdom ตำนานผีดิบโชซอนก็กลับมาในซีซัน 2 แล้ว พร้อมด้วยเนื้อเรื่องเข้มข้นที่รอแฟน ๆ มาติดตามต่อ แต่ก่อนจะไปสตรีมดูเรื่องใหม่กันแบบไม่ได้หลับได้นอน
เรื่องราวของพระเอกอย่าง จู จีฮุน (Joo Jihoon) ก็เข้มข้นและดรามาไม่แพ้ในซีรีส์ เพราะเขาเคยเอี่ยวมาทั้งแล้วเรื่องยาเสพติด และข่าวภาพหลุด จู จีฮุน พระเอกที่มีกราฟชีวิตสุดสวิงคนนี้มีดีอะไร ทำไมเขาถึงยังยืนอยู่ในวงการได้ต่อ?
จู จีฮุน เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ปี 1982 ด้วยความสูงถึง 187 เซนติเมตร ทำให้ปี 2003 เขาได้มีโอกาสก้าวเข้ามาอยู่ในวงการนายแบบ แถมยังเรียกได้ว่าเป็นนายแบบที่มาแรงสุด ๆ เพราะมีแบรนด์ดังมากมายพยายามแย่งตัวเขาไปเป็นพรีเซนเตอร์ จู จีฮุน เคยได้รับรางวัล Best Dresser Model Award หรือนายแบบที่แต่งตัวดีที่สุดประจำปี 2005 ก่อนเขาจะเริ่มต้นหันมาเข้าสู่อาชีพนักแสดงในปี 2006
เรียกได้ว่าต้องไปอำเภอกันเลยทีเดียว เพราะผลงานละครที่เขารับบทนำเรื่องแรกอย่าง เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา (Princess Hours) ทำให้ จู จีฮุน ในบทบาทองค์ชาย ลี ชิน สามารถแจ้งเกิดในวงการเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมในปีเดียวกันนั้น เขายังคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดนิยม จากเวที MBC Performance Award Ceremony ไปครองได้อีกด้วย ชื่อเสียงที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่นี้ ทำให้ จู จีฮุน ขึ้นแท่นกลายเป็นดาราคิวทองของวงการที่มีงานอื่น ๆ ตามมาไม่ขาดสาย
เรื่องราวของพระเอกอย่าง จู จีฮุน (Joo Jihoon) ก็เข้มข้นและดรามาไม่แพ้ในซีรีส์ เพราะเขาเคยเอี่ยวมาทั้งแล้วเรื่องยาเสพติด และข่าวภาพหลุด จู จีฮุน พระเอกที่มีกราฟชีวิตสุดสวิงคนนี้มีดีอะไร ทำไมเขาถึงยังยืนอยู่ในวงการได้ต่อ?
จู จีฮุน เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ปี 1982 ด้วยความสูงถึง 187 เซนติเมตร ทำให้ปี 2003 เขาได้มีโอกาสก้าวเข้ามาอยู่ในวงการนายแบบ แถมยังเรียกได้ว่าเป็นนายแบบที่มาแรงสุด ๆ เพราะมีแบรนด์ดังมากมายพยายามแย่งตัวเขาไปเป็นพรีเซนเตอร์ จู จีฮุน เคยได้รับรางวัล Best Dresser Model Award หรือนายแบบที่แต่งตัวดีที่สุดประจำปี 2005 ก่อนเขาจะเริ่มต้นหันมาเข้าสู่อาชีพนักแสดงในปี 2006
เรียกได้ว่าต้องไปอำเภอกันเลยทีเดียว เพราะผลงานละครที่เขารับบทนำเรื่องแรกอย่าง เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา (Princess Hours) ทำให้ จู จีฮุน ในบทบาทองค์ชาย ลี ชิน สามารถแจ้งเกิดในวงการเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมในปีเดียวกันนั้น เขายังคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดนิยม จากเวที MBC Performance Award Ceremony ไปครองได้อีกด้วย ชื่อเสียงที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่นี้ ทำให้ จู จีฮุน ขึ้นแท่นกลายเป็นดาราคิวทองของวงการที่มีงานอื่น ๆ ตามมาไม่ขาดสาย
น่าเสียดายที่กราฟชีวิตของพระเอกชื่อดัง ที่ดูเหมือนกำลังขาขึ้นสุด ๆ ต้องมาสะดุดอย่างแรง ด้วยข้อหาการใช้ยาเสพติดในเดือนเมษายน ปี 2009 เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมพร้อมของกลางร่วมกับคนในวงการบันเทิงอีก 2 คน โดยก่อนหน้านี้ จู จีฮุน เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง
ครั้งนี้เพราะเขาถูกจับพร้อมของกลางแบบคาหนังคาเขา จู จีฮุน จึงถูกศาลกลางกรุงโซลตัดสินให้จำคุก 6 เดือน และรอลงอาญาอีก 1 ปี เขายังต้องเสียค่าปรับอีก 360,000 วอน และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่อสังคมรวม 120 ชั่วโมงด้วย
เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อในตอนนั้นไว้ว่า
"ผมรู้สึกเสียใจกับความผิดที่ตัวเองได้ทำลงไปอย่างสุดซึ้ง ในฐานะของคนที่ได้กระทำเรื่องแบบนั้นลงไป ช่วงเวลานั้นผมไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตนเองได้ จนต้องลงท้ายด้วยการทำร้ายความรู้สึกของทุก ๆ คน ผมขอสาบานว่าผมจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก"
"เมื่อ 1 ปี 2 เดือนก่อน เขาได้ใช้สารเสพติดอย่างยาอีและยาเค ซึ่งเพราะ จู จีฮุน เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ส่งผลให้การกระทำของเขาส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก" ทนายของ จู จีฮุน กล่าว "อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี 2 เดือนที่ผ่านมา จู จีฮุน ไม่ได้คิดอยากกระทำความผิดอีก อีกทั้งเรายังได้รายชื่อคำร้องจากแฟน ๆ ให้ลดโทษของเขาจากทั้งในและนอกประเทศ" นี่จึงเป็นเหตุผลให้คณะลูกขุนตัดสินใจลดโทษให้เขาครึ่งหนึ่ง จาก 1 ปี เหลือเพียง 6 เดือน
ด้านคนในวงการที่ถูกจับร่วมกันอย่างนักแสดงสาว ยุน ซอลฮี (Yoon Seol Hee) ภายหลังก็ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี รอลงอาญา 4 ปี เพราะมีคดีลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเกาหลี ส่วนนายแบบ เย ฮักยอง (Ye Hak Young) ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย ต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน พร้อมรอลงอาญา 3 ปี งานนี้เรียกได้ว่าเป็นข่าวสะเทือนวงการ ที่ทำเอาบรรดาแฟนคลับต่างตะลึงกันไปทั้งแถบ
จากพระเอกดาวค้างฟ้าก็ร่วงลงมากระแทกพื้นอย่างแรง เพราะ จู จีฮุน ถูกแบนจากสถานีโทรทัศน์ใหญ่ ๆ อย่าง MBC และ KBS จนไม่มีงานเข้ามาเลย หลังจากที่เขารับโทษและบำเพ็ญประโยชน์ครบตามที่ศาลตัดสิน จู จีฮุน ก็ต้องเข้ากรมรับใช้ชาติพอดี นั่นแปลว่าเป็นเวลา 3 ปีเต็ม ๆ ที่ไม่มีหน้าของ จู จีฮุน อดีตเจ้าชายเย็นชาบนหน้าจอโทรทัศน์ช่องไหนอีก
ครั้งนี้เพราะเขาถูกจับพร้อมของกลางแบบคาหนังคาเขา จู จีฮุน จึงถูกศาลกลางกรุงโซลตัดสินให้จำคุก 6 เดือน และรอลงอาญาอีก 1 ปี เขายังต้องเสียค่าปรับอีก 360,000 วอน และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่อสังคมรวม 120 ชั่วโมงด้วย
เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อในตอนนั้นไว้ว่า
"ผมรู้สึกเสียใจกับความผิดที่ตัวเองได้ทำลงไปอย่างสุดซึ้ง ในฐานะของคนที่ได้กระทำเรื่องแบบนั้นลงไป ช่วงเวลานั้นผมไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตนเองได้ จนต้องลงท้ายด้วยการทำร้ายความรู้สึกของทุก ๆ คน ผมขอสาบานว่าผมจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก"
"เมื่อ 1 ปี 2 เดือนก่อน เขาได้ใช้สารเสพติดอย่างยาอีและยาเค ซึ่งเพราะ จู จีฮุน เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ส่งผลให้การกระทำของเขาส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก" ทนายของ จู จีฮุน กล่าว "อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี 2 เดือนที่ผ่านมา จู จีฮุน ไม่ได้คิดอยากกระทำความผิดอีก อีกทั้งเรายังได้รายชื่อคำร้องจากแฟน ๆ ให้ลดโทษของเขาจากทั้งในและนอกประเทศ" นี่จึงเป็นเหตุผลให้คณะลูกขุนตัดสินใจลดโทษให้เขาครึ่งหนึ่ง จาก 1 ปี เหลือเพียง 6 เดือน
ด้านคนในวงการที่ถูกจับร่วมกันอย่างนักแสดงสาว ยุน ซอลฮี (Yoon Seol Hee) ภายหลังก็ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี รอลงอาญา 4 ปี เพราะมีคดีลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเกาหลี ส่วนนายแบบ เย ฮักยอง (Ye Hak Young) ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย ต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน พร้อมรอลงอาญา 3 ปี งานนี้เรียกได้ว่าเป็นข่าวสะเทือนวงการ ที่ทำเอาบรรดาแฟนคลับต่างตะลึงกันไปทั้งแถบ
จากพระเอกดาวค้างฟ้าก็ร่วงลงมากระแทกพื้นอย่างแรง เพราะ จู จีฮุน ถูกแบนจากสถานีโทรทัศน์ใหญ่ ๆ อย่าง MBC และ KBS จนไม่มีงานเข้ามาเลย หลังจากที่เขารับโทษและบำเพ็ญประโยชน์ครบตามที่ศาลตัดสิน จู จีฮุน ก็ต้องเข้ากรมรับใช้ชาติพอดี นั่นแปลว่าเป็นเวลา 3 ปีเต็ม ๆ ที่ไม่มีหน้าของ จู จีฮุน อดีตเจ้าชายเย็นชาบนหน้าจอโทรทัศน์ช่องไหนอีก
ถ้าเป็นคนทั่วไปก็อาจไม่มีที่ยืนในสังคมไปแล้ว แต่สำหรับ จู จีฮุน คงเรียกได้ว่าฆ่าไม่ตายจริง ๆ เพราะหลังจากออกจากกรมมาในปี 2011 เขาก็ได้รับโอกาสให้แสดงในหนังย้อนยุคแนวคอเมดี้เรื่อง I Am the King (2012) ต่อด้วยดราม่าซีรีส์ Five Fingers (2012) ที่มีบทบาทต่างกันสุดขั้ว แต่เพราะเขาก็ยังถ่ายทอดออกมาได้ดี ปีถัดมา จู จีฮุนจึงคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดนิยมจาก APAN Star Awards ปี 2013 มาไว้ในครอบครองได้
ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี จู จีฮุน สามารถกอบกู้ชื่อเสียงนักแสดงคุณภาพของเขากลับมาได้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานละครออกมาทุกปีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Medical Top Team (2014) และ Mask (2015) เขายังมีผลงานภาพยนตร์อย่าง Confession (2014), The Treacherous (2015) และ Asura: The City of Madness (2016)
ช่วงปีนี้เองที่เขาได้มีโอกาสคบหาดูใจกับนักร้องสาว กาอิน (Gain) จากวงเกิร์ลกรุ๊ป Brown eyed girls หลังจากได้ร่วมงานกันในเอ็มวีเพลง Fxxk U แต่ก็ต้องมีข่าวออกมาให้เป็นที่ฮือฮาในพื้นที่สื่ออีกจนได้ เพราะคืนหนึ่งในเดือนเมษายนปี 2016 จู่ ๆ ก็มีภาพวาบหวิวของชายหญิงสองคนว่อนเต็มโลกโซเชียลไปหมด ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันว่า ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนกับนักร้องสาวกาอินมาก ๆ ภาพที่หลุดออกมาจึงถูกคาดการณ์ว่าอาจจะหลุดออกมาจากมือถือของ จู จีฮุน หรือเปล่า?
แม้ว่าข่าวครั้งนั้น ทั้งต้นสังกัดของกาอินและจูจีฮุนจะออกมาตอบโต้อย่างรวดเร็วว่าไม่ใช่ภาพของทั้งคู่ แต่ช่วงต้นปี 2017 เขาก็ยังมีข่าวว่าแยกทางกับกาอิน หลังเธอถูกเรียกสอบปากคำว่าเสพกัญชาซ้ำเข้ามาอีก ชื่อเสียงของ จู จีฮุน จึงเรียกได้ว่ามีอันด่างพร้อยเสียหายกันไปอีกหน
โชคดีที่คราวนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เสียสมาธินาน เพราะหลังจากนั้น จู จีฮุน ก็กลับมาโฟกัสกับงานจนไม่มีข่าวใด ๆ ออกมาในวงการอีก ชื่อเสียงของเขาค่อย ๆ กลับมาไต่ระดับความพีคขึ้นไปเรื่อย ๆ และปังสุด ๆ จากบทบาท เฮ วอนเมก ยมทูตสุดกวนจากภาพยนตร์ Along with the Gods: The Two Worlds ในปี 2017 หนังที่มีกระแสมาแรงจนกวาดรายได้ไปกว่า 108 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการอนุมัติให้สร้างภาคสองชื่อ Along with the Gods: The Last 49 Days (2018) ที่ทุบสถิติยอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุดกว่า 6 แสนใบ เราจึงอาจกล่าวได้ว่าสาเหตุที่จู จีฮุนมาได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะฝีมือที่ไม่ธรรมดาของเขาด้วย
ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี จู จีฮุน สามารถกอบกู้ชื่อเสียงนักแสดงคุณภาพของเขากลับมาได้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานละครออกมาทุกปีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Medical Top Team (2014) และ Mask (2015) เขายังมีผลงานภาพยนตร์อย่าง Confession (2014), The Treacherous (2015) และ Asura: The City of Madness (2016)
ช่วงปีนี้เองที่เขาได้มีโอกาสคบหาดูใจกับนักร้องสาว กาอิน (Gain) จากวงเกิร์ลกรุ๊ป Brown eyed girls หลังจากได้ร่วมงานกันในเอ็มวีเพลง Fxxk U แต่ก็ต้องมีข่าวออกมาให้เป็นที่ฮือฮาในพื้นที่สื่ออีกจนได้ เพราะคืนหนึ่งในเดือนเมษายนปี 2016 จู่ ๆ ก็มีภาพวาบหวิวของชายหญิงสองคนว่อนเต็มโลกโซเชียลไปหมด ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันว่า ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนกับนักร้องสาวกาอินมาก ๆ ภาพที่หลุดออกมาจึงถูกคาดการณ์ว่าอาจจะหลุดออกมาจากมือถือของ จู จีฮุน หรือเปล่า?
แม้ว่าข่าวครั้งนั้น ทั้งต้นสังกัดของกาอินและจูจีฮุนจะออกมาตอบโต้อย่างรวดเร็วว่าไม่ใช่ภาพของทั้งคู่ แต่ช่วงต้นปี 2017 เขาก็ยังมีข่าวว่าแยกทางกับกาอิน หลังเธอถูกเรียกสอบปากคำว่าเสพกัญชาซ้ำเข้ามาอีก ชื่อเสียงของ จู จีฮุน จึงเรียกได้ว่ามีอันด่างพร้อยเสียหายกันไปอีกหน
โชคดีที่คราวนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เสียสมาธินาน เพราะหลังจากนั้น จู จีฮุน ก็กลับมาโฟกัสกับงานจนไม่มีข่าวใด ๆ ออกมาในวงการอีก ชื่อเสียงของเขาค่อย ๆ กลับมาไต่ระดับความพีคขึ้นไปเรื่อย ๆ และปังสุด ๆ จากบทบาท เฮ วอนเมก ยมทูตสุดกวนจากภาพยนตร์ Along with the Gods: The Two Worlds ในปี 2017 หนังที่มีกระแสมาแรงจนกวาดรายได้ไปกว่า 108 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการอนุมัติให้สร้างภาคสองชื่อ Along with the Gods: The Last 49 Days (2018) ที่ทุบสถิติยอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุดกว่า 6 แสนใบ เราจึงอาจกล่าวได้ว่าสาเหตุที่จู จีฮุนมาได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะฝีมือที่ไม่ธรรมดาของเขาด้วย
ปี 2019 จู จีฮุน กลับมาท้าทายในบทบาทองค์ชายรัชทายาทอีกครั้ง คราวนี้เขารับบทเป็น ลีชาง องค์ชายที่ไม่ได้มีนิสัยเย็นชาเอาแต่ใจ หรือชอบใช้อำนาจแบบที่เคยเล่นมาอีก คาแรคเตอร์ของเขาคือเจ้าชาย loser ที่มักจะถูกมองข้ามและถูกกีดกันจากบัลลังก์ ความปรารถนาเดียวของเขาจึงเป็นการพิสูจน์ว่า เขาอยากจะเป็นผู้นำที่แตกต่างจากทุกคน และไม่ทอดทิ้งประชาชนเด็ดขาด
"ข้าแตกต่างจากพวกที่ทอดทิ้งคนพวกนี้ ข้าไม่มีทางทิ้งคนพวกนี้เด็ดขาด" องค์รัชทายาทลีชาง กล่าวใน Kingdom ซีซัน 1 ตอนที่ 4
แม้เรื่องเกี่ยวกับซอมบี้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรในโลกของภาพยนตร์ทุกวันนี้อีกแล้ว แต่ปมประเด็นทางการเมือง และเรื่องราวความหดหู่ ดราม่า บีบเค้นอารมณ์ ก็ยังเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผลงานจากเกาหลี ยังคงได้รับความนิยมในหมู่คอซีรีส์อยู่ ดูได้จากการตอบรับของแฟน ๆ ที่พากันร้องโอดโอยจากฉากจบในซีซันแรก และกระแสเรียกร้องให้รีบปล่อยซีซันสองมาด่วน เพราะค้างคาไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้สิ้นสุดการรอคอยกันเสียที เพราะ Kingdom ซีซัน 2 ได้ปล่อยออกมาให้รับชมกันทาง Netflix แล้ว แถม จู จีฮุน ยังเคยแกล้งสปอยล์กับแฟนคลับที่เข้ามาถามเรื่องย่อไว้ว่า "ไม่มีใครปลอดภัยในซีซันนี้"อีก ใครที่อยากรู้ว่าเรื่องราวต่อจากซีซันแรก จะดำเนินต่อไปอย่างไร และใครจะแข็งแกร่งพอที่จะรอดไปจนถึงตอนสุดท้าย หาคำตอบได้แล้ว ตอนนี้เลย
"ข้าแตกต่างจากพวกที่ทอดทิ้งคนพวกนี้ ข้าไม่มีทางทิ้งคนพวกนี้เด็ดขาด" องค์รัชทายาทลีชาง กล่าวใน Kingdom ซีซัน 1 ตอนที่ 4
แม้เรื่องเกี่ยวกับซอมบี้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรในโลกของภาพยนตร์ทุกวันนี้อีกแล้ว แต่ปมประเด็นทางการเมือง และเรื่องราวความหดหู่ ดราม่า บีบเค้นอารมณ์ ก็ยังเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผลงานจากเกาหลี ยังคงได้รับความนิยมในหมู่คอซีรีส์อยู่ ดูได้จากการตอบรับของแฟน ๆ ที่พากันร้องโอดโอยจากฉากจบในซีซันแรก และกระแสเรียกร้องให้รีบปล่อยซีซันสองมาด่วน เพราะค้างคาไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้สิ้นสุดการรอคอยกันเสียที เพราะ Kingdom ซีซัน 2 ได้ปล่อยออกมาให้รับชมกันทาง Netflix แล้ว แถม จู จีฮุน ยังเคยแกล้งสปอยล์กับแฟนคลับที่เข้ามาถามเรื่องย่อไว้ว่า "ไม่มีใครปลอดภัยในซีซันนี้"อีก ใครที่อยากรู้ว่าเรื่องราวต่อจากซีซันแรก จะดำเนินต่อไปอย่างไร และใครจะแข็งแกร่งพอที่จะรอดไปจนถึงตอนสุดท้าย หาคำตอบได้แล้ว ตอนนี้เลย
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom