จี จิน-เฮ องครักษ์พิทักษ์แดจังกึม

จี จิน-เฮ องครักษ์พิทักษ์แดจังกึม

ภาพนายทหารหนุ่มนาม มินจุงโฮ ยังคงติดตา แฟน ๆ ภาพยนตร์ละครโทรทัศน์เรื่องแดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ด้วยบุคลิกที่ดูอบอุ่น เป็นมิตร แต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งอยู่ภายใน เมื่อยามเผชิญเหตุการณ์ ต่าง ๆ นานา มีส่วนผลักดันให้ จี จิน-เฮ ที่รับบทใต้เท้า มินจุงโฮ ไม่เพียงโด่งดังคับประเทศเกาหลี แต่ยังกระฉ่อนไปทั่วเอเชีย รวมทั้งเมืองไทยบ้านเราด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้ว จี จิน-เฮ กำลังก้าวย่างจากดาราระดับเอเชียไปสู่ความเป็นดาราระดับโลก หลังจากปรากฏตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติครั้งที่ 62 ที่เมืองเวนิช ประเทศอิตาลี

เส้นทางชีวิตของ จี จิน-เฮ เริ่มต้นนับตั้งแต่ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปีค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ปัจจุบันสูง 178 เซนติเมตร หนัก 71 กิโลกรัม กรุ๊ปเลือดบี ชอบสะสมกล้องถ่ายรูป จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในด้านออกแบบโลหะ งานอดิเรกยามว่างชอบเล่นบาสเกตบอลและดำน้ำ อีกทั้งแต่งงานแล้วเมื่อปี 2547 กับแฟนสาวชื่อ ลี ซู-ยอน หลังจากที่ควงคู่กันมานานถึง 6 ปี เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกเมื่อปี 2542 จากการรับเล่นมิวสิกวิดีโอให้กับโช ซุง-บิน เพลง Like 3 Types of Movies หลังจากนั้นปี 2543 และ 2544 ก็มีงานละครในบทนักแสดงสมทบออกมามากมาย ได้แก่ Yuh Bi Suh, Sarang Ba Gen Nan Mol Ri, Four Sisters และ Best Geuk Jang

พระเอกหนุ่ม จี จิน-เฮ ได้รับบทนำเป็นครั้งแรกในละครร่วมทุนสร้างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเรื่อง Passing Rain เมื่อปี 2545 โดยร่วมแสดงกับเรียวโกะ โยเนกูระ นางเอกจากเรื่อง Artificial Beauty ปลายปีเดียวกัน จี จิน-เฮ มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง H ออกฉายที่เกาหลี ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขารับบทเป็นนักสืบ ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่เข้ามามีส่วนในการทำคดีของฆาตกรโหดฆ่าต่อเนื่องรายหนึ่ง ที่มีตัวอักษร H เป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาของคดีนี้

ปี 2546 เป็นปีที่จี จิน-เฮ ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในฐานะพระเอกที่มีละครเรตติ้งสูงถึงสองเรื่องซ้อนในปีเดียวกัน เรื่องแรก Love Letter ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ในละครเรื่องนี้ จี จิน-เฮ รับบทเป็นจุง วู-จิน ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของแพทย์ชื่อดัง แม่แท้ ๆ ของเขาหย่ากับพ่อ และหายตัวไป หลังจากที่ไปเมืองนอก แม้ว่าเขาจะเติบโตมาด้วยความฉลาด หน้าตาดี และอยู่ในครอบครัวที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย แต่ความรู้สึกถูกเมินเฉยจากพ่อและการถูกทรยศหักหลังจากแม่ ขณะที่เพื่อนรักก็กลายเป็นศัตรู ความรักของเขาทำให้เขากลายเป็นคนเฉยชา และหัวใจของเขาก็มอบให้โช อึน-ฮา เพียงคนเดียว

ละครอีกเรื่องของจี จิน-เฮ คือ Dae Jang Geum (แดจังกึม) ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี โดยละครเรื่องแดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวงนั้นเป็นเรื่องราวดัดแปลงจากเรื่องจริงของ จัง กึม ที่รับบทโดยลี ยอง-เอ แพทย์หญิงคนแรกของเกาหลีที่ต้องมาดูแลอาการเจ็บป่วยให้กับจักรพรรดิในช่วงศตวรรษที่ 16 นอกจากนี้ จี จิน-เฮ มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง If You Were Me ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เป็นการรวมผู้กำกับระดับแนวหน้าของวงการ มาทำภาพยนตร์สั้นที่มีเนื้อหากล่าวถึงสิทธิมนุษยชน ช่วงปี 2547 จี จิน-เฮ กลับมารับงานละครอีกครั้งแนวคอมเมดี้เรื่อง Miss Kims Making 1 Billion Won Project โดยเขารับเป็นปาร์ค มู-ยูล ช่างภาพหนุ่มจอมกะล่อนที่ต้องกลายมาเป็นสามีจำเป็น หลังพาเจ้าสาวแสนสวยหนีจากงานแต่งงาน

จี จิน-เฮ ยังมีผลงานภาพยนตร์แนวสงครามเรื่อง The Trigger อีกทั้งเมื่อปีที่แล้ว ก็มีงานละครในไต้หวันเรื่อง The 100th Bride และเรื่อง A Spring Day ซึ่งเรื่องนี้เป็นการนำละครญี่ปุ่นเรื่อง Heavens Coins มาสร้างใหม่ในฉบับเกาหลี ไม่เพียงแค่นั้น ความโด่งดังของจี จิน-เฮ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เขาได้รับบทนำในเรื่อง Perhaps Love ของผู้กำกับปีเตอร์ ชาน ส่งผลให้เขาต้องเดินทางไปยังประเทศจีนและอีกหลายประเทศเพื่อโปรโมตภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มีนักแสดงชั้นนำอย่างคาเนชิโร ทาเคชิ ร่วมงานด้วย และที่สำคัญ Perhaps Love ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอะคาเดมี อวอร์ด ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งคาดหมายว่า ชื่อของจี จิน-เฮ จะเริ่มเข้าสู่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก เชื่อได้ว่าสาวกแดจังกึมทั้งหลายคงเอาใจช่วยใต้เท้ามินจุงโฮให้ก้าวสู่ความสำเร็จ

วิษณุ ศิริอาชารุ่งโรจน์